คมนาคมมีนโยบายระบบตั๋วร่วมมาอีกแล้วครับ หลังศักดิ์สยาม เป็นประธานเปิดประชุมไปหมาดๆ เป็นหารผุดตั๋วร่วมแบบใหม่  “ABT”  ที่สามารถรองรับบัตรเครดิต-เดบิตที่ออกโดยสถาบันการเงิน งานนี้คาดว่าจะเริ่มใช้กับทางด่วนทุกสายของ “การทาง” “สายสีแดง-โทลล์เวย์” หลังสิ้นปี 64 นี้แล้วด้วย

        โดยคิวถัดมาจะเป็น“สายสีน้ำเงิน” คาดว่าจะมาต้นปี 2565 โดยในที่ประชุมได้รับทราบความคืบหน้าการดำเนินการของ 2 หน่วยงานสำคัญคือ รฟม. และ กทพ. ดังนี้

        1. รฟม. ไรายงานต่อที่ประชุมว่ากำลังดำเนินการพัฒนาระบบตั๋วร่วมโดยใช้เทคโนโลยีบัญชีระบุตัวตนผู้โดยสาร Account Based Ticketing หรือย่อๆ ว่า ABT โดยเป็นระบบที่รองรับบัตรเครดิตและเดรบิตที่ออกโดยสถาบันการเงินทั้ง Bank และ Non Bank ในปัจจุบันการออกแบบระบบแล้วเสร็จ อยู่ระหว่างการพัฒนาซอฟแวร์ และติดตั้งระบบ

        ซึ่งได้มีการทดสอบระบบครั้งแรกไปแล้วที่สถานีหัวลำโพงและสถานีสนามไชยเมื่อต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ผลปรากฏว่าระบบใช้งานได้ถูกต้อง ตามแผนงานจะดำเนินการทุกอย่างแล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2564 และสามารถเปิดให้ประชาชนใช้งานระบบได้ในต้นปี 2565

        2. กทพ. ได้รายงานว่ามีการเริ่มใช้บัตรจ่ายเงิน ที่ใช้เทคโนโลยี ABT คล้ายกับที่ รฟม. กำลังพัฒนา โดยเริ่มใช้กับทางพิเศษศรีรัช-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพ ทางพิเศษอุดรรัถยา ทางพิเศษศรีรัช ทางพิเศษกาญจนาภิเษก (บางพลี-สุขสวัสดิ์) และทางพิเศษเฉลิมมหานคร ไปแล้ว

        ซึ่งระบบตั๋วร่วมแบบ ABT  กำลังทำการติดตั้งเพื่อใช้งานกับรถไฟฟ้าสายสีแดงและทางพิเศษดอนเมืองโทลเวย์ โดยคาดว่าจะสามารถใช้งานได้ภายในสิ้นปี 2564 นี้ และได้มีการกำหนดแผนการดำเนินการเป็นระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว 

        -ระยะสั้น (ภายในปี 2564) จะสามารถนำระบบตั๋วร่วมแบบ Account Based Ticketing (ABT) มาใช้ได้ 

        -ระยะกลาง (ภายในปี 2565) จะมีการจัดตั้งศูนย์บริหารจัดการรายได้กลาง (Central Clearing House: CCH) เพื่อรองรับการใช้อัตราค่าโดยสารร่วม

        - ระยะยาว (ภายในปี 2566) จะมีการจัดตั้งสำนักงานกลางเพื่อมาทำหน้าที่บริหารจัดการเรื่องตั๋วร่วม พร้อมประกาศใช้ พ.ร.บ.การบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม เพื่อสามารถบังคับใช้ระบบตั๋วร่วมกับผู้ประกอบการระบบขนส่งสาธารณะทั้งที่เป็นของรัฐ และของเอกชน

        คณะอนุกรรมการด้านการกำหนดมาตรฐานอัตราค่าโดยสารและการจัดสรรรายได้ สรุปปัญหาเรื่องมาตรฐานอัตราค่าโดยสารในปัจจุบัน ได้แก่ การเก็บค่าแรกเข้าในแต่ละสายไม่เท่ากัน การปรับขึ้นอัตราค่าโดยสารในแต่ละสายไม่เท่ากัน มีการเก็บค่าแรกเข้าทุกครั้ง เมื่อมีการเดินทางข้ามระบบ และโครงสร้างอัตราค่าโดยสารไม่สะท้อนกับระยะทาง