ช่วงนี้กระแส “เบียร์ทางเลือก” หรือ “เบียร์นอกกระแส” มาแรงมากๆ
จริงๆคำๆนี้พึ่งเกิดมาแทนที่คำว่า Craft beer นะครับ
เพราะว่าเบียร์ยี่ห้อยอดฮิตในบ้านเราหลายๆยี่ห้อที่เคยเป็น Craft beer แท้ๆ ก็ถูก take over โดยผู้ผลิตเบียร์ยักษ์ใหญ่ระดับโลกกันไปหลายเจ้า
แสดงว่าความเบื่อของเบียร์กระแสหลัก “main stream beer” นี่ลามไปทั่วโลก
รายใหญ่ต้องไล่ซื้อรายเล็กๆเจ๋งๆเข้าใน portfolio กันเป็นว่าเล่น
อย่างนี้ถ้าให้ผมนิยามคำว่าเบียร์กระแสหลักในบ้านเรา
ผมคงสรุปแบบที่ผมเข้าใจง่ายที่สุดว่า มันก็คือเบียร์ที่มีขายในร้าน 7-11 นั่นแหละ
เมื่อสัก 2-3 เดือนก่อน มีข่าวในวงการเบียร์กระแสหลักในบ้านเรามาก
เพราะว่ามีเบียร์ไทยแท้ๆรายนึงที่ชื่อว่า Cheers Beer ออกเบียร์รุ่นใหม่ชื่อว่า Cheers – Riceberry Selection
แถมมีเขียนข้างกระป๋องว่ามันคือ Malt & Riceberry Lager ซะด้วย
สำหรับแฟนๆที่ติดตามข่าวสารของ FB ที่เกี่ยวกับเบียร์ ก็คงจะได้เห็นได้อ่านรีวีวกันหมดแล้ว
“ติดดอยคอยดื่ม” เราถึงจะมาช้าแต่ก็ดีกว่าไม่มาใช่ไหม 555
ผมขออนุญาตเริ่มจากคำว่า Riceberry กันก่อนเลย
จริงๆก็เคยได้ยินคำนี้มาสักพัก แต่พึ่งได้ค้นข้อมูลวันนี้นี่แหละครับ ว่ามันคืออะไร
Riceberry นี่จะดังในหมู่คนใส่ใจในสุขภาพ เพราะคุณสมบัติมันคือ มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงมาก และมีสารอาหารสูง
ข้าว Riceberry นี่เป็นผลงานวิจัยของคนไทยในประเทศไทยนี่เองครับ
โดยมาจากการผสมกันของข้าวเจ้าหอมนิล และข้าวดอกมะลิ105 ทำให้ข้าว Riceberry มีสีแดงแบบลูกเบอร์รี่ (ลูกหม่อน) ที่สุกแล้ว
มาพร้อมกับคุณสมบัติที่โดดเด่นที่สุดคือ มีสารต้านอนุมูลอิสระที่สูงมาก
ว่ากันว่าสูงกว่าพวกน้ำชาเขียวเป็นร้อยเท่าเลยทีเดียว
โห ขนาดนั้นเลย งั้นเราก็น่าจะเรียกเจ้าเบียร์ Riceberry ว่าเป็นเบียร์ต้านอนุมูลอิสระด้วยได้มั้ยเนี่ย
เบียร์ Cheers Riceberry มีขายใน 7-11 ราคา 49 บาท สำหรับเบียร์กระป๋องใหญ่ 490 ml.
ซึ่งก็นับว่าไม่แพงเลย แพงกว่าเบียร์ Cheers Lager ที่วางติดกันเพียงแค่ 43 บาทเท่านั้นเอง
ลองเปิดกระป๋องดูดีกว่า
ผมได้กลิ่นเหมือนข้าวเหนียว เป็นกลิ่นบางๆโชยออกมาเล็กๆ
นอกนั้นไม่มีอะไรผิดแผกไปจากเบียร์ลาเกอร์กระแสหลักทั่วๆไป
ลองรินดูได้เบียร์สีน้ำตาลแดง แอบผิดหวังเล็กน้อย เพราะนึกว่าสีเบียร์จะเข้มมากกว่านี้
ฟองหนาแต่ว่าไม่แน่น จึงยุบตัวเร็วมากๆ
ดังนั้น To the Eyes ผมให้ผ่านแบบเฉียดฉิว
เพราะยังไงก็ดูดีกว่าเบียร์สีเหลืองอ่อนๆของลาเกอร์บ้านเรา
ส่วน To the Nose ยังไม่ให้ผ่านเพราะกลิ่นนี้ผมว่าแปลกไปนิดสำหรับเบียร์
ลองชิมกันเลยดีกว่า
จิบแรกไม่มีความแตกต่างกับเบียร์ลาเกอร์ทั่วไปเท่าไหร่นัก
ถึงแม้จะใช้คำว่า Malt & Riceberry Lager มีเพียงกลิ่นที่ผมเดาว่า น่าจะมาจากส่วนผสม Riceberry นี่แหละ ที่มันคงอยู่ในกระพุ้งแก้มพอสมควร
ลองชิมอีกที ผมคิดว่ากลิ่นมันคล้ายๆกับข้าวเหนียวดำเปียกที่เรากินเป็นของหวาน (แต่ไม่มีลำไยเหมือนที่เค้าใส่กันในขนมหวานนะ 555)
To the Mouth ผมเฉยๆ เพราะไม่แตกต่างจากลาเกอร์ทั่วไปมากนัก
หลังจากกลืนลงคอแล้ว มีกลิ่นข้าวเหนียวดำติดค้างอยู่เล็กๆ แต่ไม่ถึงกับพุ่งพวยออกมา
ไม่มีรสชาติใดๆติดปากติดคอแบบชัดเจน After taste ก็ให้ผ่านแบบฉิวเฉียดเพราะถือว่าดี (หรือแปลก) กว่าลาเกอร์กระแสหลักหน่อยนึง
โดยสรุป
ถึงแม้ว่าโดยรวม ผมจะไม่ได้ชื่นชอบเจ้า Cheers Riceberry มากนัก
แต่อย่าลืมว่า เรากำลังดื่มเบียร์กระแสหลัก (หรือเรียกว่าเบียร์ตลาดดี) อยู่นะ
เพราะฉะนั้น ผม strongly recommend เบียร์กระป๋องนี้ให้กับแฟนๆนักดื่มทุกคนเลยครับ
เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เบียร์ที่วางขายใน 7-11 “กล้า” ที่จะผลิตเบียร์ออกมาเป็นทางเลือกให้กับนักดื่มทุกคน
ผมหวังว่า Cheers Riceberry จะยืนหยัดอยู่ในตลาดเบียร์อันแสนโหดร้ายนี้ไปได้ และอยากจะกระตุ้นให้ Cheers รวมถึงผู้ผลิตเบียร์กระแสหลักรายอื่นๆทำเบียร์แบบอื่นๆมาให้เราชิมกันอีก
เพราะนั่นคือสาเหตุหลักที่เราเบื่อ และหันไปหาเบียร์ทางเลือกอื่นๆไม่ใช่หรือครับ
ใครที่ยังไมเคยลองชิม ผมแนะนำให้เดินไป 7-11 ได้เลยครับ
อั้ม @ ติดดอยคอยดื่ม