อันนี้น่าสนใจนะ เห็นว่าตอนนี้เงินฝากท่วมแบงก์แล้ว เพราะว่าการระบาดของโควิด-19 นั้นทำให้ธนาคารกลางของประเทศต่างๆ เค้าประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายกันติดๆ กันเลย

        พอปรับลงมากเข้าเลยทำให้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยโลกจากที่ต่ำลงแล้วก็ยิ่งต่ำลงไปใหญ่เลยครับ ไทยแลนด์ก็ไม่รอดเหมือนกัน แต่เห็นว่าธนาคารพาณิชย์ 10 แห่งของบ้านเรามียอดเงินฝากสิ้นปี 2563 เพิ่มขึ้น 1.6 ล้านล้านบาท แตะที่ระดับ 14 ล้านล้าน แต่ก็สวนทางกับสินเชื่อที่ขยับขึ้น 9.5 แสนล้านบาทครับ

        สรุปก็คือตอนนี้มีวงเงินคงค้างทั้งสิ้น 13 ล้านล้านบาท เงินฝากขยายตัวเพิ่ม เพราะธนาคารส่วนใหญ่ไม่ได้ปล่อยสินเชื่อในระบบมากเท่าไหร่

        นอกจากนั้นคือการเพิ่มขึ้นของเงินฝากก็เป็นการโยกย้ายเงินฝากจากบัญชีฝากประจำไปไว้ในบัญชีเงินฝากออมทรัพย์และเงินฝากประเภทจ่ายคืนเมื่อทวงถามครับ

        สำหรับธนาคารที่มีสัดส่วนเงินฝากออมทรัพย์สูงก็อย่างทางธนาคารกรุงไทยและกสิกรไทยที่มีสัดส่วนเงินฝากออมทรัพย์ 74% ไทยพาณิชย์ 73% กรุงเทพ 51% และกรุงศรีอยุธยา 47% ประมาณนี้นะ

        เห็น “ฐานเศรษฐกิจ” บอกว่าที่ยอดเงินฝากในบัญชีเงินฝากประจำของบางธนาคารปรับลดลงมาจากการลดอัตราดอกเบี้ย เพื่อลดต้นทุนดอกเบี้ยเงินฝาก แถมไม่มีแคมเปญเงินฝากประจำ ลูกค้าก็เลยกลับไปฝากเงินในบัญชี CASA ที่เริ่มเติบโตมากขึ้นนี่แหละ

        ปีนี้เลยกลายเป็นว่าเงินฝากเป็นแหล่งพักเงินที่ปลอดภัยของภาคธุรกิจและประชาชนอย่างเราๆ กันแล้วครับ ถึงจีดีพีปีนี้จะกลับมาเป็นบวก แต่ความต้องการสินเชื่อขั้นพื้นฐานจากภาคธุรกิจคงยังไม่กลับมาเร็วนักหรอก จับตาดูกันต่อไปพี่น้อง