มันจะมีอยู่ประเทศหนึ่งครับ ที่ไม่ว่าอะไรก็ดีดี๊ดีไปหมด ดีจนหลายๆ ประเทศเค้าอิจฉา
ไม่ว่าจะเป็นการจัดอันดับเรื่องประเทศที่ประชากรมีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุด ประเทศที่มีระบบการศึกษาดีที่สุด ประเทศที่น่าอยู่ที่สุด ฯลฯ ล้วนแล้วแต่ต้องมีประเทศนี้ติดโพลมาด้วยเสมอ นั่นคือประเทศฟินแลนด์
ยิ่งไปกว่านั้นฟินแลนด์ยังเป็นอีกหนึ่งประเทศที่อยู่ในท็อปแรงก์หมวด "ดินแดนแห่งคนรักหนังสือ" อีกด้วย!
คนฟินแลนด์เค้ารักการอ่านหนังสือจริงๆ นะ เรียกได้ว่า "คลั่งไคล้" เลยก็ได้แหละ
อย่างช่วงปี 2016 มีข้อมูลจากสหประชาชาติที่บอกว่า ฟินแลนด์เป็นประเทศที่มีอัตราการรู้หนังสือสูงที่สุดในโลก และเป็นชาติที่มีอัตราการใช้บริการห้องสมุดประชาชนมากที่สุดในโลก หรือก็คือประชากร 5.5 ล้านคนยืมหนังสือเกือบ 68 ล้านเล่มต่อปี!
ต่อให้ยุคนี้การอ่านออนไลน์จะเริ่มเข้ามามีบทบาทแล้ว ห้องสมุดทั่วโลกต้องเผชิญกับปัญหาการตัดงบประมาณเพราะผู้ใช้บริการลดลง แต่ฟินแลนด์กลับสวนกระแสโดยสิ้นเชิง เพราะคนฟินแลนด์เค้าก็ยังชอบการอ่านหนังสือเป็นเล่มๆ ครับ ถือว่าเป็นประเทศที่มี "ห้องสมุด" อยู่ในใจกลางวัฒนธรรมเลยก็ว่าได้
พูดมาถึงตรงนี้แล้วผมก็นึกถึงโปรเจกต์ฉลองร้อยปีของฟินแลนด์ขึ้นมา ด้วยความที่ฟินแลนด์เป็นแดนดินถิ่นคนรักหนังสือ รัฐบาลเค้าเลยมอบของขวัญปีใหม่สุดล้ำค่าเป็นห้องสมุดแห่งใหม่ที่อัดแน่นไปด้วยความรู้ แถมขนาดยังมหึมาอีกต่างหาก
ห้องสมุดที่ว่านี้มีชื่อเต็มๆ ว่า "Helsinki Central Library Oodi" หรือเรียกสั้นๆ กันว่า "Oodi" เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม ปี 2018 ซึ่งเป็นวันฉลองครบรอบ 100 ปีการประกาศอิสรภาพของประเทศ (เผื่อใครไม่รู้ ฟินแลนด์เป็นประเทศที่มีอายุเพียงหนึ่งร้อยขวบปีกับอีกนิดหน่อยเท่านั้นครับ)
"Library Oodi" เป็นสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเฮลซิงกิ ตรงข้ามกับอาคารรัฐสภาฟินแลนด์ เงินลงทุนที่ใช้ไปนั้นอยู่ที่ราวๆ 100 ล้านยูโรหรือกว่า 3 พันล้านบาทครับ ซึ่งเงินส่วนนี้ก็มาจากภาษีประชาชนนี่แหละนะ
เรื่องน่าสนใจมันอยู่ตรงที่ ก่อนจะสร้างเค้าให้ประชากรโหวตก่อนว่าอยากได้อะไร ระหว่างพิพิธภัณฑ์ระดับโลกกับห้องสมุด
ผลปรากฏว่า...พวกเขาเลือกห้องสมุด
เป็นการตอกย้ำภาพลักษณ์ความเป็นประเทศแห่งการศึกษาจริงๆ ครับ เพราะสังคมฟินแลนด์มองว่าห้องสมุดคือรูปธรรมที่ชัดเจนของการศึกษา ความเท่าเทียม และการเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพ!
โครงการประกวดออกแบบของเค้าตอนนั้นก็ยิ่งใหญ่มากนะ เพราะเปิดรับแบบหลายร้อยชิ้นจากทั่วโลก คัดให้เหลือ 6 แบบเพื่อให้ชาวเมืองเลือกว่าพวกเขาอยากได้แบบไหน สุดท้ายผู้ชนะก็คือ ALA Architects บริษัทออกแบบสัญชาติฟินแลนด์ครับผม
ด้านใน "Library Oodi" อัดแน่นไปด้วยตำรานับหมื่นนับแสนเล่ม แต่ถ้ามีแค่หนังสือมันก็ดูน่าเบื่อไปหน่อย เค้าเลยใส่เทคโนโลยีที่เอื้อต่อการเรียนรู้เข้ามาผสมผสานกันไปด้วย
ไม่ว่าจะเป็นสตูดิโอเพื่อใช้ในการอัดเสียง ห้องชมภาพยนตร์ เครื่องตัดเลเซอร์ หรือพื้นที่สำหรับ 3D printers ให้ประชาชนได้ใช้ความครีเอทของตัวเองสร้างสรรค์ผลงานเฉพาะตัวออกมาได้อย่างเต็มที่ไปเลย
สำหรับชั้นล่างถูกจัดให้เป็นพื้นที่สำหรับโรงภาพยนตร์ มีห้องออดิทอเรียมอเนกประสงค์ รวมไปถึงร้านอาหารไว้คอยให้บริการ ในขณะที่ฝั่งชั้นสองเองจะเป็นโซนพักผ่อน พัฒนาทักษะ มีห้องสตูดิโอที่สามารถเข้าใช้งานได้ พื้นที่สำหรับเล่นเกม กระทั่งครัวก็มีให้เช่ากันในราคาถูกอีกต่างหาก!
เมื่อขึ้นมาจนถึงชั้นสาม เราจึงจะได้พบกับภาพคุ้นตาครับ นั่นคือพื้นที่สำหรับโซนอ่านหนังสือที่ก็เรียกได้ว่าตระการตาไม่เบา ที่นี่มีบรรณารักษ์หุ่นยนต์ทำหน้าที่ขนหนังสือไปยังชั้นหนังสือด้วยนะ แต่ที่ชอบคือเวลาที่จะยืมหนังสือไปอ่านก็ทำได้ฟรีไม่มีค่าบริการครับ
ด้วยความเจ๋งในฐานะของห้องสมุดแห่งอนาคต "Library Oodi" จึงได้รับเลือกจากสหพันธ์นานาชาติแห่งสถาบันและสมาคมห้องสมุด ให้เป็นหนึ่งในห้องสมุดแห่งปีประจำปี 2019 ด้วยครับ สมมงมากๆ
ความจริงห้องสมุดที่น่าตื่นตาตื่นใจในฟินแลนด์ยังมีอีกหลายที่นะ เพราะที่นี่เองก็มีห้องสมุดอยู่เยอะมากในแต่ละชุมชน แทนที่จะพูดว่าเป็นห้องสมุด ไม่สู้พูดว่าเป็นวิหารแห่งการรู้หนังสือดีกว่า 5555
ผมเองคิดว่าทาสหนังสือถ้ามีโอกาสได้ไฟฟินแลนด์ก็ควรจะแวะไปที่นี่สักครั้งครับ เพราะว่า "Library Oodi" นั้นคือตัวแทนของห้องสมุดแบบศตวรรษที่ 21 มากๆ
ห้องสมุดในความคิดเราคือต้องเงียบและเต็มไปด้วยหนังสือใช่มั้ยล่ะ แต่ที่นี่ไม่ได้มีแค่หนังสือ ไม่ใช่แค่พื้นที่ที่คนมาอ่านหนังสือ แต่เป็นพื้นที่ที่สามารถตอบสนองความต้องการของคนรุ่นใหม่ได้อย่างดีเยี่ยม
ไม่ว่าจะเป็นการพบปะ ทำงาน เลี้ยงดูบุตรหลาน พัฒนาทักษะดิจิทัล หรือทักษะการประกอบอาชีพก็ถูกรวบรวมเอาไว้ในพื้นที่ใหญ่ๆ แห่งนี้ที่เดียวครับ ตอบโจทย์และสร้างประโยชน์ได้อย่างยิ่งใหญ่ ไม่แปลกใจที่ทำไมมีคนมาต่อแถวใช้บริการกันทุกวัน
พูดถึงที่ไทย ถ้ามีห้องสมุดทำนองนี้อยู่เยอะๆ ก็คงดีเหมือนกัน เท่าที่คิดออก ห้องสมุดที่มีลักษณะคล้ายๆ กันนี้และดีไซน์เก๋ไก๋ของบ้านเราก็น่าจะเป็นห้องสมุดด้านความคิดสร้างสรรค์และการออกแบบของ TCDC เนอะ แต่ไม่แน่ใจว่าคนไปใช้บริการกันมากน้อยแค่ไหนเหมือนกัน
credit pic: archdaily.com
Tag :
นี่คือคอนโดที่ใกล้ "ลานชมเมืองภูเก็ต" บนเขารังมากที่สุด ทำให้คุณเห็นวิวเมืองภูเก็ตสวยๆตัดภูเขา ทะเล และท้องฟ้า ได้อย่างเต็มตา
ไม่อยากจะเชื่อว่า คอนโดที่มีค่าตัวเริ่มระดับ 7 หมื่นกลางๆ/ตร.ม. จะให้ สุขภัณฑ์อัตโนมัติ WASHLET (แบบที่ใช้ที่ญี่ปุ่นอ่ะ)
นอกจากทำเลติดถนนพระรามสี่อันโดดเด่นแล้ว ความน่าสนใจของ "The Crown Residences" แห่งนี้ ก็คือ "วิว" ที่หาได้ยากกกมว๊ากกกนี่ละ
เจ้าพ่อทำเลริมถนนเพชรเกษมนี่จะเป็นใครไปไม่ได้แล้วนอกจาก "ชัยพัฒนาที่ดิน"
"Asakan Elysium Phahol 59 Station" (อัสสกาญจน์ อีลิเซียม พหลฯ 59) จาก ASAKAN DEVELOPMENT คอนโดใกล้รถไฟฟ้าสถานีพหลโยธิน 59 เพียง 50 ม. เท่านั้น!!
'So Origin Sukhumvit 105' (โซ ออริจิ้น สุขุมวิท 105) ถ้ารู้สึกว่าชื่อมันฟังดูแล้วคุ้นๆ หูจังแหะ ใช่ครับ มันคือตัวเดียวกับ 'โซ ออริจิ้น ลาซาล' นั่นแหละ เปลี่ยนตัวห้อยท้ายนิดหน่อย (แต่ส่วนตัวแอบชอบชื่อเก่ามากกว่า)
ไหนใครกำลังจะรีไฟแนนซ์กันบ้าง ใครกำลังผ่อนบ้านอยู่เพลิน ๆ นี่ห้ามลืมเด็ดเลยนะ เพราะหนี้บ้านพอพ้น 3 ปีแรก ดอกเบี้ยจะพุ่งขึ้นแบบก้าวกระโดดเลย
วันเพ็ญเดือนสิบสอง น้ำก็นองเต็มตลิ่ง...
ใกล้รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน MRT พระราม 9 ประมาณ 420 ม. เป็นรถไฟฟ้าสายสำคัญวิ่งเป็น Loop เชื่อมกับรถไฟฟ้าสายอื่นมากมาย จะไปไหนก็ง่ายดาย
‘ภูมิสถาปนิค‘ ท่านหนึ่งบอกกับผมว่า “Lanscape โครงการนี้สวยที่สุดเท่าที่เคยเจอมา ไม่มีที่ไหนใกล้เคียงความเป็น ‘สวนแบบ Classic’ ที่เป็น ‘quite luxury’ ได้เท่านี้แล้ว“
เฮ้ย! เนื้อที่ดีมันเป็นแบบนี้นี่เอง 5555
นูเทลล่า ทำมาจากถั่วเฮเซลนัท และ ช็อคโกแล็ต ช็อคโกแล็ตมาจากต้นโกโก้ ถั่ว และ โกโก้ = พืช พืช = ผัก กินผัก = ผอม โอเค กินเมนูนี้ได้แบบไม่รู้สึกผิดแล้ว 5555