ย้ายไปดูตลาดคอนโดมิเนียมโซนพัทยากันบ้างครับ เพราะฝั่งนี้เองก็ถือว่าตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ค่อยดีนักนะ เพราะตลาดโซนนี้ต้องพึ่งพาการท่องเที่ยวเป็นหลัก

        และช่วงนี้เองไม่มีกำลังซื้อหลักจากนักลงทุนต่างชาติเข้ามาในประเทศด้วย ส่วนนักลงทุนในประเทศก็ชะลอการซื้อคอนโดเพื่อรอดูสถานการณ์ ทำให้การขายคอนโดยิ่งชะลอตัว ทางไนท์แฟรงค์บอกว่าตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงสิ้นเดือนพฤษาคมที่ผ่านมา จำนวนหน่วยขายได้ใหม่นับเป็นประมาณ 25% หรือเท่ากับ 1,032 หน่วย เมื่อเทียบกับปี 2563 ครับ

        ปกติส่วนใหญ่กลุ่มผู้ซื้อเป็นคนไทยจากกรุงเทพฯ มาซื้อเพื่อเป็นบ้านพักหลังที่ 2 เพียงกลุ่มเดียว และกำลังซื้อกลุ่มนี้ก็ลดลงไปทุกที ยิ่งไปกว่านั้นความน่ากังวลของผู้ประกอบการนอกจากสถานการณ์การแพร่ระบาดคือ กลุ่มคนที่ซื้อคอนโดเก็บไว้ก็ทยอยปล่อยขายคอนโดมือสองมากขึ้น ทำให้คอนโดที่สร้างเสร็จและเปิดขายใหม่ยังคงมีสต็อกค้างอยู่ในตลาดนี่แหละ

        ตอนนี้ผู้ประกอบการในพัทยาส่วนใหญ่ที่เป็นนักลงทุนท้องถิ่น เลยเลือกที่จะชะลอตัวการเปิดโครงการและการพัฒนาพื้นที่ว่างไปก่อน แต่ก็ยังมีเอกชนรายใหญ่บางส่วนเข้าไปลงทุนในช่วงที่ผ่านมานะ อย่างเช่น ไอคอนสยามที่มีแผนจะเข้ามาลงทุนในพื้นที่นาจอมเทียน 

        แต่ทางไนท์แฟรงค์ก็มองว่าเดือนพฤษภาคมปีนี้ คอนโดมิเนียมในพัทยามีจำนวนเหลือขายอยู่ที่ประมาณ 19,000 หน่วย ซึ่งถ้าหากไม่มีอุปทานใหม่เกิดขึ้น หน่วยเหลือขายที่เหลือจะใช้เวลาขายอีกประมาณ 3 ปีหากสถานการณ์กลับมาเป็นปกติและสามารถเปิดประเทศได้ครับ