ก่อนหน้านี้ผมเคยหยิบยก บ้านสำหรับผู้สูงอายุ มาฝากทุกคนกันไปแล้ว ตอนนั้นก็มีคนสนใจกันประมาณหนึ่งเลยนะ เชื่อแล้วล่ะครับว่าหลายคนอยากโสดเกษียณกันเยอะ บ้านพักคนชราหรือบางโครงการก็อาจจะใช้ชื่อที่มันดูดีขึ้นมาหน่อยว่า บ้านผู้สูงอายุ น่าจะเป็นบั้นปลายที่ทุกคนคาดหวังกันเยอะ
ยิ่งในหมู่คน Gen ใหม่ๆ หลายคนนี่เล่นหยอดกระปุกเตรียมกันเลยนะครับ
หลังจากบทความนั้นได้รับเสียงตอบรับค่อนข้างดี ผมเลยอยากวกกลับมาพูดเรื่องราวเกี่ยวกับสังคมผู้สูงวัยกันอีกครั้งดีกว่า เนื่องจากตอนนี้มีสินเชื่อหนึ่งที่น่าสนใจเอามากๆ และเหมาะกับสังคมผู้สูงอายุของประเทศไทยสุดๆ
ซึ่งตัวสินเชื่อที่ผมจะพูดถึงในวันนี้ก็คือ "Reverse Mortgage สินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ" นั่นเอง เพื่อเป็นการเตรียมตัวก่อนเกษียณ เรามาทำความรู้จักสินเชื่อตัวนี้ก่อนดีกว่าครับ
Reverse Mortgage หรือ สินเชื่อบ้านผู้สูงอายุ คืออะไร?
หากใครเคยซื้อบ้านมาก่อน น่าจะพอเข้าใจกระบวนการการซื้อบ้านกันเป็นอย่างดี ปกติแล้วเวลาที่เราจะซื้อบ้านสักหลัง หากไม่ได้มีกำลังทรัพย์หรือเงินเก็บมากพอที่จะซื้อเงินสด คนส่วนใหญ่จึงมักใช้วิธีการกู้จากธนาคารมาหาซื้อบ้านหรือที่อยู่อาศัย จากนั้นก็ค่อยนำเงินมาผ่อนกับทางธนาคารทุกเดือน ซึ่งตรงจุดนี้แหละครับ ก่อให้เกิดคำว่า "ดอกเบี้ย" จำนวนเท่าไหร่ อันนี้ก็แล้วแต่ธนาคารนั้นๆ จะกำหนด
แต่กับ Reverse mortgage จะไม่เหมือนกันครับ แค่ชื่อก็มีความหมายว่า การจำนองแบบย้อนกลับแล้ว (Reverse หมายถึง ย้อนกลับ Mortgage หมายถึง การจำนอง)
สินเชื่อประเภทนี้ก็ตรงตัวเลยครับ คือ เมื่อเราเอาบ้านไปจำนองกับธนาคารแล้ว แทนที่เราจะเป็นคนผ่อนจ่ายให้กับธนาคารทุกเดือน ก็จะกลายเป็นว่าธนาคารจะต้องเป็นคนจ่ายเงินให้เราทุกเดือนแทน
ตรงนี้ก็กลายเป็นว่า เราจะได้กระแสเงินสดเพื่อนำมาใช้จ่ายแต่ละงวดตามที่ทำสัญญากับธนาคาร จนเมื่อครบกำหนดชำระสุดท้ายบ้านหลังนั้นก็จะตกเป็นของธนาคาร ซึ่งต่างกับการจำนองทั่วไปที่สุดท้ายแล้วบ้านจะมาเป็นของเรา
หรือสรุปแบบเข้าใจง่ายๆ ก็คือ Reverse mortgage เปรียบเสมือนว่าเราขายบ้านให้ธนาคารล่วงหน้า โดยธนาคารจะจ่ายเงินให้เราเป็นงวด หรือรายเดือน จนกว่าเราจะเสียชีวิตหรือตามที่เราตกลงกับธนาคาร หลังจากนั้นบ้านก็จะกลายเป็นของธนาคารนั่นเอง โดยช่วงที่ธนาคารยังจ่ายเงินให้เราเนี้ย เราก็ยังอยู่บ้านหลังนั้นได้ฮะ ไม่ต้องย้ายออกไปไหน
แล้วตอนนี้ มีธนาคารไหนบ้างนะ ที่มีสินเชื่อ Reverse mortgage แล้วแต่ละธนาคารมีเงื่อนไขอย่างไรบ้างนะ ?
1. ธนาคารออมสิน
สำหรับธนาคารออมสินนั้นจะให้กู้สูงสุดได้ไม่เกิน 10 ล้านบาทครับ ระยะเวลาการจ่ายเงินกู้ไม่เกิน 25 ปี โดยที่งวดแรกจะจ่ายเท่ากับร้อยละ 10 ของวงเงินกู้ จากนั้นจ่ายเงินกู้เป็นงวดรายเดือน
คุณสมบัติ
1.เป็นบุคคลธรรมดา มีสัญชาติไทย อายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป แต่ไม่เกิน 80 ปี และต้องไม่เป็นผู้ไร้ความสามารถ หรือเสมือนไร้ความสามารถ
2.กรณีไม่มีคู่สมรส ผู้กู้ต้องมีกรรมสิทธิ์ในหลักประกันแต่เพียงผู้เดียว และไม่มีกรณีการกู้ร่วมกับบุคคลอื่น
3.กรณีมีคู่สมรส กรรมสิทธิ์ในหลักประกันจะต้องเป็นของผู้กู้และ/หรือคู่สมรสเท่านั้น โดยมีหลักเกณฑ์เงื่อนไขเพิ่มเติม ดังนี้
-คู่สมรสต้องเข้ามาเป็นผู้กู้ร่วมด้วย และไม่มีกรณีกู้ร่วมกับบุคคลอื่น
-คู่สมรสต้องมีคุณสมบัติเช่นเดียวกับผู้กู้ ยกเว้นอายุคู่สมรสต้องมีอายุตั้งแต่ 55 ปีขึ้นไป แต่ไม่เกิน 80 ปี
ต้องสามารถรับภาระค่าใช้จ่าย หรือค่าธรรมเนียมต่างๆ ในการขอสินเชื่อกับธนาคารได้
จำนวนเงินให้กู้
-ที่ดินพร้อมอาคาร ให้กู้ได้ไม่เกินร้อยละ 70 ของราคาประเมินหลักทรัพย์
-ห้องชุดให้กู้ได้ไม่เกินร้อยละ 60 ของราคาประเมินหลักทรัพย์
2. ธนาคารอาคารสงเคราะห์
ในส่วนของธนาคารอาคารสงเคราะห์จะจ่ายวงเงินให้กู้สูงสุดต่อหลักประกันไม่เกิน 10 ล้านบาท และระยะเวลาการปล่อยกู้ไม่เกิน 25 ปี เช่นเดียวกันครับ แต่จะต้องมีระยะเวลาการกู้อย่างน้อย 6 ปีขึ้นไปนะ
คุณสมบัติ
1.บุคคลธรรมดา มีสัญชาติไทยอายุตั้งแต่ 60 ปี แต่ไม่เกิน 80 ปี และเป็นผู้มีกรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัยโดยปลอดภาระจำนอง
2.ต้องไม่เป็นผู้ไร้ความสามารถ หรือเสมือนไร้ความสามารถ
3.กู้ร่วมได้เฉพาะกับคู่สมรสตามกฎหมายหรือพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกันที่มีกรรมสิทธิ์ในหลักประกันเดียวกัน
อัตราดอกเบี้ย
คิดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เท่ากับ 6.25% ต่อปี ตลอดอายุสัญญากู้เงิน
เรียกได้ว่าเป็นสัญญาณของการรับมือสำหรับสังคมผู้สูงวัยแบบครอบคลุมเหมือนกันนะ ถามว่าสินเชื่อตัวนี้เหมาะกับใคร? ก็คงเหมาะกับผู้สูงวัยที่อาจจะไม่มีเงินบำนาญในวัยเกษียณ
ซึ่งสินเชื่อตัวนี้จะสามารถทำให้ผู้สูงอายุเหล่านี้มีเงินในการดำรงชีวิตในแต่ละเดือนได้อย่างไม่ลำบากโดยที่ยังสามารถอาศัยอยู่ในบ้านของตัวเองได้เหมือนเดิมนั่นเอง
ใครสนใจสินเชื่อตัวนี้และอยากอ่านรายละเอียดยิบย่อยเพิ่มเติม เดี๋ยวผมจะทิ้งลายแทงของทั้งสองธนาคารไว้ให้นะครับ
คนโสดในวัยเกษียณ มีบ้านเป็นของตัวเองสักหลัง แค่นี้ก็ไม่ต้องกลัวไม่มีเงินใช้ตอนแก่กันแล้วเนอะ
Tag : Reverse Mortgage | สินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ |
“ได้วิวแม่น้ำ สวยขนาดนี้เลยรึนี่?!“ เป็นความรู้สึกของผมตอนที่ขึ้นไปชั้น 38 วิวสวยแบบไม่มีอะไรมาบดบังเลย มีมุมที่เห็นสวนเบญจกิติด้วย
สำหรับผมแล้ว BTS สถานี "ห้าแยกลาดพร้าว" เป็น สถานี Interchange กับ MRT ที่ผมชอบที่สุด และมักจะเป็นทำเลที่ผมแนะนำ ให้คนมาอยู่อาศัยมากที่สุดอันดับต้นๆเลย
มีความท้าทายเล็กๆ กับการเปลี่ยนอดีต ’สถานทูตออสเตรเลีย‘ ให้กลายมาเป็น ‘Luxury Condo’ และ ’Mixed-Use’ ระดับ ’iconic’ ริม ’ถนนสาทร‘
'เกือบหลับ แต่กลับมาได้' จะมีโครงการไหนกันเชียวที่จะเหมาะกับคำนี้ ถ้าไม่ใช่ 'Hyde Riverbay Charoennakorn' (ไฮด์ ริเวอร์เบย์ เจริญนคร)
โครงการใหม่ของ Major ที่แน่มาก แกร่งมาก เพราะไม่หวั่นไหวกับการต้องถูกขนาบข้างโดย Sansiri แบบรั้วชนรั้วเลย!
'dcondo calm Ramkhamhaeng 40' (ดีคอนโด คาล์ม รามคําแหง 40) ก็เป็นอีกโครงการที่ผมบอกเลยว่า คุณจะลืมภาพจำของแบรนด์ดีคอนโดแบบเดิมๆ ไปแทบหมดสิ้น เพราะโครงการนี้ เค้าอยู่ใกล้รถไฟฟ้าถึง 2 สาย ทั้งสายสีส้มและสายสีเหลือง!!!
ไหนใครกำลังจะรีไฟแนนซ์กันบ้าง ใครกำลังผ่อนบ้านอยู่เพลิน ๆ นี่ห้ามลืมเด็ดเลยนะ เพราะหนี้บ้านพอพ้น 3 ปีแรก ดอกเบี้ยจะพุ่งขึ้นแบบก้าวกระโดดเลย
ขออวดว่าผมได้รีวิวหนังสือเล่มนี้ก่อนหนหน้านี้แล้วด้วยนะ อิอิ แต่ที่จริงผมไม่ได้ตั้งใจรีวิวหรอก แต่เป็นคนอ่านหนังสือแล้วชอบ ‘Short Note’ ประโยคดีๆ คมๆ เก็บไว้ แต่ปรากฏว่ามันโดนบาดเยอะมาก จนสามารถเอามาลงในเพจได้เลย
ช่วงนี้ผมชอบเข้าไปดูงานออกแบบของ Foster + Partners บ่อยสุดๆ คือรู้สึกได้เลยว่าเราอินกับสไตล์การออกแบบของเค้ามากๆ ซึ่งถ้าใครไม่รู้ว่าเค้าคือใคร Foster + Partners คือบริษัทที่ออกแบบ Apple Store ตรงเซ็นทรัลเวิลด์ นั่นแหละครับ น่าจะพออ๋อกันขึ้นมาบ้างเนอะ
ยุคนี้ใครเค้าเที่ยวต่างประเทศกัน คนรวยเค้าเที่ยวนอกโลกครับ!
Apple Store นี่ไม่ว่าจะไปเปิดสาขาที่ไหน ก็สามารถกลายเป็นแลนด์มาร์คของที่นั้นๆ ได้ตลอด ล่าสุดเค้าเพิ่งเปิดสาขาใหม่ที่ประเทศมาเลเซีย ไปหมาดๆ เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน ที่ผ่านมานี่เอง ซึ่งนี่เป็นสาขาแรกของมาเลเซีย
เดือน 7 กำลังจะผ่านพ้นอีกแล้วนะครับ ตอนนี้อากาศกำลังชุ่มฉ่ำแบบสุด ๆ ไปเลย ซึ่งหลายเดือนที่ผ่านมามีสัญญาณว่าดอกเบี้ยแบบคงที่เริ่มกลับมาแล้วนะ