หลังจากการกลับมาระบาดอีกครั้งของโควิด-19 วงการอสังหาที่ลุ่มๆ ดอนๆ อยู่แล้ว ผมว่าก็มีใจหวิวกันอีกรอบครับ แต่ในเมื่อปีนี้มีประสบการณ์แล้ว ไม่แน่ว่าปีหน้าอาจจะสามารถรับมือได้ก็ได้นะ

        ทาง “ฮาบิแทท กรุ๊ป” เองหลังจากตัดสินใจขายทิ้งที่ดินใจกลางเมืองทิ้งก็หันมาเจาะกลุ่ม "Vacation Home" และอสังหาสำหรับลงทุนปล่อยเช่าแทน โดยการผนึกเชนจ์โรงแรม เมืองท่องเที่ยวเป็นหลัก 

        ทางนี้เค้าบอกให้จับตาตลาดครับ แถมที่สำคัญคือมองว่าต่อจากนี้ไปมันไม่ใช่แค่การสร้างขายแล้วจบแล้วล่ะ ยิ่งไปกว่านั้นคือทุนพัฒนาต้องสูงขึ้นแน่นอน ทางออกคือต้องรุกจับพันธมิตรหลายด้าน รวมไปถึงการนำร่องกลุ่มสุขภาพที่กำลังเป็นเทรนด์ในตอนนี้มาเสริมทัพสู้ด้วยอีกแรง

        ในเรื่องของการซื้อขาย เค้ามองว่าน่าจะเกิดขึ้นช่วงปลายไตรมาส 3 ต่อเนื่องไปยังไตรมาส 4 ตามทิศทางการเปิดประเทศครับ ถึงแม้ว่าตลาดจะอยู่ในภาวะหน่วง แต่ผู้ประกอบการรายใหญ่ทั้งหลายก็จำเป็นต้องเข็นโครงการใหม่ออกขายนะ จะไปเลื่อนเปิดหรืออั้นเอาไว้ก่อนเหมือนเดิมไม่ได้แล้ว

        ส่วนรายกลางและรายเล็ก ฮาบิแททมองว่ามีโอกาสเฝ้าดูสถานการณ์ตลาดครับ อย่างตลาดคอนโดฯ ระดับราคา 2.5 แสนบาท/ตร.ม. นั้นในเรื่องของการซื้อขายเองน่าจะนิ่งและไม่หวือหวาเหมือนก่อนแล้ว โดยเฉพาะตลาดลงทุนโซนทองหล่อ สุขุมวิท ที่มีซัพพลายเหลือเยอะทีเดียว

        ส่วนแผนงานปีหน้าของฮาบิแททเค้าเน้นผลักดันโปรดักต์ Lifestyle Invesment ต่อ และดึงเชนจ์โรงแรมต่างๆ เข้ามาเสริม ให้น้ำหนักไปที่แบรนด์ "เรสซิเดนซ์" เตรียมเปิดใหม่ 2 โครงการในทำเลพัทยา โซนนาจอมเทียนและวงค์อมาตย์ ซึ่งอันนี้อาจเป็นได้ทั้งรูปแบบเรสซิเดนซ์หรือกึ่งวิลล่าครับ

        ยังไงก็ตามถ้าสถานการณ์คลี่คลายลงแล้ว ทั้งดีมานด์หรือการลงทุนจากต่างชาติก็น่าจะกลับมาคึกคักครับ โดยเฉพาะโครงการรูปแบบการที่ทำการร่วมทุนกับต่างชาติเนอะ สู้กันต่อครับ!