เมืองไทยเราขึ้นชื่อเรื่องอาหารการกินมาอย่างช้านาน ตัวผมเองก็เห็นด้วยเหมือนกัน พราะยึดคติ "เรื่องกินเรื่องใหญ่" มาตั้งแต่เด็กแล้ว สอดคล้องกับข่าวที่ผมจะนำมาฝากในวันนี้ ใครสายกินต้องห้ามพลาดกับงาน Fruitfull ที่ครั้งนี้ทางเอสซี แอสเสท เค้ากลับมาร่วมมือกันอีกครั้งกับ สแครทช์ เฟิร์สท์ 

        ถือเป็นครั้งแรกในรอบ50 ปี ที่ไม่มีการใช้พื้นที่เพื่อจัดกิจกรรมขนาดใหญ่ยังหมู่เรือนไทยไม้สักหกหลัง ณ พิพิธภัณฑ์บ้านจิม ทอมป์สัน โดยทีมงานวันเดอร์ฟรุ๊ต ได้สร้างสรรค์งานชื่อ ‘Fruitfull (ฟรุ๊ตฟูลล์)’ ด้วยการเปิดเรือนชานและสวนไม้ยืนต้นอายุนับร้อยปีต้อนรับผู้หลงใหลในเรื่องราวของอาหาร 

        โดยงานFruitfull (ฟรุ๊ตฟูลล์)เป็นการสะท้อนวัฒนธรรมทางอาหารซึ่งเป็นจุดแข็งแกร่งของคนไทยที่สร้างความยั่งยืนต่อการใช้ชีวิตในยุคปัจจุบันสู่อนาคต จุดเด่นของงานนี้จะเป็นการคัดสรรเชฟทั้งไทยและต่างชาติที่ได้รับดาวมิชลินการันตีคุณภาพมาร่วมในงาน รวมถึงกุ๊กจากร้านท้องถิ่นที่ได้รับความนิยม หรือพ่อครัวแม่ครัวจากร้านที่มีประวัติยาวนาน พร้อมกับยังมีร้านอาหารวัฒนธรรมย่อยที่ยังไม่เป็นที่รู้จักมาสร้างสรรค์ความพิเศษสำหรับงานนี้โดยเฉพาะ

        Exclusive Toh Jeen Dinner  ดินเนอร์มื้อพิเศษก่อนวันเริ่มงาน สำหรับคนสำคัญครอบครัว SC Asset ไม่กี่ครอบครัวในรูปแบบการจัดเสิร์ฟอาหารในสไตล์งานเลี้ยงโต๊ะจีน ที่ให้กลิ่นอายนานาชาติทั้งไทย จีน ฝรั่ง แต่ละเมนูสะท้อนถึงมรดกทางวัฒนธรรมอาหารรวมตัวเฉพาะกิจในครั้งนี้ จาก 6 เชฟชื่อดัง ได้แก่ ได้แก่ เชฟจากร้านศรณ์ (Sorn) ซูริง (Sühring) เอ็ทตี้ ทเวนตี้ (80/20) กา (Gaa) โซลฟู้ดมหานาคร (Soul Food Mahanakorn) และซาหมวย แอนด์ ซันส์ (Samuay & Sons) ซึ่งไม่เคยรวมกันมาก่อน ทำให้นับเป็นประสบการณ์พิเศษสุด

        ‘Chef’s Table’ การจัด Fine Dining เพื่อให้ได้มาสัมผัสความเป็นที่สุดแห่งการรังสรรค์เมนูสุดพิเศษ คอร์สอาหารที่ออกแบบร่วมกันระหว่าง เชฟต้น-ธิติฏฐ์ ทัศนาขจร หนึ่งดาวมิชลินจากร้านเลอดู (Le Du) และ เจ๊ไฝ-สุภิญญา จันสุตะ หนึ่งดาวมิชลินจากร้านเจ๊ไฝ ประตูผี ที่นำเสนอความแตกต่างที่ลงตัวของการผสมผสานอาหารไทยสไตล์สตรีทและอินโนเวทีฟเข้าด้วยกัน แบบ Sit Down Dinner 

        และอีกหนึ่งกิจกรรมไฮไลท์ที่ร่วมกับ Fruitfull ได้แก่ ‘Masterclass’ ซึ่งจะเชิญแขกพิเศษเข้าร่วมกิจกรรมคลาสเรียนจากเชฟชื่อดัง Napol “Joe” Jantraget and Saki Hoshino จาก 80/20 เพื่อร่วมชมและแสดงฝีมือการทำเมนูอาหารสูตรเด็ดที่เผยเคล็ดไม่ลับร่วมกับสุดยอดเชฟ 

        ภายในงานยังมีร้านสตรีทฟู้ดที่เรียงรายอยู่รอบบริเวณทางเดินในงาน พร้อมกับตลาดสินค้าอินทรีย์และของที่ระลึกต่างๆ โดยปฐมออร์แกนิค ผู้ดำเนินการตลาดสุขใจ ให้ผู้ร่วมงานได้สนุกกับการเดินเลือกซื้อสินค้าและช้อปปิ้งของฝากติดมือกลับบ้าน นอกจากนี้ยังมีเวิร์กช็อปอีกมากมาย รวมถึงการเปิดตัวหนังสือ Roads To Roam ที่ถ่ายทอดเรื่องราวของวัฒนธรรมอาหารผ่านมุมมองของเชฟเปาโล วิทาเลตติ และเชฟจาร์เรตต์ วริสลีย์ พร้อมกิจกรรมบันเทิงอื่นๆ อีกมากมายโดยจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 7-8 พฤศจิกายน 2563