ปีนี้อาจจะเป็นปีที่ยากลำบากสักหน่อยสำหรับตลาดที่พักอาศัยประเภทคอนโดมิเนียม และนักพัฒนาโครงการต่างๆ ก็หันมาดูตลาดแนวราบประเภทบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวเฮ้าส์กันมากขึ้น

        แต่ทางไนท์แฟรงค์บอกว่าตลาดบ้านที่ระดับราคาตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไปยังเป็นตลาดที่ค่อนข้างเล็ก อุปทานที่เข้ามาในแต่ละปีก็ยังไม่มากนักครับ ในระยะเวลา 9 เดือนของปีนี้พบว่ามีใบอนุญาตจัดสรรที่ดินในกลุ่มบ้านที่มีระดับราคา 10 ล้านบาทขึ้นไปอยู่ที่ 1,170 หลังเท่านั้น

        ในเรื่องของอุปสงค์ทำการวัดจากโครงการบ้านที่ยังเปิดขายในปัจจุบันพบว่าบ้านระดับราคาตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไปที่เปิดขายมีทั้งสิ้น 257 โครงการ มีจำนวน 17,933 หลัง และมีจำนวนที่ขายแล้วรวม 11,211 หลัง คิดเป็นอัตราการขายที่ร้อยละ 63 ซึ่งเป็นจำนวนหน่วยขายเพิ่มขึ้นทุกปีตั้งแต่ปี 2558 โน่นแน่ะ

        ถ้าให้จำแนกตามระดับราคาบ้านในโครงการที่เปิดขายอยู่ในปัจจุบันพบว่าบ้านที่มีระดับราคาขายระหว่าง 10-20 ล้านบาท มีจำนวนหน่วยขายสะสมสูงสุดอยู่ที่ 5,906 หลังนะ ส่วนอัตราการขายอยู่ที่ร้อยละ 59 ของอุปทานรวม รองลงมาคือบ้านที่มีระดับราคาขายระหว่าง 21–30 ล้านบาท และ 31-40 ล้านบาท มียอดขายรวมอยู่ที่ 2,290 หลัง และ 1,625 หลัง มีอัตราการขายอยู่ในอัตราร้อยละ 69 และ 67 ของอุปทานรวมครับ

        น่าสนใจตรงที่บ้านที่มีอัตราการขายที่สูงสุดก็คือบ้านที่ราคาสูงกว่า 100 ล้านบาทครับ คือมีอัตราการขายอยู่ที่ร้อยละ 78 นั่นเป็นเพี่ะอุปทานที่มีอยู่จำกัด คือมีเพียง 418 หลังเท่านั้น

        ผมว่าการพัฒนาขยายเส้นทางรถไฟฟ้าสายใหม่ๆ เองก็เป็นแรงผลักดันอย่างหนึ่งเหมือนกันนะ เดี๋ยวในอนาคตการเดินทางจากนอกเมืองเข้ามาในเมืองก็ง่ายขึ้นแล้ว คนเองก็หันไปซื้อบ้านกันได้อย่างสบายใจมากขึ้นนั่นแหละ