เปิดโปรเจ็คต์ "หอพักพยาบาลจุฬาฯ" หอพักดีไซน์ปังที่เท่และดังที่สุดในตอนนี้!
ถ้าถามว่าตอนนี้งานดีไซน์ตัวอาคารของสิ่งก่อสร้างใดกำลังเป็นจุดสนใจของผู้คนบนโลกโซเชียลที่สุด ผมคิดว่าหนีไม่พ้น "หอพักพยาบาล จุฬาฯ" ครับ
ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเวลาเลื่อนฟีดเลื่อนไทม์ไลน์โซเชียล ผมจะเห็นบทความหรือสแนปภาพโครงการหอพักพยาบาลหลังใหม่ของโรงพยาบาลจุฬาฯ บ่อยมาก!
และอันที่จริงมันก็ปฏิเสธไม่ได้เลยนะว่าตัวโครงการเค้าดีไซน์ออกมาได้เตะตาจริงๆ
เห็นมีคนบอกด้วยว่าดูในภาพว่าสวยแล้ว แวะไปดูของจริงด้วยตาตัวเองคือสวยกว่า
เอาเป็นว่า "หอพักพยาบาล" หลังใหม่ ของโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทยแห่งนี้ เป็นหอพักที่มีดีไซน์เท่ที่สุดในตอนนี้เลยก็ว่าได้!
เมื่อมองภาพรวมจะเห็นเลยว่าตัวอาคารเค้าเป็นแนวสูงที่ฉาบปูนสีขาวสบายตา รวมทั้งหมดแล้ว 26 ชั้น
ตัวห้องพักที่เห็นเรียงรายไปมานั่นมีด้วยกันทั้งหมด 523 ห้องครับ แต่ที่เตะตานั้นคือการดีไซน์ระเบียงสลับเป็นแพตเทิร์นฟันปลาไปเรื่อยๆ (แอบนึกถึง "ชีวาทัย เรสซิเดนซ์ ทองหล่อ" เลยเหมือนกัน)
ส่วนช่องเปิดบน Facade ก็คว้านให้เป็นรูปทรงบวก หรือก็คือสัญลักษณ์ "อุณาโลมแดง" ที่เป็นโลโก้ประจำสภากาชาดไทยในอดีต ที่ต้องบอกว่าเมื่อสร้างออกมาแบบนี้แล้วทำให้อากาศถ่ายเทได้ ลมพัดเย็นสบายแบบไม่ต้องเปิดแอร์
ถูกอกถูกใจผู้ใช้งานหลักที่เค้าไม่นิยมเปิดแอร์ แต่ชอบการเปิดหน้าต่างให้อากาศถ่ายเท ที่สำคัญยังได้ใชสาวกคนชอบปลูกต้นไม้ริมระเบียงเป็นที่สุด
โดยหอพักพยาบาลหลังใหม่หลังนี้เป็นผลงานการออกแบบของสถาปนิก "Plan Architect" สร้างมาเพื่อแทนที่หอพักพยาบาลสูง 4 ชั้นหลังเก่า
ส่วนตัวผมชอบที่รูปทรงมันแปลกตาแต่ว่าใช้งานได้จริงและตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานหลักครับ อาคารพักอาศัยรวมทั่วไปแล้วส่วนใหญ่จะออกแบบให้เป็น Double Loaded Corridor ที่มีทางเดินทางเดียว แล้วก็มีห้องพักขนานไปตามทางเดิน แต่ว่ามันจะทำให้ยากในการรับแสงรับลมธรรมชาติ
แต่พอแยกตัวอาคารให้เป็น Single Loaded Corridor เอาลิฟต์คั่นไว้ตรงกลาง แบ่งห้องพักไปอยู่สองฝั่ง มันก็เกิดช่องระบายอากาศตรงกลาง ทำให้เอเนอจี้ธรรมชาติทั้งหลายเข้ามาได้เต็มที่
ทาง "Plan Architect" เค้าออกแบบให้มีปล่องกลางอาคารตั้งแต่ชั้น 1 ไปจนถึงหลังคาเลยครับ มีการเจาะช่องลมตรงผนังด้านข้างอาคารชั้น 1 ช่วงกึ่งกลางอาคาร กับบริเวณหลังคาชั้นบนสุดเพื่อให้อากาศถ่ายเทไปได้อย่างทั่วถึงด้วย
เห็นว่านอกจากนี้แล้ว ประตูห้องเองก็ถูกออกแบบให้มีช่องสำหรับระบายอากาศได้เหมือนกันนะ ลองคิดไปคิดมาแล้ว ช่วงกลางวันนี่คงสว่างแบบไม่จำเป็นต้องเปิดไฟเลยล่ะ
ส่วนไฮไลท์อย่างระเบียงก็อย่างที่บอกไปครับว่าเค้าออกแบบระเบียงเป็นฟันปลาเฉียงๆ มองแล้วเป็นมุมสามเหลี่ยมยื่นออกมา ที่นอกจากจะรับแสงอาทิตย์และมีที่ให้ปลูกต้นไม้ดอกไม้แล้ว ยังสร้างมาเพื่อที่จะได้เบี่ยงมุมมองไม่ให้ไปปะทะเข้ากับอาคารอื่นๆ ที่อยู่โดยรอบด้วยแหละ
ยิ่งไปกว่านั้นเวลาตากผ้าก็สะดวกสุดๆ
เพราะเอาเข้าจริงลองไปถามผู้หญิงสักสิบคนดูครับว่าเค้าชอบให้คนมามองมั้ยเวลาตากผ้า ไม่มีหรอก พวกผู้หญิงเค้าจะไม่ชอบให้เป็นจุดสนใจเท่าไหร่เวลาตากผ้า
แล้วการที่ดีไซน์ระเบียงออกมาให้เป็นอะลูมิเนียมสีขาวรูปทรงฟันปลาหักไปหักมา ก็เหมือนเป็นการกำหนดพฤติกรรมผู้อยู่อาศัยแบบเนียนๆ ไปด้วย ว่าเวลาเราออกมาตากผ้าหรือรับลมตรงระเบียงแล้วไม่ต้องเจอสายตาจากฝั่งตรงข้ามให้รู้สึกอึดอัดใจเล่น
ก็นั่นแหละครับ...ที่ทางทีมเค้าทำระเบียงให้เป็นสามเหลี่ยมมีมุมยื่นสลับกันไปมาแบบนี้ก็เพื่อที่เวลาเราอยู่ในห้อง การมีมุมเข้ามาเสริมมันก็ช่วยให้สามารถหลบเลี่ยงการจ๊ะเอ๋กับห้องตรงข้ามได้นี่แหละ ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะไม่อึดอัดใจกับการต้องยิ้มแย้มให้เพื่อนบ้านทุกวันอ่ะเนอะ เรียลมั้ยล่ะ
พูดถึงการอึดอัดใจเวลาต้องอยู่ร่วมกับคนอื่นแล้ว ก็ต้องบอกตรงนี้ว่าหอพักพยาบาลที่นี่เค้ากำหนดให้พยาบาล 2 คนพักร่วมกันใน 1 ห้องครับ
และก็อย่างที่รู้กัน บางครั้งการต้องมาอยู่กับคนที่ไม่คุ้นเคยมาก่อนมันก็ชวนให้อึดอัดใจ ยิ่งกับคนที่เข้ากับคนอื่นได้ยากยิ่งมีปัญหา ทางทีมสถาปนิกเลยปิ๊งไอเดีย แก้ปัญหานี้ด้วยการวางผังห้องพักแต่ละห้องใหม่ซะเลย
ทางแก้ที่ทีมเลือกใช้คือทำให้ห้องกว้างขึ้น ขนาดประมาณ 5 x 8 เมตรรวมพื้นที่ระเบียง หรือก็คือราวๆ 40 ตารางเมตร วางเตียงได้สองฝั่ง มีทางเดินตรงกลาง และให้พยาบาลแต่ละคนมีโซนเป็นของตัวเอง แบ่งกันคนละครึ่งห้อง ให้มีพื้นที่ของใครของมันไปเลยไม่ได้เอาทุกอย่างมาวางไว้ในแนวเดียวกันครับ
เตียงนอน ตู้เสื้อผ้า ตู้เซฟ ตู้เย็น โต๊ะเครื่องแป้ง โทรทัศน์ ราวตากผ้า ก็แยกของใครของมัน ในห้องน้ำเองก็แยกห้องอาบน้ำ โถสุขภัณฑ์ หรือส่วนอ่างล้างหน้าออกจากกันด้วยเหมือนกัน เวลาเร่งด่วนจะได้ไม่ต้องแย่งกันไงล่ะ
เราอาจจะแย้งว่า เฮ้ย อยู่สองคนก็มีเสียงรบกวนเหมือนกันแหละ คนหนึ่งต่อเวร อีกคนไม่ต่อเวร ก็ต้องพยายามทำเสียงเงียบๆ อยู่ดี ปัญหานี้ทีมเค้าก็เห็นความสำคัญนะ ช่วงก่อนจะถึงโซนที่นอนเลยทำประตูสไลด์ 2 ชั้นกั้นไว้ให้ เป็นบานทึบและมุ้งลวดครับ
ตรงนี้ผมชอบอีกเหมือนกัน เพราะมันพิเศษตรงที่ว่าหากอยากได้ความเป็นส่วนตัวเราก็ปิดบานทึบ แต่ว่าหากต้องการจะรับลม เราก็เปิดบานทึบไว้ให้เหลือแต่ประตูมุ้งลวด ช่วยทำให้อากาศถ่ายเทได้ดีเลย
นอกจากนี้เค้ายังมีแนวคิดในการเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับตัวอาคารด้วย ไม่ใช่แค่กับระเบียงห้อง แต่เมื่อพลิกโครงสร้างเดิมของหอพักเก่าแล้วยังมีที่ที่ว่างตรงใจกลาง สามารถทำเป็นพื้นที่สีเขียวเล็กๆ แบบ Pocket Park ได้อีกด้วยครับ อยู่ตรงพื้นที่ชั้น 1 ของอาคารที่เป็นที่โล่ง สามารถเดินทะลุถึงส่วนนี้เลย พื้นที่อาจไม่ได้ใหญ่ขนาดทำให้วิ่งลดน้ำหนักได้ แต่ก็ยังถือว่าเดินย่อยอาหารได้สบายล่ะนะ
หลังจากเสร็จสิ้นโปรเจ็คต์ แน่นอนว่าทางทีมได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากผู้ใช้งานจริงครับ แต่ก็ไม่ใช่แค่ตัวผู้ใช้งานนะ เมื่อภาพถูกเผยออกไปสู่สายตาคนนอก เรายังยอมรับเลยว่าเป็นการดีไซน์ที่เท่และใส่ใจจริงๆ
ไม่รู้ว่ามีใครแอบแวบไปดูของจริงบ้างแล้วหรือยัง แต่ผมรู้สึกว่าการออกแบบอาคารสถานที่ที่อิงจากความต้องของผู้ใช้งานจริงนี่สำคัญมากเลยแหละ เพราะผลลัพธ์มันอยู่ที่ว่าคนใช้งานรู้สึกยังไง
แน่นอนว่า มากกว่าดีไซน์สวย เท่ เก๋ ปัง คือฟังก์ชันที่ตอบโจทย์การใช้งานได้จริงนี่แหละครับ
Photo credit: archdaily.com
Tag :
"MARU CHULA" สรุป สิ่งที่ควรรู้ของคอนโดใหม่จากค่าย Major
ว่ากัน 'ซอยหลังสวน' เปรียบเสมือน "แมนฮัตตันแห่งกรุงเทพฯ" คำกล่าวนี้ผมว่าไม่เกินจริงเลยนะ เพราะซอยหลังสวน ได้ชื่อว่าเป็นย่านที่มีราคาที่ดินแพงที่สุดในประเทศไทย และมูลค่าเพิ่มอย่างต่อเนื่องทุกปี!!
นี่คือคอนโดที่ใกล้ "ลานชมเมืองภูเก็ต" บนเขารังมากที่สุด ทำให้คุณเห็นวิวเมืองภูเก็ตสวยๆตัดภูเขา ทะเล และท้องฟ้า ได้อย่างเต็มตา
ก่อนไปดูทำเล ขอพูดถึงตัวโครงการหน่อย ออกตัวก่อนว่าผมหาข้อมูลที่ยังไม่ Official นะครับ คือไม่ชัวร์ว่าโครงการจะสูงกี่ชั้น มีกี่ยูนิตกันแน่ แต่ทาง PropCons บอกว่าตัวนี้น่าจะเป็นคอนโด High-rise สูงราวๆ 21 ชั้น
โครงการใหม่แกะกล่องจาก 'เสนาดีเวลลอปเมนท์' มีรถไฟฟ้าสายสีเหลืองตัดผ่าน ถือว่ายังเดินทางง่ายๆ ชิลๆ
คอนโดสูงติดถนนพระราม 3 จาก 'ไทย ยูเนี่ยน พร้อพเพอร์ตี้ ดิเวลลอปเม้นท์' ที่ตอนนี้กำลังสร้างสำนักงานขาย วันที่ผมไปนี้จวนจะเสร็จแล้วนะ
เป็นคำถามที่อยู่ในใจของผม ตั้งแต่ก่อนมางาน
"Origin Hotel Pruksa Sukhumvit" โปรเจกต์จากสองยักษ์ที่จะทำให้วงการอสังหาฯ ไทยสั่นสะเทือน!
ประเทศที่มักจะมีงานดีไซน์แปลกๆ ใหม่ๆ แต่ไม่ทิ้งความเว่อร์วังอลังการ (ในทางที่ดี) ก็คือพี่จีนของเรานี่แหละครับ
เดือนแห่งความรัก ได้เวลาซื้อบ้านซื้อคอนโดเป็นของขวัญแล้ว!
ห้างใหม่มาอีกแล้ว! แต่มีให้เดินก็ต้องไปเดินกันสักหน่อยแหละ!
ในช่วง 3-4 ปีนี้ ผมรู้สึกได้ว่า เทรนด์การพัฒนาโครงการบ้าน มีการพัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะตลาดของบ้านเดี่ยว Luxury