เรื่องมันมีอยู่ว่า วันนั้นจิตใจผมแหลกสลายอย่างหนักหน่วงครับ
ผมพุ่งไปแถวๆ วงเวียน 22 กรกฎาย่านเยาวราชเพราะมีเป้าหมายอยากจะไปชิมกาแฟและเยี่ยมๆ มองๆ ร้านกาแฟน้องใหม่ร้านหนึ่งที่มีที่มาที่ไปน่าสนใจมาก
คิดว่าเออ การรีโนเวทร้านของเค้ารวมถึงดีไซน์ของตัวร้านมันน่าจะเหมาะกับลูกเพจเราดีนะ ก็เลยเช็คตารางเวลาเรียบร้อยก่อนจะเดินทางไปในทันที
ที่ไหนได้ ฝ่าแดดร้อนๆ ไปถึงแล้วกลับพบว่าร้านปิด! เหมือนคนอกหักยืนอยู่กลางแดดร้อนๆ ของกรุงเทพมหานคร ผมหันมองซ้ายขวา รู้สึกมึนงงไปพักหนึ่งว่า "ตูควรเอาไงต่อดีฟะ"
สุดท้ายเลยเดินต่อไปเรื่อยๆ คิดในใจว่างั้นก็ลองหาร้านอื่นที่ไม่เคยเข้ามาทดแทนเอาละกัน
ขึ้นชื่อว่าย่านนานา-เยาวราชนี่ไม่ขาดแคลนคาเฟ่อยู่แล้ว เวลาเที่ยงๆ เกือบบ่ายโมง สุดท้ายผมก็มาหยุดอยู่ที่ร้านหนึ่ง
เป็นคาเฟ่โอสเทลที่เตะตาผมมานานละ และก่อนหน้านี้ผมก็ได้ยินชื่อเสียงร้านเค้ามาเหมือนกัน สรุปก็เลยตัดสินใจ สาวเท้าก้าวเข้าไปในร้านนี้แหละ!
"103 Bed & Brews" เป็นคาเฟ่โอสเทลที่ตั้งอยู่ปากซอยนานา ติดถนนพระราม 4 ไม่ไกลจากวงเวียน 22 กรกฎา ร้านอยู่ระหว่างสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีหัวลำโพงและสถานีวัดมังกรครับ
อาจจะเพราะตำแหน่งที่ร้าน "103 Bed & Brews" อยู่นั้นเป็นซอยนานาที่ภายในตรอกนอกจากจะเต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ที่สุดแสนจะเป็นเอกลักษณ์แล้ว ยังเป็นตรอกที่เต็มไปด้วยร้านขายยาจีนกับยาสมุนไพรต่างๆ ทำให้ตัวร้านมันดูกลมกลืนไปกับอัตลักษณ์ของย่านนี้มากเลย
การออกแบบและการตกแต่งของร้านถ้ามองจากด้านนอกอาจจะไม่ให้ความรู้สึกเหมือนโฮสเทลเท่าไหร เพราะออกไปในลักษณะของโรงน้ำชามากกว่า
บรรยากาศรอบๆ ร้านเองก็คลาสสิกถูกใจหนุ่มสาวฮิปๆ มีป้ายร้านเป็นตัวเลขจีนปนเลขอารบิก ได้กลิ่นอายความเป็นไทยจีนแซมด้วยตะวันตกนิดๆ ครับ
ผมลองหาข้อมูลดูแล้วพบว่าร้านนี้เดิมทีเคยเป็นร้านขายยาจีนมาก่อน และพอแปลงโฉมใหม่เป็นคาเฟ่โอสเทลเลยกลายมาเป็นร้านที่ให้บรรยากาศอบอุ่นกับความเป็นเปอรานากันเข้ามาด้วย
ร้านไม่ได้ออกมาแบบจีนจ๋าครับ อย่างที่บอกไปว่ามันมีทั้งความเป็นไทย จีน และตะวันตกแซมเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นประตูบานเฟี้ยม ประตูเหล็ก ช่องลมโบราณ โต๊ะไม้ เก้าอี้กลม โซฟาหนัง โถงยาดอง สัตว์สต๊าฟ หรือกระด้งสมุนไพรจีนก็มีหมด
ร้านเน้นความเป็นโถงกว้าง ด้านหลังเป็นเคาน์เตอร์กาแฟที่ออกแบบมาให้มีหน้าตาเหมือนเคาน์เตอร์ร้านขายยาจีน และด้านหลังเป็นบันไดขึ้นไปโซนห้องพัก
โซนคาเฟ่ร้านนี้มีเครื่องดื่มครอบคลุมทุกความต้องการของลูกค้าเลย แต่เน้นเสิร์ฟเมนู Cold Brew ที่ราคาไม่แรง ส่วนของกินก็มีทั้งคาวและหวาน ไทย จีน ฝรั่งให้เลือกสรรกันเลยครับ
ว่าแล้วก็เริ่มเปิดเมนูสั่งเลยดีกว่า
ขอเริ่มด้วยซิกเนเจอร์เมนูอย่าง Coffee Tonic - Som Jeed ที่ผมสั่งมาเพราะอยากหาอะไรมาคลายร้อนช่วยให้ตื่นในเวลาตะวันตรงหัวแบบนี้
เมนูนี้เป็นกาแฟโคลด์บรูว์ผสมกับไซรัปส้มและใส่โซดาเข้ามาอีกนิด ดื่มง่ายมาก หอมกลิ่นของกาแฟ และตื่นด้วยรสของส้มได้พอดี
กาแฟอีกแก้วขอเป็นเบสิคหน่อยอย่าง Ice Mocha ที่ตัวนี้ก็แก้กระหายได้ดีเหมือนกัน รูปร่างหน้าตาก็สวยเชียว
แต่รสชาตินั้นเราอาจจะได้รสของความเป็นช็อกโกแลตมาข่มกาแฟไปนิด ยังไงก็ตามข้อดีคือไม่หวานครับ บางร้านติดทำกาแฟหวานไปหน่อย แต่มอคค่าของที่นี่คุมรสหวานได้ดีทีเดียว
เมนูสุดท้ายสำหรับใครที่ไม่ดื่มกาแฟ เลือกเป็น Hojicha Tea ก็ได้นะ
สำหรับแก้วนี้หอมกลิ่นชามากกกก สีใสๆ นวลๆ ไปหน่อย แต่รสชาติก็โอเคเลยทีเดียว แต่ต้องโน้ตไว้ตรงนี้ว่าแก้วนี้ได้มาปุ๊บควรดื่มเลย ถ้าปล่อยให้ละลายอาจได้รสที่เพี้ยนไปจากเดิม เพราะแก้วนี้มีรสที่ไม่หวาน ปล่อยให้ละลายไปจะพลาดของดีได้ครับ
ของว่างที่สั่งมาเป็นซาลาเปากับหมูสะเต๊ะชุดนึง
ตัวซาลาเปานั้นผมคิดว่าไม่ได้ตื่นตาตื่นใจเท่าไร (แอบราคาแรงไปนิดด้วย) แต่หมูสะเต๊ะนั้นให้ผ่าน
ตัวหมูสะเต๊ะอาจไม่ได้ดีเลิศมาก เพราะร้านที่ดีเยี่ยมในใจผมย่อมเป็นร้านเตาถ่านแบบรถเข็นอยู่แล้ว 55555 แต่ก็ถือว่าดีเกินคาดนะ
น้ำจิ้มหมูสะเต๊ะกับอาจาดที่ให้เคียงมาก็อร่อยดี หยิบกันคนละไม้สองไม้ หนุบหนับๆ แวบเดียวก็หมดจาน
ใครที่เบื่อการดื่มกาแฟแกล้มของหวาน ก็ลองแวะมาดื่มกาแฟแกล้มซาลาเปาเคล้าบรรยากาศแบบร้านยาจีน รายล้อมไปด้วยชุมชนเปี่ยมเสน่ห์ที่เป็นเอกลักษณ์ของย่านนี้ได้ที่ซอยนานา คาเฟ่เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00 – 22.00 น. เลยครับผม
Tag :
เคยมีคนถามผมว่า "สมัยนี้ ยังสามารถสร้างคอนโดที่ไม่ใกล้รถไฟฟ้าได้ไหม?" ได้สิ เพราะแม้ว่าความใกล้ รถไฟฟ้า จะเป็น 1 ในปัจจัยหลักที่สำคัญมาก แต่มันก็ยังมีปัจจัยอื่นๆที่ "ขาย" ได้อยู่อีก
จะมีคอนโดปล่อยเช่าอยู่อันนึง ที่แม้แต่ตอนโควิดก็ไม่มีผลอะไร มีคนเช่าตลอดๆ แทบไม่มีช่วงว่าง บางครั้งคือ คนเก่าย้ายออกตอนเช้า ตอนเย็นคนใหม่ใส่หน้ากากอนามัยขนของเข้าอยู่ต่อเลย
หลังจากที่ผมถ่ายรูปห้องตัวอย่างใน Sales Gallery เสร็จ ผมก็หันไปบอกกับคุณบี ที่มาด้วยกัน เชื่อไหมว่า แป๊บๆ เดี๋ยวก็ Sold Out!!
หลังจากปล่อย "KLOS Ratchada" ไปไม่นาน "Frasers Property" ก็ได้ฤกษ์เตรียมผุดคอนโดแบรนด์ KLOS แห่งที่ 2 ต่อทันทีครับ
นับตั้งแต่เมืองเริ่มขยายตัวออก พื้นที่ที่หลายคนเคยมองข้ามก็กลายเป็นว่าเริ่มเนื้อหอมขึ้นเรื่อยๆ
ตัวจริง Comeback แล้วจ้าาา พี่สิบหมื่น หรือ แสนสิริ ส่งคอนโดใหม่ บุกย่านสวนพลู กับโครงการ HAUS Nang Linchee (เฮ้าส์ นางลิ้นจี่) ตอนนี้ล้อมไวนิลเรียบร้อยแล้วด้วย
"Osaka Expo 2025" ตำนานบทใหม่ของญี่ปุ่น เปลี่ยนเกาะเทียมธรรมดาให้กลายเป็นเมืองขนาดย่อม
เทรนด์อาคารอนุรักษ์พลังงานยังคงมีมาให้เห็นกันเรื่อยๆ และล้ำหน้ามากขึ้นทุกวันๆ และหนึ่งในโปรเจ็คที่น่าตื่นตาตื่นใจและควรค่าให้หยิบมาพูดถึงกันในวันนี้คือ "505 State Street" ครับ
ในวินาทีที่ผมย่างเท้าเข้ามาชมห้องตัวอย่างของโครงการ "Amatara Residences Rayong" (อมาธารา เรสซิเดนเซส ระยอง) บอกตามตรงว่าแอบคิดลึกๆ ในใจว่า 'นี่มันอีกระดับของที่พักตากอากาศแล้ว'
หลังจากสร้างเสียงฮือฮาแก่ชาวโลกจากโครงการ The Line เมืองภายใต้กำแพงยักษ์จากประเทศซาอุดีอาระเบีย ซึ่งโครงการนี้เป็นอยู่ภายใต้โครงการ Neom ซึ่งเป็นโครงการที่ทางซาอุฯ หมายมั่นให้เป็นเมืองใหม่ที่มาจากโลกอนาคตนั่นเอง แต่มันจะหยุดอยู่แค่ The Line ไม่ได้ครับ เพราะขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองแห่งอนาคต ความล้ำจะต้องไปสุดกว่านี้ ล่าสุดทาง Neom ส่งอีก Golf Community มาเพิ่มอีก!!
เรากำลังจะมีสวนสนุกธีม Dragon Ball แห่งแรกของโลกแล้วครับ! แถมยังการันตีว่าใหญ่กว่าดิสนีย์แลนด์ด้วย!
ร้อนๆ แบบนี้ ถ้าได้เครื่องดื่มเย็นๆ สักแก้วดับร้อนนี่บอกเลยว่าสดชื่นมากกกกก ยิ่งถ้าได้เครื่องดื่มสไตล์ไทยๆ นี่แหละตอบโจทย์เลย!!!!