เผชิญโควิดกันมาตั้งแต่ช่วงไตรมาสแรกของปี ตอนนี้เริ่มมีท่าทีของสัญญาณฟื้นตัวขึ้นมาบ้าง หลังมีการทยอยฉีดวัคซีนกันมากยิ่งขึ้น ล่าสุดบิ๊กอสังหาอย่างพี่สิบหมื่น จ่อลุยต่อครึ่งปีหลังนี้ ด้วยการเปิดอีก 20 โครงการ ต้อนรับสัญญาณฟื้นตัวของเศรษฐกิจ แถมยังไปชิมลางรุกตลาดเชียงใหม่อีกด้วย

        แสนสิริมองบวกถึงทิศทางการปรับตัวอย่างรวดเร็ว ด้วยการรองรับความต้องการลูกค้าและการกลับมาของตลาด ก่อนการเปิดประเทศและเศรษฐกิจเริ่มฟื้น เพื่อพร้อมวิ่งก่อนใคร โดยมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ช่วงครึ่งปีหลังอีก 20 โครงการ มูลค่ารวม 19,400 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการบ้านเดี่ยวและมิกซ์โปรดักส์แบรนด์อณาสิริ 8 โครงการ มูลค่ารวม 7,500 ล้านบาท ทาวน์โฮมแบรนด์สิริเพลสและแบรนด์ใหม่ล่าสุด 5 โครงการ มูลค่ารวม 6,300 ล้านบาท และโครงการคอนโดมิเนียม 7 โครงการ มูลค่ารวม 5,600 ล้านบาท

        ซึ่งทางแสนสิริก็ได้เริ่มรุกตลาดเชียงใหม่ ด้วยการเปิดตัว “1517 NIMMAN” (1517 นิมมาน) Co-Business I Living Space พื้นที่ที่รวมธุรกิจและการอยู่อาศัยเป็นหนึ่งเดียว ราคาเริ่มต้น 5.9 ล้านบาท บนพื้นที่ขนาด 2 ไร่ จำนวน 23 ยูนิต ใจกลางย่านนิมมานฯ อันเป็นศูนย์รวมธุรกิจและไลฟ์สไตล์ ที่มีทั้งร้านอาหาร ร้านกาแฟ คาเฟ่ บูทีคโฮเทล รวมถึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวติดอันดับโลก 

        นอกจากนี้เชียงใหม่ยังเป็นแหล่งเศรษฐกิจที่ชาวต่างชาติให้ความสนใจในแง่ของการลงทุน โดยเฉพาะชาวจีน จากสัญญาณการฟื้นตัวของตลาดเมืองท่องเที่ยวที่คาดว่าจะกลับมาเร็วๆ นี้ ทำให้ทำเลย่านถนนนิมมาน มีแนวโน้มราคาอสังหาฯ เติบโตพุ่งสูงขึ้นในทุกๆ ปี ซึ่งปรากฎว่าได้รับการตอบรับที่ดีมากหลังจากเริ่มเปิดตัวโครงการ

        ลงใต้มาที่ตลาดท่องเที่ยวในภูเก็ต ก็มีทิศทางที่ดี จากการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว โดยไม่ต้องกักตัว 14 วัน ภายใต้โครงการ “ภูเก็ต แซนด์บ๊อกซ์” ที่ได้เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา ที่ทำให้ตลาดเริ่มกลับมาคึกคัก ยังรวมถึงสัญญาณที่ดีในตลาดต่างชาติ จากยอดโอน XT ห้วยขวาง ซึ่งกลุ่มลูกค้าต่างชาติให้ความเชื่อมั่นแสนสิริ และตอบรับโอนไปแล้วกว่า 60% 

        โดยทั้งนี้ สถานการณ์ปิดแคมป์ก่อสร้าง เพื่อป้องกันการระบาดของโรคโควิด– 19 ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการโอนและรับรู้รายได้ ในไตรมาส 2 เนื่องจากที่อยู่อาศัยที่ต้องส่งมอบได้สร้างเสร็จสมบูรณ์และเตรียมทำแผน catch up เรียบร้อยแล้ว จึงมั่นใจในผลการดำเนินงานที่จะทำได้ตามเป้าหมาย สามารถส่งมอบที่อยู่อาศัยให้กับลูกค้าได้ตรงเวลา โดยในครึ่งปีหลัง บริษัทยังเตรียมโอนคอนโดมิเนียม เอดจ์ เซ็นทรัล-พัทยา ในวันที่ 21 – 22 สิงหาคม และ ดีคอนโด ไฮด์อเวย์–รังสิต ในวันที่ 28–29 ส.ค.นี้ เพื่อรองรับการรับรู้รายได้ในช่วงครึ่งปีหลัง

        ทั้งนี้ใครที่สนใจโครงการของทางแสนิริแต่คำนึงถึงเรื่องของความปลอดภัย บอกได้เลยครับว่าหายห่วงเพราะตอนนี้พนักงานแสนสิริทุกคน ทั้งพนักงานขาย แม่บ้าน พนักงานรักษาความปลอดภัย ฯลฯ เค้าได้รับการฉีดวัคซีน 100% เป็นที่เรียบร้อยแแล้ว มั่นใจ ปลอดภัย และอุ่นใจสูงสุดให้กับลูกค้าที่เข้ามาเยี่ยมชมในทุกโครงการของแสนสิริได้อย่างแน่นอนครับผม