เปิดให้ใช้บริการกันเป็นที่เรียบร้อยสำหรับ "Robinhood" แอปส่งอาหารน้องใหม่จากธนาคารไทยพาณิชย์
ถือเป็น "ฟู้ดเดลิเวอรี่สัญชาติไทย" ที่ก่อตั้งจากคนไทยเพื่อคนไทยจริง ๆ เพราะร้านอาหารไม่เสียค่าธรรมเนียมการใช้แพลตฟอร์ม
ทีนี้คำถามแรกที่ผมสงสัยก็คือพอร้านไม่ต้องบวกค่าธรรมเนียมแบบนี้ ราคาอาหารจะถูกลงมั้ย ค่าส่งละเป็นไง คนขับเยอะหรือเปล่าว
ไม่รอช้า... สายกินอย่างผมขอโหลดแอปมาลองพิสูจน์ม้าไว "Robinhood" ดูซักตั้ง แอปพร้อม ใจพร้อม ลุ๊ยยยยยย
เริ่มจากหน้าตาของแอปกันก่อนเลย ตัวแอปมาในโทนสีม่วงซึ่งคงหนีไม่พ้นสีของต้นกระกูลอย่าง SCB นั่นแหละ
ภายในแอปจัดเป็นระเบียบดีเชียว หาร้านง่าย โดยทางแอปจะให้เราเลือกสไตล์อาหารที่เราชอบกินก่อน น่าจะเอาไว้หาร้านมาแนะนำให้เรานั่นเอง
ซึ่งนอกจากร้านแนะนำสำหรับเรา ทางแอปก็มีการแบ่งหมวดหมู่ไว้ให้ ไม่ว่าจะเป็น ร้านฮิตติดชาร์ต, ร้านใจดีมีส่วนลด, ร้านอร่อยในตำนาน และหมวดอื่น ๆ อีกมากมาย
ไล่ลงมาล่าสุดของแอป จะเป็นการแบ่งประเภทของอาหารไปอีกระดับที่น่าสนใจ คือมีหมวดที่เป็นอาหารเพื่อสุขภาพ และอาหารตามสัญชาติด้วย ถือว่าช่วยให้หาร้านถูกใจได้ง่ายขึ้นเยอะเลย
ขั้นตอนการสั่งก็ตามสเตปเลยครับ คล้ายคลึงกับม้าไวสีอื่น ๆ ทั่วไป ทางแอปลำดับขั้นตอนไว้ให้เราทำตามได้ง่าย ๆ 6 ขั้นตอน ตามนี้เลยยยย
ทีนี้เรามาดูซิว่าหลังจากการใช้งานจริงของผมแล้ว "Robinhood" จะโดนใจ และมาแทนที่ม้าไวสีอื่น ๆ ของผมได้หรือเปล่า
- ความรวดเร็วในการให้บริการ : ด้วยความเป็นน้องใหม่ผมแอบคิดไว้แล้วว่าต้องมีคนส่งไม่เยอะเท่าไหร่
แต่ไม่เลย... ระบบตอบรับเร็วดี ผมลองสั่งทั้งหมด 3 ครั้ง จากทำเลใกล้ไกลที่แตกต่างกัน โดนเฉลี่ยใช้เวลารอไม่ถึง 5 นาทีทั้ง 3 ครั้ง
ถึงถ้าถามว่าเทียบกับเจ้าตลาดที่เป็นเบอร์ต้น ๆ ก็ยอมรับว่าแอบช้าอยู่บ้าง ซึ่งจุดนี้ต้องใช้เวลาแหละเนอะ ไว้มีคนขับมากขึ้นก็น่าจะไวขึ้นอย่างแน่นอน
- จำนวนร้านอาหาร : ด้วยข้อกำหนดที่เราทราบกันดีว่าร้านอาหารที่ไม่ได้ขึ้นห้างส่วนใหญ่มักจะถูกจำกัดให้สังกัดม้าไวได้เพียง 1 เจ้าเท่านั้น
แต่นี่เป็นการ เปิดโอกาสให้ร้านอาหารขนาดเล็ก ที่ไม่ได้เข้าร่วมม้าไวสีอื่น ๆ มาก่อนได้เข้ามามีส่วนร่วมในตลาดเดลิเวอรี่มากขึ้น ซึ่งปัจจุบันก็มีร้านเข้าร่วมแล้วกว่า 16,000 ร้าน
อันนี้ผมค่อนข้างประทับใจนะ บางทีกินแต่ร้านเดิม ๆ ก็เริ่มเบื่อ ในแอปโรบินฮู้ดจะมีร้านใหม่ ๆ ที่เราไม่เคยเห็นเดลิเวอรี่มาก่อนเพียบเลย
- ราคาอาหาร : นี่เป็นจุดที่ผมแปลกใจอยู่เหมือนกัน เพราะทางแอปไม่มีการคิดค่าธรรมเนียมจากทางร้าน เท่ากับค่าอาหารก็น่าจะถูกลงใช่มั้ยล่ะ
แต่ราคาอาหารส่วนใหญ่กลับมีราคาที่ใกล้เคียงเดิม ซึ่งผมว่าอาจจะเพราะร้านส่วนใหญ่อยากให้ราคาเป็นมารตฐานเดียวกันในการให้บริการเดลิเวอรี่ทุกเจ้า
เพราะฉะนั้นถ้าใครที่อยากอุดหนุนร้านค้ารายย่อยให้เค้าได้กำไรเต็มเม็ดเต็มหน่วยที่สุด การเลือกให้บริการโรบินฮู้ดก็น่าจะตอบโจทย์ดีครับ
- โปรโมชั่น : ส่วนลดหรือโปรโมชั้นนี่เป็นสิ่งที่ล่อตาและช่วยผมตัดสินใจได้เกือบทุกครั้งที่ใช้บริการเดลิเวอรี่เลยนะ
แต่ผิดคาด... แอปเพิ่มเปิดให้ใช้บริการสด ๆ ร้อน ๆ แต่ไม่มีโค้ดส่วนลด โค้ดส่งฟรีอะไรให้เลย อาจจะเพราะยังอยู่ในช่วงทดลองให้บริการก่อนนั่นแหละ
ไว้เปิดให้บริการเต็มรูปแบบและมีการทำการตลาดที่มากกว่านี้รับรองว่าโปรโมชั่นจะต้องทยอยมาแน่ ๆ เพราะยังไงมันก็ดึงดูดลูกค้าอย่างเราได้เสมอนี่เนอะ 555
- ส่วนลดพิเศษ : จะบอกว่าพิเศษก็ไม่รู้ว่าใช้คำถูกหรือเปล่า เพราะแม้แอปนี้จะยังไม่มีโค้ดส่วนลดโปรโมชั่นอะไรมาล่อตาล่อใจเรา
แต่ภายในแอปเราจะสังเกตแถบสีม่วง ๆ บางร้านว่า "ลด 8% ทุกเมนู" ซึ่งร้านส่วนใหญ่ก็เป็นร้านดังที่ผมเคยผ่านตาจากม้าไวสีอื่นมาก่อนด้วยนะ
ซึ่งการที่ระบุมาให้เลยว่าลดทุกเมนูในร้านแบบนี้ก็ตอบโจทย์ไปอีกแบบ ไม่ต้องมาซื้อครบชุด ซื้อครบเซทเพื่อเอาส่วนลดเหมือนแอปอื่น ๆ ครับ
- ค่าให้บริการจัดส่ง : เคยมั้ยบางทีร้านที่อยากกินอยู่ไกล๊ไกล จะสั่งมากินทีนี่ราคาค่าส่งแพงว่าค่าอาหารไปอี๊กกกก 55555
แต่แอปนี้มีทางออกให้ เพราะถ้าเราวางแผนดี ๆ สั่งอาหารในช่วง Off-Peak ก็จะมีราคาถูกกว่าค่าส่งอาหารในช่วงพีค
โดยช่วงพีคจะมี 2 ช่วงเวลาคือ 11.00 – 13.00 น. และ 17.00 – 19.00 น. ผมลองเปรียบเทียบราคามาให้ดูตามภาพด้านล่างนี้ละ
ผมว่าแนวคิดนี้ดีนะ... ช่วยให้ไรเดอร์มีงานทั้งวันด้วย จากที่ผมลองใช้ค่าบริการเริ่มต้นอยู่ที่ 9 บาทเอง ส่วนหลังจากนั้นก็คำนวณตามระยะทางครับผม
- ช่องทางการชำระเงิน : ตอนนี้ทางโรบินฮู้ดจะสามารถเลือกจ่ายเงินได้แค่ 2 แบบ คือผ่านทางแอป SCB easy และผ่านทางระบบบัตรเครดิตเท่านั้น
ซึ่งในอนาคตที่ผมทราบมาเห็นว่าจะมีระบบ Wallet (เติมเงินเก็บไว้ในแอป) เพิ่มขึ้นด้วย ส่งเสริมให้เป็นสังคมไร้เงินสดหรือ Cashless Society นั่นเอง
- ฝั่งร้านค้าดียังไง : จุดที่ผมว่าน่าจะตอบโจทย์ร้านค้ารายเล็กมากที่สุดก็คือระบบการจ่ายเงินจากโรบินฮู้ดให้ร้านค้านั้นใช้เวลาแค่ 1 ชั่วโมง!!!
ใช่แล้ว... ร้านค้าขนาดเล็กที่มาเข้าร่วมกับแอปนี้ส่วนใหญ่มักต้องการเงินหมุนในการแบกรับค่าใช้จ่ายในแต่ละวัน
ซึ่งเทียบกับแอปอื่นที่จ่ายคืนช้ากว่านี้ก็ทำให้ร้านต้องมีเงินทุนสำรองในการหมุนเวียน แต่สำหรับโรบินฮู้ดลูกค้าได้ของปุ๊ป อีกชั่วโมงร้านค้าได้เงินเข้าปั๊ปทันที
สรุป... จากการลองสั่งของตัวผมเองแล้วผมก็ค่อนข้างประทับใจนะ มีร้านให้เลือกเยอะไม่แพ้ม้าไวสีอื่น ๆ โดยตอนนี้เปิดทดลองใช้แค่ในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลก่อน
เรื่องค่าส่งอาหารพอสู้กับเจ้าอื่นได้ จุดด้อยคือยังไม่ค่อยมีโค้ดโปรโมชั่นมาล่อใจเท่าไหร่ แต่มีจุดเด่นตรงที่มีส่วนลดอาหารให้ 8% จากหลายร้าน
มีหลายร้านแปลกใหม่ให้เลือก ส่วนใหญ่เป็นร้านเล็ก ๆ ที่อร่อยและมีเสน่ห์แต่ไม่สามารถจ่ายค่า GP ได้ก็เลยไม่ได้เข้าร่วมสงครามม้าไวมาก่อน
อดใจรอกันอีกหน่อยเนอะ... ไว้เปิดให้บริการเต็มรูปแบบเมื่อไหร่ โปรโมชั่น โค้ดส่วนลดมากมาย ร้านอาหารใหม่ ๆ คงเข้ามาในระบบอีกมาก
ยังไงเพื่อน ๆ ชาวติดดอยก็อย่าลืมไปช่วยกันทดลองใช้ "Robinhood" แอปส่งอาหารน้องใหม่ของคนไทย เพื่อคนไทยกันล่ะ ถือเป็นทางเลือกใหม่ของผู้ชอบสั่งอาหารมากินที่บ้านเลยคร้าบบบ
Tag : Robinhood | แอปเพื่อคนตัวเล็ก | แอปเล็กๆแต่ตั้งใจทำ
เคยมีคนถามผมว่า "สมัยนี้ ยังสามารถสร้างคอนโดที่ไม่ใกล้รถไฟฟ้าได้ไหม?" ได้สิ เพราะแม้ว่าความใกล้ รถไฟฟ้า จะเป็น 1 ในปัจจัยหลักที่สำคัญมาก แต่มันก็ยังมีปัจจัยอื่นๆที่ "ขาย" ได้อยู่อีก
จะมีคอนโดปล่อยเช่าอยู่อันนึง ที่แม้แต่ตอนโควิดก็ไม่มีผลอะไร มีคนเช่าตลอดๆ แทบไม่มีช่วงว่าง บางครั้งคือ คนเก่าย้ายออกตอนเช้า ตอนเย็นคนใหม่ใส่หน้ากากอนามัยขนของเข้าอยู่ต่อเลย
หลังจากที่ผมถ่ายรูปห้องตัวอย่างใน Sales Gallery เสร็จ ผมก็หันไปบอกกับคุณบี ที่มาด้วยกัน เชื่อไหมว่า แป๊บๆ เดี๋ยวก็ Sold Out!!
หน้าร้อนซัมเมอร์มันก็ต้องคู่กับทะเล ผมฝันไว้เสมอนะว่าอยากมีคอนโดตากอากาศ แต่ปัญหาก็คือคอนโดติดทะเลส่วนใหญ่มีราคาแรงมาก
หลังจากปล่อย "KLOS Ratchada" ไปไม่นาน "Frasers Property" ก็ได้ฤกษ์เตรียมผุดคอนโดแบรนด์ KLOS แห่งที่ 2 ต่อทันทีครับ
นับตั้งแต่เมืองเริ่มขยายตัวออก พื้นที่ที่หลายคนเคยมองข้ามก็กลายเป็นว่าเริ่มเนื้อหอมขึ้นเรื่อยๆ
"Osaka Expo 2025" ตำนานบทใหม่ของญี่ปุ่น เปลี่ยนเกาะเทียมธรรมดาให้กลายเป็นเมืองขนาดย่อม
เทรนด์อาคารอนุรักษ์พลังงานยังคงมีมาให้เห็นกันเรื่อยๆ และล้ำหน้ามากขึ้นทุกวันๆ และหนึ่งในโปรเจ็คที่น่าตื่นตาตื่นใจและควรค่าให้หยิบมาพูดถึงกันในวันนี้คือ "505 State Street" ครับ
ในวินาทีที่ผมย่างเท้าเข้ามาชมห้องตัวอย่างของโครงการ "Amatara Residences Rayong" (อมาธารา เรสซิเดนเซส ระยอง) บอกตามตรงว่าแอบคิดลึกๆ ในใจว่า 'นี่มันอีกระดับของที่พักตากอากาศแล้ว'
หลังจากสร้างเสียงฮือฮาแก่ชาวโลกจากโครงการ The Line เมืองภายใต้กำแพงยักษ์จากประเทศซาอุดีอาระเบีย ซึ่งโครงการนี้เป็นอยู่ภายใต้โครงการ Neom ซึ่งเป็นโครงการที่ทางซาอุฯ หมายมั่นให้เป็นเมืองใหม่ที่มาจากโลกอนาคตนั่นเอง แต่มันจะหยุดอยู่แค่ The Line ไม่ได้ครับ เพราะขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองแห่งอนาคต ความล้ำจะต้องไปสุดกว่านี้ ล่าสุดทาง Neom ส่งอีก Golf Community มาเพิ่มอีก!!
เรากำลังจะมีสวนสนุกธีม Dragon Ball แห่งแรกของโลกแล้วครับ! แถมยังการันตีว่าใหญ่กว่าดิสนีย์แลนด์ด้วย!
ร้อนๆ แบบนี้ ถ้าได้เครื่องดื่มเย็นๆ สักแก้วดับร้อนนี่บอกเลยว่าสดชื่นมากกกกก ยิ่งถ้าได้เครื่องดื่มสไตล์ไทยๆ นี่แหละตอบโจทย์เลย!!!!