เปิดตัวกันไปสด ๆ ร้อน ๆ เลยครับสำหรับ "Disney+ Hotstar" แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งจากค่ายดิสนีย์ที่จะเข้ามาสร้างสีสันในตลาดสตรีมมิ่งไทยในวันที่ 30 มิถุนายน 2564 นี้ ว่าแล้วก็ตื่นเต้นเนอะ อีกไม่กี่วันแล้วสาวก Disney และ Marvel ก็จะได้ไปเปิดจักรวาลใหม่กันแล้ว ซึ่งผมขอยอมรับเลยว่าผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน 55555
แม้ในตอนนี้ประเทศไทยเราจะมีแพลตฟอร์มสตรีมเจ้าตลาดอย่าง Netflix อยู่แล้ว แต่ผมเชื่อนะว่า Disney+ Hotstar แม้จะเป็นน้องใหม่ในตลาด แต่การมาครั้งนี้ต้องสะเทือนวงการแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งในไทยอย่างแน่นอน ว่าแต่ทำไมผมถึงเชื่ออย่างนั้นล่ะ?
1. จักรวาล Content ใหม่
เหตุผลแรกที่ปฏิเสธไม่ได้เลยก็คือการเปิดตัวของ Disney+ Hotstar นอกเหนือจากการมี Disney+ Originals ที่คู่แข่งไม่มีแล้ว Disney+ Hotstar ยังมีจุดเด่นที่จะดึงกลุ่มลูกค้าจากคอนเทนต์จากจักรวาล Marvel Pixar ที่มีพลังในการดึงดูดลูกค้าที่เป็นแฟนคลับ Marvel และ Pixar ได้เป็นอย่างดี
ที่ผมปักหมุดรอชมก่อนเลยก็ WandaVision, The Falcon and The Winter Soldier และ Loki ซึ่รีย์ภาคแยกของทีม Avengers รวมไปถึง The Mandalorian, Luca, Star Wars: The Bad Batch, High School Musical: The Musical: The Series, The Mysterious Benedict Society, folklore: the long pond studio sessions, Hamilton
และยังมีคอนเทนต์อื่นๆ ในเครือดิสนีย์ และพันธมิตรทั้งไทยและเทศ ที่มาพร้อมกับซีรีส์อื่น ๆ รวมกัน 14,000 ตอน ในการเปิดตัว เพราะเราต้องยอมรับกันจริง ๆ แหละว่าในวันนี้ Original Content ถือเป็นจุดขายของทุกค่ายสตรีมมิ่งนำมาเสิร์ฟให้กับลูกค้าเพื่อสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง
แต่ที่น่าจับตาก็คือคนไทยบางกลุ่มเช่นเด็ก ๆ หรือผู้สูงอายุยังชื่นชอบการดูหนังพากย์ไทยอยู่ แม้การดูเสียงต้นฉบับจะสื่ออารมณ์ของคอนเทนต์ได้มากกว่าก็ตาม ซึ่งถือเป็นจุดด้อยที่ทาง Netflix เองก็ยังทำได้ไม่ครอบคลุม เราต้องดูกันต่อไปว่าการเปิดตัว Disney+ Originals ในประเทศไทย คอนเทนต์ที่นำมาให้บริการจะมีพากย์ไทยมากน้อยแค่ไหนกัน
2.ค่าบริการเบาสบาย สมัครรายปียิ่งถูก!!!
คุ้นชินกันดีครับสำหรับการตามหาสมาชิกมาเป็นลูกบ้านแพ็กเกจครอบครัวของ Netflix เพราะถ้าจะสมัครให้คุ้มสุดก็ต้องหายกันหลายเครื่องหน่อย (แม้จะผิดนโยบายเค้าก็ตาม) แต่ Disney+ Hotstar เปิดตัวแพ็กเกจมาแบบแตกต่างครับ โดยคิดราคาค่าสมาชิกรายปี ปีละ 799 บาท สำหรับลูกค้าทั่วไป ซึ่งสามารถดูพร้อมกันได้ 2 เครื่อง
ส่วนตัวแล้วผมว่าเป็นการตั้งแพ็กเกจที่น่าสนใจนะครับ เพราะถือเป็นการมัดมือชกไปเลยว่าเราจะต้องเป็นลูกค้าเค้าไป 1 ปี เดือนไหนไม่ดูจะยกเลิกทันทีก็ไม่ได้ 55555 ฟังดูเหมือนจะแย่ แต่ด้วยราคาแพ็กเกจ 799 บาทต่อปีผมว่าก็ไม่แย่นะครับ หารเฉลี่ยแล้วตกเดือนละ 67 บาท ถ้าหารกัน 2 คนตกเดือนละ 33.5 บาท วันละบาทนิด ๆ เท่านั้นเอง
และว๊าวสุดคือเค้ายังมีราคา Exclusive เฉพาะ 'เอไอเอส' ผู้ให้บริการอย่างเป็นทางการในประเทศไทยของ Disney+ Hotstar ด้วยนะ โดยลูกค้าเอไอเอสที่สมัครก่อนวันที่ 27 มิถุนายน 2564 จะได้ราคาเดือนละ 35 บาท จากราคาปกติเดือนละ 99 บาท และยังดูเพิ่มฟรี 1 เดือน(ในเดือนที่2) โดยราคานี้มีผล 12 รอบบิล
ซึ่งไม่ว่าเพื่อน ๆ จะสมัครสมาชิกแบบลูกค้าทั่วไปหรือลูกค้าเอไอเอส Disney+ Hotstar ก็สามารถดูได้ทุกดีไวซ์ทั้งมือถือ แท็บเล็ต และทีวี และดูพร้อมกันได้ 2 เครื่องด้วย!!!
ว่าแล้วก็ถือเป็นการเปิดตลาดที่ดีนะ ด้วยราคาที่ไม่แรงมากทำให้เราสามารถสมัคร Disney+ Hotstar ไว้ดูควบคู่กับแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งอื่น ๆ ได้อย่างไม่เสียดายมากนัก เผลอ ๆ ถ้าดูไปแล้วติดใจ เห็นว่า Disney+ ครอบคลุมความต้องการรับชมแล้ว หลายคนอาจจะตัดสินใจยกเลิก Netflix ที่ราคาต่อเดือนสูงกว่าก็ได้
เพราะไม่ว่าจะมีคอนเทนท์ที่น่าสนใจแค่ไหน จะมีอัพเดทต่อเดือนเข้ามามากเท่าไหร่ แต่เวลาที่แต่ละคนสามารถใช้เพื่อเสพย์สื่อเหล่านี้ก็ยังมีเท่าเดิมนี่เนอะ 55555
สุดท้ายนี้เพื่อน ๆ คนไหนที่ยังลังเลกันอยู่ว่าจะสมัครดีไหม ส่วนตัวแล้วผมขอแนะนำโดยแยกลูกค้าเป็น 3 กลุ่มละกัน
เอาเป็นว่าใครที่สะดวกทางไหน อยากได้ราคาเท่าไหร่ก็ลองตัดสินใจกันดูครับ ส่วนผมใช้บริการเอไอเอสอยู่แล้ว สมัครเรียบร้อย ไว้รอดูแล้วจะมารีวิวให้ฟังอีกทีนะครับ บ๊ายบายยย
Tag : Disney | Disney+ Hotstar | Streaming
ตอนที่คุณพราวเธอบอกว่าโครงการ "VEHHA" คอนโดลักชัวรี่ตัวใหม่ในหัวหินของเธอเป็นคอนโดที่สูงที่สุดในหัวหิน ผมก็คือว้าวเลยครับ เพราะด้วยพื้นที่ที่เค้าเลือกสามารถทำให้ตัวตึกสูงได้ถึง 31 ชั้น!
ปล่อยเช่า ปล่อยเช่า ปล่อยเช่า! หลายเสียงบอกว่าตลาดเช่ากลับมาแล้ว ใช่! คนเช่าคอนโดกลับมาคึกคักแล้ว ถึงแม้ราคาจะยังไม่กลับมาเท่าเดิม แต่หลายปัจจัยทั้ง ชาวต่างชาติ รถติด น้ำมันแพง ล้วนเกื้อหนุนให้ตลาดเช่าคอนโดกลับมามีสีสัน พลอยทำให้ ‘การซื้อคอนโดปล่อยเช่า’ กลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้งเช่นกัน โดนเฉพาะคอนโดใหม่ เพราะซื้อตอนนี้กว่าจะเสร็จก็อีกพักใหญ่ ทุกอย่างน่าจะเข้ารูปเข้ารอยเต็มที่
ใครกำลังหาคอนโดราคา 7 หมื่นกว่าๆ ต่อตารางเมตร ห่างรถไฟฟ้าระดับ 300 เมตร Space เยอะ ลมดี สีเขียวทาทาบโครงการ ตามมาอ่านบรรทัดถัดไปโดยพลัน
"QUINTARA MHy'GEN" เห็นราคาแล้ว "ใจหวิว" เลยครับ
จะบอกว่าทำเล "สายหยุด-สะพานใหม่" เป็นทำเลที่หลายคน "คุ้นหู" แต่อาจจะไม่ "คุ้นเคย" ก็ได้ครับ
หากจะเลือกลงทุนซื้อคอนโดปล่อยเอาไว้ปล่อยเช่าสักยูนิต ผมเชื่อว่าตัวเลือกแรกๆ ของนักลงทุนน่าจะหนีไม่พ้น "แคมปัส คอนโด" กันอย่างแน่นอน
บ้าไปแล้ว!! ถ้าพัฒนา AI ได้ขนาดนี้ วงการออกแบบมีสะเทือนอ่ะ บอกตรงๆ
ตอนนี้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ส่งสัญญาณทิศทางอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นหนักหน่วง มีแนวโน้มสูงมากที่ดอกเบี้ยนโยบายของบ้านเราจะปรับตัวขึ้นอย่างแน่นอนครับ
ร้านลับกว่านี้มีอีกมั้ย?
ซื้อคอนโดแถม VISA 20 ปี! ที่ดินทำเล ‘พัทยาเหนือ’ แบบ Free Hold (ขายขาด) หาได้ยากแล้วนะ! Once Pattaya : Iconic Mixed Use แรกแห่ง ‘พัทยาเหนือ’ ของดีเวลลอปเปอร์ชื่อ Honour Group
ตอนอยู่ NIDA เคยเรียน Case Study ของร้านขาย Hardware ในอเมริกา ว่าเค้าใช้ 'เส้น' ในการกำหนดเส้นทางเดินของลูกค้าในร้าน
เข้าสู่ช่วงครึ่งปีหลังปีของปี 2565 กันแล้วนะครับ และผมเชื่อว่าเป็นเวลาที่หลายคนเริ่มมองหาอัตราดอกเบี้ยดี ๆ เพื่อทำการรีไฟแนนซ์กันอีกครั้งด้วย 555