ผมอาจจะช้ากว่าคนอื่นไปเสียหน่อย แต่เพิ่งรู้ว่าชั้น 6 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี เค้ามีโซน Co-Living Space เจ๋งๆ อยู่ด้วย!
พอดีวันก่อนไปเดินโซน B2S ThinkSpace แถวเซ็นทรัล ชิดลมเข้าพอดี เดินไปเดินมารู้อีกทีก็มาโผล่ที่นี่แล้ว
ผมงี้ว้าวไปเลยนะ ตอนเห็นแค่ในภาพก็รู้สึกว่าน่าสนใจแล้ว แต่พอได้มาเห็นเองกับตาจริงๆ แล้วก็ตกหลุมรักเหมือนสาวน้อยวัยใสขึ้นมาทันทีเลยครับ 5555
ถ้าลองขึ้นบันไดเลื่อนมาที่ชั้น 6 ปุ๊บ จะเจอพื้นที่ที่เรียกว่า "OPEN HOUSE" คอยกวักมือล่อหลอกเราอยู่ที่ทางขึ้นบันไดเลื่อน
อย่างที่บอกไปว่าที่นี่คือ Co-Living Space ที่ให้เราไปใช้งานได้ตามแต่ไลฟ์สไตล์ของเราเลย จะเป็นแหล่งพบปะเรียนรู้ สังสรรค์กับบรรดาเพื่อนฝูงหรือครอบครัวก็ได้ทั้งนั้น ไปหาโซนนั่งเงียบๆ คนเดียวก็เหมาะเหม็งครับ
ไปหาข้อมูลมาถึงได้รู้ว่าที่นี่เป็นทางเซ็นทรัล เอ็มบาสซี ร่วมมือกับ Klein Dytham Architecture ที่เป็นบริษัทออกแบบชั้นแนวหน้าจากญี่ปุ่น
มีคอนเซ็ปต์การออกแบบไปที่ ความโปร่งสบายใกล้ชิดธรรมชาติ และที่สำคัญคือใช้งานได้จริงครับ ถึงว่าสิสไตล์มันดูเก๋ๆ มีกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นแฝงอยู่ไม่น้อย
ตั้งแต่โควิด-19 ระบาดนี่การดำเนินชีวิตเราก็เปลี่ยนไปครับ หลายๆ ที่เองก็เริ่มปรับแผนให้พนักงานสามารถทำงานแบบ Work From Home ได้แบบยาวๆ
เพราะงั้นผมเลยรู้สึกว่าพื้นที่ของ OPEN HOUSE นั้นเหมาะกับการนั่งทำงานนอกบ้านหรือนอกออฟฟิศมากจริง
เพราะนอกจากจะให้เราได้นั่งทำงานกันยาวๆ แล้ว ที่นี่ยังมีกาแฟหอมกรุ่นและอาหาร คอยพร้อมเสิร์ฟให้เราอิ่มท้องเสมอด้วยนะ (อันนี้เสียตังค์นะคร้าบบบ 5555)
ครีเอทีฟสเปซบนพื้นที่กว่า 7,000 ตารางเมตรแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ชั้นบนสุด เพราะงั้นเลยได้แสงธรรมชาติจาก Skylight ให้บรรยากาศโปร่งโล่งมากขึ้น บวกกับการ Match คู่สีที่ดูแล้วสบายตา แทรกสีเขียวจากต้นไม้เข้าไปอีกหน่อย แฝงกลิ่นอายญี่ปุ่นสไตล์มินิมอล
มองไปก็เจอแต่ชั้นหนังสือ แต่กลับไม่ได้ทำให้รู้สึกอึดอัดเลยแม้แต่นิด
นอกจากนี้เค้าไม่ได้แยกโซนชัดเจนครับว่าตรงนั้นเป็นร้านอาหาร ตรงนี้เป็นคาเฟ่ ตรงนี้เป็นชั้นหนังสือ แต่เลือกที่จะฟีเจอร์ริ่งร้านอาหารกับร้านหนังสือมารวมกัน พูดง่ายๆ คือ แทรกพื้นที่กิน ดื่ม และเล่นเอาไว้อย่างกลมกลืนไปหมด
สำหรับ OPEN HOUSE นั้นแบ่งพื้นที่กิจกรรมออกเป็น 8 โซนหลักครับ แต่ทุกอย่างจะกลืนกันไปหมด
Eating Deck – โซนอาหาร กึ่ง Self-Service มีหลากหลายร้านให้เลือกชิมกัน ทั้งของคาวของหวาน ซื้อเสร็จก็สามารถเอามานั่งทานที่โต๊ะที่จัดวางให้รอบๆ ได้
Eat by the Park – ร้านอาหารแบบ Full Service มีที่นั่งตรง Open Balcony ริมหน้าต่าง กินไปชมวิวกรุงเทพฯ ไปได้ครับ
Open House Bookshop by Hardcover – ความจริงถือได้ว่าเป็นโซนหลักเลยก็ว่าได้ เพราะตั้งแต่ย่างเท้าเข้ามาเราจะเห็นชั้นหนังสือเล็กใหญ่แทรกอยู่เต็มไปหมด มีทั้งร้านหนังสือ, ชั้นหนังสือ, ที่อ่านหนังสือ ที่สำคัญคือมี Book Tower และ Book Wall ให้จมอยู่กับกองหนังสือได้แบบฟินๆ
ส่วนตัวผมชอบ Shelf หนังสือสองชั้นของที่นี่มาก เพราะด้านบนเป็นชั้นลอยเหมือนที่ต่างประเทศเป๊ะ ขึ้นไปด้านบนแล้วสามารถมองเห็นทุกส่วนของพื้นที่ด้านล่างได้อีกด้วยนะ
Co-Thinking Space – โซนนี้มีไว้สำหรับประชุมหรือคุยงานกันได้ครับ แต่ว่าเป็นโซนที่ไม่ฟรี พูดง่ายๆ คือต้องเสียตังค์ซื้อแพ็คเกจเอา จะจองเป็นรายชั่วโมงหรือรายวันก็ว่าไป
Art Tower – โซนนี้เป็นแกลลอรี่แสดงงานศิลปะทั้งไทยและเทศครับ เอาไว้ให้เราหาแรงบันดาลใจเพิ่มเติม พื้นที่ไม่ใหญ่มาก แต่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาจัดแสดงตลอด อยู่ตรงเจ้ากล่องขาวๆ ตรงกลางนั่นแหละ
Design Shop – ใครอยากหาซื้องานอาร์ตงานคราฟต์ต่างๆ ก็มาดูตรงนี้ได้ครับ มีงานหลากหลายรูปแบบให้เลือกหากัน ทั้งงานเซรามิก งานไม้ เฟอร์นิเจอร์ เครื่องเขียน ของที่ระลึก เครื่องประดับ ฯลฯ
Open Playground – ใครมีลูกมีหลานก็เอามาเล่นตรงนี้ได้เลย เพราะโซนนี้เป็นสนามเด็กเล่นขนาดย่อมให้เด็กๆ เล่นแก้เบื่อ
Diplomat Screens Embassy by AIS – มีโรงหนังด้วยครับ เห็นว่าเป็นโรงหนังในโปรแกรม "ภัณฑารักษ์ภาพยนตร์ (Movie Curator)" สามารถฉายภาพยนตร์ตามความต้องการเฉพาะบุคคลได้ ยังไม่เคยลองเหมือนกันว่าเป็นยังไง
ถือว่าเป็นพื้นที่ที่ผมชอบมากเลยล่ะ ไปวันธรรมดารู้สึกว่าคนไม่เยอะเท่าไหร่ สเปซที่มีก็สามารถตอบโจทย์คนได้ทุกเพศทุกวัยจริงๆ
ใครที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศ ผมว่าลองไปนั่งที่นี่ดูได้นะ เพราะว่าไม่เก็บบริการ ยกเว้นในส่วนของ Co-Thinking Space และร้านอาหาร เหมาะกับคนที่อยากนัดเพื่อนมาเจอหรืออยากปลีกตัวมาอยู่คนเดียวในพื้นที่สบายๆ แต่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
ลืมบอกไปว่าหนังสือกว่า 20,000 เล่มของที่นี่นั้นเค้าให้อ่านฟรีจริงๆ ครับ เพียงแต่ว่าห้ามถ่ายเนื้อหาในหนังสือ
ส่วนมาก 80% คือหนังสือต่างประเทศ และส่วนใหญ่จะเน้นไปทางแนว Art & Design เพราะงั้นสายอาร์ตมาเดินที่นี่ผมว่าเหมือนเจอสวรรค์แน่ๆ (แต่ว่าพวกหนังสือการ์ตูนก็มีเยอะนะ ผมยังไปนั่งอ่าน Attack on Titan อยู่เลย 5555)
ยิ่งไปกว่านั้นคือหนังสือพวกนี้คัดมาแล้วจากสำนักพิมพ์ทั่วโลก หลายๆ เล่มจึงเป็น Limited Edition ไปหาในร้านหนังสือทั่วไปไม่ได้ง่ายๆ
ใครอยากได้เป็นเจ้าของก็ซื้อได้นะ พูดง่ายๆ คือมันเป็นร้านหนังสือขนาดใหญ่ที่ให้คนอ่านฟรีก่อนซื้อแล้วแทรกร้านอาหารเข้าไปนั่นแหละ
เอาเป็นว่าใครที่ทำงานอยู่ใจกลางเมืองแล้วอยากเปลี่ยนบรรยากาศการทำงาน หรือใครที่อยากใช้เวลาในวันหยุดแบบที่ไม่ต้องไปคาเฟ่ก็ลองแวะมาที่ OPEN HOUSE ชั้น 6 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี ได้นะครับ รับรองเลยว่าต้องตกหลุมรักเหมือนผมแน่ๆ
Tag :
ผมนั้นเป็นคนที่ชอบไปพักผ่อนที่ต่างจังหวัดทุกๆ 1-2 เดือน เพื่อเติมพลังงานให้กับตนเอง และครอบครัว ผมไม่แน่ใจว่า ถือว่าไปเที่ยวบ่อยไหม แต่ "คุณบี คอนโดติดดอย" ก็มักจะแซวอยู่บ่อยๆนะ 555
มีโอกาสเห็นรูปถ่ายส่วนกลางของ 'Atmoz รัชดา-ห้วยขวาง' ผ่านตามาบ้าง พร้อม Caption ประมาณว่า 'เดินดูส่วนกลางจนเหนื่อย' .... งั้นก็ไปที่นี่แหละ อยากรู้ว่าจะเหนื่อยสักแค่ไหน
ตั้งแต่ BTS สถานีห้าแยกลาดพร้าว ได้เปิดเก็บเงินผู้ใช้บริการอย่างเป็นทางการ ก็มีจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ส่งเข้ามาที่เพจกันหลายฉบับ สะท้อนให้เห็นว่า "ลาดพร้าว" จัดเป็นทำเลที่โดนใจของใครหลายคน
หลังจากที่ผมพาไป "The Muve" แบรนด์ใหม่แกะกล่องจากพี่สิบหมื่น ในทำเล รัชดาและรามฯ มาแล้ว ซึ่งวันนี้ก็มาถึงคิวของบางนาแล้วครับ
ปีนี้ "แสนสิริ" เปิดคอนโดแบรนด์ใหม่ แถมปล่อยมาทีเดียว 4 ตัว 4 ทำเล แถมแต่ละทำเลก็น่าเล่นทั้งนั้นครับ แบรนด์ใหม่ที่ว่านี้น่าจะพอเห็นผ่านตากันมาบ้างแล้วล่ะ
สืบเนื่องมากจากโลกทวิตภพ ผมไปเจอเข้ากับทวิตหนึ่งที่คุณเศรษฐาเค้าทวิตไว้ว่า เดี๋ยวจะมีโครงการใหม่ในย่าน รัชดา-ราม-เกษตร-บางนา กับแบรนด์ใหม่แกะกล่องอย่าง "The Muve"
ผมเอ๊ะนิดหน่อยที่ช่วงหลายวันมานี้ไทม์ไลน์ facebook แสดงโพสต์เกี่ยวกับ "สะพานเขียว" ให้เห็นแทบทุกวัน พอลองตั้งใจอ่านดูถึงได้รู้ว่าที่เอ๊ะนี่ก็เพราะรู้สึกคุ้นๆ หูครับ
เคยมั้ยครับ... เวลาไปเยี่ยมชมโครงการที่เริ่มก่อสร้าง ส่วนแรกที่เรามักจะเห็นความคืบหน้าก่อนก็คือ "โครงสร้างเหล็ก" ที่ทำหน้าที่เป็นส่วนสำคัญในการก่อสร้างนั่นเอง
ช่วงนี้อากาศร้อนมากกก บอกตามตรงว่าทุกวันนี้แทบจะไม่อยากขยับตัวไปไหนเลยนะ เข้าฤดู(โคตร)ร้อนแบบนี้ พาลให้นึกถึงเครื่องดื่มเย็นๆ กับบรรยากาศดีๆ เหมือนกันนะ
โปรเจ็คต์จากนิสิตคณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ที่น่าสนใจมากๆ นั่นคือการเปิดเว็บแอปพลิเคชันให้เราสามารถรับน้องหมาน้องแมวไม่มีเจ้าของไปเลี้ยงดูได้แบบออนไลน์!
ปลุกความกะหรี่ในตัวคุณ ร้านลับ ‘กะหรี่พัฟ’ กับ ‘ชิฟฟอน’ โคตรอร่อย โดยเฉพาะไส้มะพร้าว แต่อาหารคาวก็เด็ด ทั้ง อิตาเลียน ทั้งไทย อร่อยแบบตกใจและแปลกใจกับทำเลเลย
มันก็เคยเป็นเรื่องที่คิดกันเล่นๆ เนอะ ว่าสักวันเราจะออกไปค้างที่โรงแรมนอกอวกาศกันบ้าง สมัยนั้นก็ดูเป็นเรื่องไกลตัวไปหน่อย แต่ใครจะไปรู้ว่าไอ้วิทยาการพวกนี้มันจะเกิดขึ้นเร็วกว่าที่เราคิด