ฮอตจริง ๆ นะครับสำหรับกระแส "สกุลเงินดิจิทัล" เดี๋ยวนี้ไม่ว่าจะซื้อจะขายอะไรก็เริ่มมีการนำมาใช้กันอย่าแพร่หลายมากกว่าแต่ก่อนที่เคยถูกมองว่าเป็นเพียงแค่การเก็งกำไรเท่านั้น
ส่วนตัวแล้วผมมองว่าสกุลเงินดิจิทัลมันก็คือ “สื่อกลาง” รูปแบบหนึ่งที่มีมูลค่านั่นแหละ สามารถแลกเปลี่ยนสินค้าหรือใช้ชำระแทนเงินได้ ไม่ว่าจะเป็นโรงภาพยนต์ ร้านค้า ร้านอาหารต่าง ๆ
แต่สิ่งที่น่าสนใจก็คือช่วงนี้ "วงการอสังหาริมทรัพย์" เราก็เริ่มให้ความสนใจกับการใช้สกุลเงินดิจิทัลในการซื้อขายอสังหากับเค้าด้วย ทำให้ผมเกิดคำถามว่ามันจะเป็นของจริงหรือแค่อิงกระแสนิยมกันล่ะ?
ต้องบอกก่อนว่าจริง ๆ แล้วกระแสนี้ในต่างประเทศมีการใช้กันมาซักพักแล้วครับ แต่สำหรับประเทศไทยถือเป็นช่วงที่กำลังบุกเบิก เลยออกจะดูเป็นกระแสที่น่าจับตากันซะหน่อย
โดยเจ้าแรกที่ผมขอปรบมือให้เลยก็คือ “อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์” ที่ร่วมกับ บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด ตัวแทนในการทำธุรกรรมเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลเลย
เพราะทั้งคู่ได้ร่วมมือในการนำ “บิทคอยน์” ซึ่งเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ดิจิทัลมาใช้ชำระแทนเงินสดในการซื้อคอนโดหรือบ้านในเครืออนันดาฯ ได้ทุกโครงการ (แต่ต้องทำธุรกรรมผ่านแอพพลิเคชั่นของบิทคับเท่านั้น)
กลายเป็นเรื่องแปลกใหม่และสร้างความน่าสนใจให้กับวงการอสังหาริมทรัพย์พอสมควร เพราะเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่ผู้ประกอบการออกมายอมรับว่าเงินคริปโต สามารถนำมาใช้แทนเงินสดได้!!!
ซึ่งถ้าจะย้อนไปก่อนหน้านั้นอีกก็มีเหมือนกันนะ “ยู พรอมท์” ผู้พัฒนาโครงการบ้านจัดสรรในจังหวัดเชียงใหม่เค้าก็เปิดรับการชำระด้วยคริปโตแทนเงินสดเช่นกัน แต่ยังไม่บูมเท่าไหร่นัก
ทั้งนี้ทั้งนั้นถ้าย้อนไปไกลกว่านั้นอีก ประเทศไทยเราก็มีการใช้สกุลเงินดิจิทัลเงินในการซื้อขายหรือเช่าอสังหาฯ มาก่อนหน้านั้นไปอีก เพียงแต่เป็นการซื้อขาย/เช่าของบริษัทตัวแทนนายหน้าเท่านั้น
ยังไม่มีการซื้อ/ขายกับผู้ประกอบการโดยตรง อาทิ บริษัท ดีวัน พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด บริษัทที่เป็นตัวแทนนายหน้าขายอสังหาฯ บนเกาะช้าง เกาะกูด เกาะหมาก ที่มีการรับบิทคอยน์เพื่อใช้ชำระแทนเงินสด
เพียงแต่จำนวนอสังหาฯ ที่รับชำระด้วยบิทคอยน์นั้นอาจจะยังไม่มากนัก อาทิ บ้านขนาด 1,784 ตร.ม. 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ ที่เกาะช้างบริษัทขายในราคา 22.449 บิทคอยน์
ทีนี้กลับมาสู่คำถามตั้งต้นกันครับว่า "คริปโทเคอร์เรนซี กับตลาดอสังหาฯ นั้นเป็นของจริงสำหรับการซื้อขายอสังหา หรือว่าตามกระแสกันแน่?"
เคสตัวอย่างที่ผมเล่าให้ฟังก็น่าจะเป็นคำตอบเบื้องต้นได้ว่ามันมีแนวโน้วที่จะได้รับความนิยมมากขึ้นไปอีกนะ เพราะถ้าพูดถึงการลงทุนของคนรุ่นใหม่สมัยนี้ "คริปโต" ล้วนเป็นทางเลือกที่คนให้ความสนใจกันทั้งนั้น
เพราะปัจจุบันมีเศรษฐีหรือคนที่มีรายได้จากการถือคริปโตเคอเรนซีจำนวนเพิ่มขึ้น และคนกลุ่มนี้กลายเป็นเศรษฐีใหม่ที่อายุน้อย แต่ในใจลึก ๆ แล้วก็ยังคงมีปมในใจตรงที่มันเป็นสกุลเงินที่จับต้องไม่ได้เนี่ยแหละ
พอคนกลุ่มนี้ลงทุนจนเห็นกำไร และยากจะนำมันไปลงทุนต่อเนื่องเพื่อขยายขอบเขตการลงทุนของตัวเองออกไป การแลกเปลี่ยนคริปโตมาเป็นอสังหาฯ จึงเป็นตัวเลือกที่ดี
เพราะไม่ว่ายังไงแล้วอสังหาก็เป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่าของเงินจริงที่ "ไม่ใช่" สินทรัพย์ดิจิทัล เพราะสินทรัพย์ดิจิทัลในปัจจุบันยังมีความผันผวนที่รุนแรง และยังค่อนข้างอ่อนไหวอยู่นั่นเอง
ดังนั้นในอนาคตเมื่อหลายประเทศในโลกมีการใช้คริปโตในการแลกเปลี่ยนสินค้ามากขึ้น ก็เป็นไปได้ที่ตลาดอสังหาฯ ในประเทศไทยจะใช้คริปโตเป็นหนึ่งในทางเลือกของการซื้อขายอสังหาฯ มากขึ้นไปอีกครับ
แต่ยังไงแล้วก็คงเป็นแค่หนึ่งในทางเลือกเท่านั้น ถ้าจะเข้ามาทดแทนเงินที่ใช้อยู่ในปัจจุบันคงจะเป็นไปได้ยาก ยกเว้นว่ามีการประกาศใช้เงินสกุลดิจิทัลกันทุกประเทศทั่วโลก แบบนั้นค่อยว่ากันอีกทีครับ 5555
ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นได้ก็อาจจะดีนะ เพราะอีกอย่างที่น่าสนใจสำหรับการใช้เงินคริปโตในการซื้ออสังหาฯ คือ ค่าธรรมเนียมในการโอนนั้นเท่ากันหมดทั้งโลกและต่ำมาก
โดยจากข้อมูลในต่างประเทศอาจจะเห็นได้ว่ามีบริษัทตัวแทนนายหน้าหลายรายขายบ้านหรือคอนโดของตนเอง ที่ผู้ซื้อสามารถใช้เงินคริปโตมาชำระแทนเงินสดได้
แต่สกุลหลักที่มีการยอมรับในการแลกเปลี่ยน คือ บิทคอยน์ อีเธอร์เลียม เท็ตเธอร์ (USDT) โดยเจ้าแรกๆ ที่ประกาศว่ายินดีรับเงินคริปโต คือ Antalya Homes บริษัทนายหน้าในประเทศตุรกีที่หาโอกาสในช่วงวิกฤติโควิด-19
ซึ่งถือเป็นช่วงที่มีผลต่อภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อ แต่ในเรื่องของเงินคริปโตนั้นกลับร้อนแรงไม่หยุด จึงได้ประกาศว่าผู้ซื้อทุกท่านสามารถนำบิทคอยน์มาชำระแทนเงินสดในการซื้ออสังหาฯ ของบริษัท
โดยจะทำธุรกรรมผ่านตัวแทนเพื่อหาอัตราแลกเปลี่ยน และยังยินดีรับเงินคริปโตสกุลอื่นๆ อีกด้วย เช่น BCH, ETH, LTC ,USDT และ XRP ด้วย
โดยนับตั้งแต่เริ่มขายมาก็มีการใช้สกุลเงินดิจิตอลที่หลากหลายมาแลกเปลี่ยนครับ แบ่งเป็นบิทคอยน์ราว 60% USDT หรือ USDC 20% และอีกประมาณ 10% เป็น อีเธอร์เลียม
หรืออีก 1 ตัวอย่างในต่างประเทศที่เป็นบริษัทนายหน้าอสังหาฯ ที่ยินดีรับเงินคริปโตหลายสกุลในการชำระแทนเงินสดในการซื้ออสังหาฯ คือ “Bithome”
ซึ่งผู้ซื้อสามารถเลือกซื้ออสังหาฯ ได้หลายประเทศในสหภาพยุโรป เช่น สวิตเซอร์แลนด์ ฝรั่งเศส อิตาลี โปแลนด์ โรมาเนีย ไซปรัส รวมถึงประเทศในทวีปอเมริกา เช่น สหรัฐ คอสตาริกา และเม็กซิโก
ในเว็บไซต์จะบอกราคาอสังหาฯ เป็นบิทคอยน์ เช่น อพาร์ทเม้นต์ขนาด 11 ห้องนอน 11 ห้องน้ำขนาดพื้นที่มากกว่า 1,000 ตารางเมตร ในไซปรัสบอกราคาขายเท่ากับ 39 บิทคอยน์ หรือบ้านขนาด 200 ตารางเมตรในเมืองฮุสตัน สหรัฐ บอกขายในราคา 12 บิทคอยน์ เป็นต้น
สรุป... คำตอบที่ว่าคริปโตอสังหานั้นเป็นของจริงหรือแค่อิงกระแสนั้น ส่วนตัวผมว่าก็อาจจะเป็นของจริงได้ครับ แต่เป็นทางเลือกใหม่ที่ให้ผู้ซื้อมีทางเลือกที่หลากหลายมากขึ้นเท่านั้น
เพราะจริง ๆ แล้วจำนวนคนไทยที่ถือครองบิทคอยน์จำนวนมาก ๆ มีแทบจะนับหัวได้ และคนในจำนวนนี้ที่สนใจลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ก็ยิ่งมีสัดส่วนลดลงไปอีก
อีกทั้งตอนนี้ประเทศไทยยังไม่มีมาตรฐานหรือหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนในธุรกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล เป็นเรื่องที่ต้องตกลงกันระหว่าง “ผู้ที่รับ” และ “ผู้ที่ใช้” โดยมีตัวกลางเพื่อเป็นผู้กำหนดอัตราแลกเปลี่ยนให้
แต่ถ้าได้รับการสนับสนุนและมีผู้บริโภคเลือกใช้ช่องทางนี้มากขึ้นไปเรื่อย ๆ ก็มีแนวโน้มว่าจะมีการกำหนดมาตรฐานและหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนให้พวกเราอุ่นใจและใช้จ่ายผ่านสกุลเงินดิจิทัลได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น
แต่ยังไงแล้วทางเลือกใหม่นี้ก็คงไม่ใช่ทางเลือกหลักในการซื้อขายอสังหาอย่างแน่นอน เพราะบรรดาบริษัทอสังหาเองก็ไม่น่าจะมาเสี่ยงในการเก็บคริปโทเคอร์เรนซีไว้กับตัวเพื่อรอให้ราคาปรับตัวสูงขึ้นหรอก
อย่างที่เราเคยเห็นก็ เทสลา หรือ Microstrategy ที่ถือครองบิทคอยน์ไว้จำนวนมาก ส่งผลให้ราคาหุ้นผันผวนตามราคาบิทคอยน์ ซึ่งสำหรับอสังหาไทยยังต้องใช้เวลาที่จะยอมรับความเสี่ยงนั้นได้ครับ
Tag : คริปโต | อสังหาริมทรัพย์ | cryptocurrency
ตอนที่ ‘The Line วงศ์สว่าง’ ขายหมด ผมยังคิดอยู่เลยว่า ‘แสนสิริ’ น่าทำโครงใหม่เส้นสีม่วงเพิ่มอีก หลายคนไม่ชอบรถไฟฟ้าเส้นนี้ แต่ในฐานะ ‘ชาวนนทบุเรี่ยน‘ ผมยังเชียร์คอนโดใกล้รถไฟฟ้าสถานีที่ถัดจากสถานี ‘เตาปูน’ ไปสัก 3-4 สถานีอยู่นะ
นี่คือคอนโดใหม่แกะกล่อง ที่อยู่ใกล้กับ "บางหว้า" สถานีรถไฟฟ้า interchange ของ 2 สายที่คนใช้งานเยอะที่สุด อย่างสายสีเขียว และสายสีน้ำเงิน
เพิ่งเคยเจอ คอนโดที่มีน้ำตกสูง 18 ม. เป็นส่วนกลาง!! จัดเป็น “Ideo” ที่ไม่ทำให้รุ่นพี่เสียหน้าจริงๆ ”ส่วนกลาง“ สวยงามตามแบบฉบับ ”Ananda“
อ้าว!! โกวศุ สอยไปซะแล้ววว ที่ดินข้างๆ ซอยตากสิน 14 ที่ก่อนหน้านี้ ตรงนี้เป็นที่ดินที่ 'แสนสิริ' จะสร้างเป็นโครงการ 'NYX by Sansiri' ก่อนจะยุบโครงการภายหลัง
นานๆ ทีจะมีคอนโดท่าพระโผล่มา เพราะจะว่าไปดีเวลลอปเปอร์มักจะขยับไปตั้งโครงการกันทางโซน สถานีจรัญ-บางพลัด กันมากกว่า
ไม่ทำแล้วมิกซ์ยูส ทำคอนโดดีกว่า เพราะทำเลมันสวยด้วยความชิดติดริมถนนพหลฯ แบบนี้
แวะไปจิบกาแฟพร้อมเลือกหนังสือดีๆ สักเล่ม ที่ "ร้านหนังสือริมขอบฟ้า" Book cafe ที่ฮอตที่สุดในตอนนี้!
ยังรู้สึกเหมือนเพิ่งได้เห็นหน้า คุณเบลล่า ราณี ที่มาเปิดร้านคาเฟ่ "Jo’s 365" แสนอร่อย ที่ตั้งอยู่ใน Sales Gallery ของ "Reference Sathorn-Wongwianyai" ได้ไม่ทันไรเลย
คอนโดใจกลางอโศก 175,000 บ./ตร.ม.?! ไม่อยากเชื่อสายตา จนต้องอ่านซ้ำ 3 รอบ 555 ราคาอย่างกับย้อนไปเมื่อหลายปีก่อน
เอาจริงกดดันเหมือนกันนะ สำหรับโครงการที่สร้างมาตรฐานไว้สูงอยู่แล้ว เมื่อออกมาบอกว่าจะปรับใหม่นี่ก็ย่อมเป็นที่น่าจับตา
ล่าสุดประเทศบราซิลเตรียมสร้าง 'หอคอยเซนนา' (Senna tower) ตึกระฟ้าที่จะมาเป็นหอคอยที่อยู่อาศัยที่สูงที่สุดในโลก (ไม่ใช่ตึกที่สูงที่สุดในโลกนะ)
"Day and Night Park" ไอเดียร้านหนังสืออิสระแบบป็อบอัพจากปักกิ่งที่ช่วยทำให้คนเข้าถึงสื่อสิ่งพิมพ์ได้ง่ายกว่าเดิม