ใครเคยมีปัญหาเรื่องชื่อสถานีรถไฟฟ้ากันบ้างไหมครับ? อย่างสถานีลาดพร้าวกับสถานีพหลโยธิน น่าจะเป็นตัวอย่างของปัญหาเรื่องชื่อสถานีที่เห็นภาพชัดเจนที่สุดแล้วนะ ส่วนผมเองไม่มีปัญหาเรื่องนี้ครับเพราะใช้จนชินซะแล้ว แต่เชื่อว่าคนที่ไม่ค่อยได้ใช้บริการรถไฟฟ้าคงต้องงงกันแน่ๆ ปัจจุบันตอนนี้ทางกรมรางเค้าเล็งเห็นปัญหา ด้วยการตั้งหลัก 6 ประการ ในการตั้งชื่อสถานีรถไฟฟ้า เน้นเลยครับ ต้องเจาะจงและเชื่อมโยงกันเท่านั้น!!
อธิบดีกรมการขนส่งทางราง เผยว่า ได้มีการประชุมเพื่อร่วมกันพิจารณาข้อมูลการให้บริการรถไฟฟ้าแต่ละโครงการที่แตกต่างกัน ในเรื่องของการกำหนดการตั้งชื่อสถานีรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยแนวทางสำหรับการกำหนดชื่อและรหัสสถานีรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนสาธารณะ
ซึ่งมีการศึกษาลักษณะเฉพาะของการตั้งชื่อสถานี คือมีการสำรวจข้อมูลความคิดเห็นของประชาชน รวมถึงตัวแทนของผู้ประกอบการเดินรถ เรื่องการวิเคราห์หลักการและปัจจัยในการตั้งชื่อ ก็มีการสรุปออกมาแล้วครับว่าจะมีหลักการตั้งชื่อและกำหนดรหัสสถานีรถไฟฟ้าดังนี้
1. ง่าย ชื่อสถานีรถไฟฟ้าจะต้องเป็นชื่อที่ง่าย และสามารถจดจำได้ง่าย
2. กระชับ ชื่อสถานีรถไฟฟ้าควรเป็นชื่อที่สั้น ได้ใจความโดยชื่อภาษาไทยควรมีความยาว ไม่เกิน 5 พยางค์และชื่อภาษาอังกฤษควรใช้ตัวอักษรไม่เกิน 15 ตัวอักษร
3. มีความยั่งยืน ชื่อสถานีควรใช้ได้อย่างตลอดระยะเวลาที่สถานียังคงเปิดให้บริการอยู่
4. สามารถระบุตำแหน่งได้ชัดเจน ชื่อสถานีจะต้องเอื้อให้ผู้เดินทางสามารถระบุตำแหน่ง หรือ บริเวณที่ตั้งของสถานีได้อย่างชัดเจน และควรมีความเกี่ยวข้องกับพื้นที่ตั้งสถานี
5. เฉพาะเจาะจง ชื่อสถานีจะต้องไม่ซ้ำกัน หรือสร้างความสับสนแก่ผู้ใช้บริการ
6. มีความเชื่อมโยงกัน ชื่อสถานีจะต้องสามารถสร้างความเชื่อมโยงไปใช้ในการวางแผน การเดินทางได้ โดยเฉพาะชื่อสถานีที่เป็นสถานีเชื่อมต่อ ควรใช้ชื่อเดียวกันทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ โดยมีการระบุความแตกต่างของเส้นทางโดยรหัสสถานี
ซึ่งหลักการทั้งหมดนี้ทางกรมรางได้กำหนดและได้ยึดหลักการเดียวกับสากล โดยการตั้งชื่อทั้งไทยและอังกฤษรวมถึงคำประกาศในขบวนเพื่อแจ้งจุดเชื่อมต่อ ป้ายสัญลักษณ์รหัสสีเส้นทางการเดินรถ ทุกๆ อย่างจะมีความเป็นมาตรฐานกลาง ซึ่งจะช่วยลดความสับสนของผู้ใช้บริการได้
หลายคนอาจจะมองว่าเป็นปัญหาเล็กๆ แต่ผมว่ามันก็เป็นปัญหาที่ใหญ่เหมือนกันนะ ยิ่งหากเป็นนักท่องเที่ยวเนี้ยเวลาขึ้นรถไฟฟ้าจะได้ไม่ต้องสับสนด้วยเนอะ
Tag : กรมการขนส่งทางราง | สถานีรถไฟฟ้า |
“ได้วิวแม่น้ำ สวยขนาดนี้เลยรึนี่?!“ เป็นความรู้สึกของผมตอนที่ขึ้นไปชั้น 38 วิวสวยแบบไม่มีอะไรมาบดบังเลย มีมุมที่เห็นสวนเบญจกิติด้วย
สำหรับผมแล้ว BTS สถานี "ห้าแยกลาดพร้าว" เป็น สถานี Interchange กับ MRT ที่ผมชอบที่สุด และมักจะเป็นทำเลที่ผมแนะนำ ให้คนมาอยู่อาศัยมากที่สุดอันดับต้นๆเลย
มีความท้าทายเล็กๆ กับการเปลี่ยนอดีต ’สถานทูตออสเตรเลีย‘ ให้กลายมาเป็น ‘Luxury Condo’ และ ’Mixed-Use’ ระดับ ’iconic’ ริม ’ถนนสาทร‘
'เกือบหลับ แต่กลับมาได้' จะมีโครงการไหนกันเชียวที่จะเหมาะกับคำนี้ ถ้าไม่ใช่ 'Hyde Riverbay Charoennakorn' (ไฮด์ ริเวอร์เบย์ เจริญนคร)
โครงการใหม่ของ Major ที่แน่มาก แกร่งมาก เพราะไม่หวั่นไหวกับการต้องถูกขนาบข้างโดย Sansiri แบบรั้วชนรั้วเลย!
'dcondo calm Ramkhamhaeng 40' (ดีคอนโด คาล์ม รามคําแหง 40) ก็เป็นอีกโครงการที่ผมบอกเลยว่า คุณจะลืมภาพจำของแบรนด์ดีคอนโดแบบเดิมๆ ไปแทบหมดสิ้น เพราะโครงการนี้ เค้าอยู่ใกล้รถไฟฟ้าถึง 2 สาย ทั้งสายสีส้มและสายสีเหลือง!!!
ไหนใครกำลังจะรีไฟแนนซ์กันบ้าง ใครกำลังผ่อนบ้านอยู่เพลิน ๆ นี่ห้ามลืมเด็ดเลยนะ เพราะหนี้บ้านพอพ้น 3 ปีแรก ดอกเบี้ยจะพุ่งขึ้นแบบก้าวกระโดดเลย
ขออวดว่าผมได้รีวิวหนังสือเล่มนี้ก่อนหนหน้านี้แล้วด้วยนะ อิอิ แต่ที่จริงผมไม่ได้ตั้งใจรีวิวหรอก แต่เป็นคนอ่านหนังสือแล้วชอบ ‘Short Note’ ประโยคดีๆ คมๆ เก็บไว้ แต่ปรากฏว่ามันโดนบาดเยอะมาก จนสามารถเอามาลงในเพจได้เลย
ช่วงนี้ผมชอบเข้าไปดูงานออกแบบของ Foster + Partners บ่อยสุดๆ คือรู้สึกได้เลยว่าเราอินกับสไตล์การออกแบบของเค้ามากๆ ซึ่งถ้าใครไม่รู้ว่าเค้าคือใคร Foster + Partners คือบริษัทที่ออกแบบ Apple Store ตรงเซ็นทรัลเวิลด์ นั่นแหละครับ น่าจะพออ๋อกันขึ้นมาบ้างเนอะ
ยุคนี้ใครเค้าเที่ยวต่างประเทศกัน คนรวยเค้าเที่ยวนอกโลกครับ!
Apple Store นี่ไม่ว่าจะไปเปิดสาขาที่ไหน ก็สามารถกลายเป็นแลนด์มาร์คของที่นั้นๆ ได้ตลอด ล่าสุดเค้าเพิ่งเปิดสาขาใหม่ที่ประเทศมาเลเซีย ไปหมาดๆ เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน ที่ผ่านมานี่เอง ซึ่งนี่เป็นสาขาแรกของมาเลเซีย
เดือน 7 กำลังจะผ่านพ้นอีกแล้วนะครับ ตอนนี้อากาศกำลังชุ่มฉ่ำแบบสุด ๆ ไปเลย ซึ่งหลายเดือนที่ผ่านมามีสัญญาณว่าดอกเบี้ยแบบคงที่เริ่มกลับมาแล้วนะ