ช่วงนี้พี่ไทยกำลังทยอยฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 กันอยู่ ได้แต่หวังว่าสถานการณ์เจ้าโรคนี่มันจะดีขึ้นในเร็ววัน เพราะเมื่อทุกอย่างหายเป็นปกติแล้วก็ถึงเวลาเปิดประเทศ และเมื่อเปิดประเทศก็หมายความว่าเราสามารถไปเที่ยวต่างประเทศได้แล้วครับ!
ผมว่าหลายๆ คนน่าจะคิดถึงบรรยากาศที่ต่างประเทศกันอยู่แน่ๆ และหนึ่งในจุดหมายปลายทางของทุกคนผมคิดว่าน่าจะมีประเทศนี้อยู่ในใจกันชัวร์ๆ นั่นคือ "ญี่ปุ่น" นั่นเอง
พูดถึงญี่ปุ่นใครไปแล้วก็ต้องติดใจอยากไปอีกครั้งครับ นอกจากบรรยากาศจะดีแล้วอาหารก็ถูกปากจริงๆ แต่ว่าวันนี้ผมมีจุดหมายปลายทางใหม่มาแนะนำทุกคนกัน เผื่อจะได้จดลงลิสต์เอาไว้ บินได้เมื่อไหร่เป็นต้องไปสักครั้งแน่นอน!
ว่าแต่จะไปน่ะเหรอ? ไปร้าน Louis Vuitton ครับ!
อย่าเพิ่งทำหน้าเบื่อไป เพราะครั้งนี้ผมไม่ได้จะพาไปช้อป แต่จะพาไป "กิน" ต่างหาก!
เรื่องมันมีอยู่ว่าเมื่อปีที่แล้ว แบรนด์แฟชั่นลักชัวรีระดับโลกจากเมืองผู้ดีแดนน้ำหอม อย่าง Louis Vuitton เค้าได้เปิดร้านอาหารแห่งแรกของแบรนด์ขึ้นที่โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่นครับ และก็ไม่ได้มีแค่ร้านอาหารนะ คาเฟ่ก็มีเหมือนกัน
งงล่ะสิ เป็นร้านขายสินค้าแฟชั่นแล้วจู่ๆ ไหงไปขายอาหารซะงั้น ผมเองก็งงครับ 5555 แต่ว่ามันก็ไม่แปลกนะ ตรงกันข้ามผมรู้สึกว่าน่าสนใจด้วยซ้ำที่ร้านขายสินค้าแฟชั่นระดับโลกจะหันมาเปิดร้านอาหารและคาเฟ่ดูบ้าง ขายกระเป๋าอย่างเดียวรวยไม่พอ หันมาขายอาหารดูบ้างก็น่าจะเวิร์กไม่น้อย
"Le Café V" เป็นคาเฟ่แห่งแรกของแบรนด์ ส่วน "Sugalabo V" ก็เป็นร้านอาหารแห่งแรกของแบรนด์ครับ โปรเจ็คต์นี้เรียกเสียงฮือฮากันมาก เพราะถือเป็นการเปิดมิติใหม่ของทางแบรนด์ไปเลย
เทรนด์ตอนนี้นั้นผู้คนเค้าไม่ได้เสพแค่ความสวยความงามของเสื้อผ้าหรือแอคเซสซอรี่แล้ว แต่ด้านไลฟ์สไตล์ส่วนบุคคลนั้นผู้คนเค้าหันมาสนใจกันมากขึ้นครับ พูดง่ายๆ คือจะกินอะไรจะดื่มอะไรมันก็คือแฟชั่นได้เหมือนกัน
ทั้ง “Le Café V” และ “Sugalabo V” เปิดตัวครั้งแรกที่ชั้นบนสุดของ Louis Vuitton Maison Osaka Midosuji ที่เป็น flagship store ของแบรนด์ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองโอซาก้า
และเพราะแปะยี่ห้อเป็นแบรนด์ดังระดับโลกทั้งที อาหารที่เสิร์ฟจะธรรมดาๆ ได้ยังไง อาหารในร้านมาจากการรังสรรค์ของ Yosuke Suga เชฟชื่อดังชาวญี่ปุ่น ซึ่งคุณพี่เค้าเคยร่วมงานกับเซเลบริตี้เชฟเจ้าของดาวมิชลิน 32 ดวงอย่าง Joël Robuchon ด้วย
ตัวเชฟ Yosuke Suga เองก็ไม่ธรรมดาครับ เป็นจอมยุทธ์ที่ท่องยุทธภพอาหารมานาน และเป็นเจ้าของร้านอาหาร Sugalabo ในกรุงโตเกียว ซึ่งร้านนี้ได้รับการจัดอันดับที่ 47 จาก 50 ร้านอาหารที่ยอดเยี่ยมที่สุดในเอเชียจาก Asia’s 50 Best Restaurants อีกต่างหาก
คุณพระ เรื่องความพรีเมียมและเอ็กซ์คลูซีฟติดดาวไม่ต้องพูดถึงเลยแฮะ
ตัวร้านอาหาร "Sugalabo V" มีความเก๋ไก๋ตรงที่ตัวร้านจะถูกซ่อนอยู่หลังประตูลับครับ ไม่ใช่ฮอกวอตส์นะ แต่จัดทำแบบนี้เพื่อที่ลูกค้าจะได้นั่งกันเฉพาะกลุ่มเล็กๆ เป็นส่วนตัวและสุดแสนจะเป็นกันเอง ที่สำคัญเปิดเฉพาะมื้อค่ำด้วย ได้บรรยากาศสุดๆ
รูปแบบพื้นที่จะเป็นรูปแบบของครัวแบบเปิดครับ เหมือนเป็น Chef’s Table ที่ให้เราผู้เป็นแขกได้ลองลิ้มรสอาหารพร้อมกับดื่มด่ำรสชาติของบรรยากาศที่หรูหราไปด้วยพร้อมๆ กัน
การตกแต่งของร้านอาหารโดยภาพรวมจะให้บรรยากาศแบบ speakeasy ที่ดูลึกลับเป็นส่วนตัว เน้นการตกแต่งด้วยไม้ให้ความรู้สึกอบอุ่น ผสานวัสดุขอบทองแทรกไปอีกนิดเพื่อเพิ่มความไฮเอนด์ พร้อมกับเฟอร์นิเจอร์สีสดที่มองดูแล้วนึกถึงความเป็น Louis Vuitton เอามากๆ
มองไปมองมาจะรู้สึกเหมือนว่าเรากำลังนั่งทานอาหารในห้องอาคารของเรือสำราญเลยเนอะ นั่นก็เพราะเค้าใช้ธีมของ "ทะเลและการเดินเรือ" นั่นเองครับ เห็นว่าได้แรงบันดาลใจมาจากประวัติศาสตร์ของเมืองโอซาก้า นั่นคือการแล่นเรือบรรทุกสินค้าแบบดั้งเดิมที่ชื่อว่า "Higaki-Kaisen"
ส่วน "Le Café V" จะเป็นพื้นที่สำหรับนักช้อปที่อยากจะพักผ่อนหาเครื่องดื่มมาจิบและมองหาอาหารเบาๆ รองท้องก่อนจะกลับไปช้อปต่อ แต่ถ้าใครอยากได้จะได้อะไรมากรึ๊บสักนิดเค้าก็มี cocktails ชั้นเลิศ เสิร์ฟด้านนอกบริเวณ outdoor ด้วยน้า
เรียกว่าดื่มไปชมวิวไป พักผ่อนหย่อนใจหลังช็อปปิ้งไปกับเครื่องดื่มอันแสนดื่มด่ำได้เลยนั่นเอง
นอกจากจะมาชิมมาช้อปแล้ว ที่ Louis Vuitton Maison Osaka Midosuji นั้นก็ไม่ได้มีดีแค่นี้นะครับ เพราะจะว่าไปก็เหมือนกับได้มาเที่ยวพิพิธภัณฑ์แห่งหนึ่งเลยเหมือนกัน นั่นก็เพราะตั้งแต่ภายนอกตัวอาคารก็ถูกออกแบบไว้ได้น่าสนใจ การดีไซน์ทั้งในและนอกอาคารเต็มไปด้วยความใส่ใจและพิถีพิถัน ผลงานศิลปะก็เพียบ!
ภายในร้านมีงานศิลปะแขวนเอาไว้มากมายครับ ไม่ว่าจะเป็นภาพวาดของ Vik Muniz, Nicola de Maria, Ida Tursic & Wilfried Mille, Jennifer Bartlett, Polly Apfelbaum, David Reed, Gregor Hildebrandt และ Olivier Debré
นอกจากนี้ยังมีงานประติมากรรมรังไหม โดย Fernando และ Humberto Campana ประติมากรรม Blossom Stool โดย Tokujin Yoshioka Below และประติมากรรม Bulbo โดย Fernando and Humberto Campana แทรกอยู่ในพื้นที่ด้านในด้วย
ผมว่าไปสโตร์เค้าครั้งเดียวเรียกได้ว่าคุ้มจริงๆ ครับ ทั้งช้อป ทั้งชิม แถมยังได้เดินดูงานศิลปะเพลินๆ ด้วย อยู่ทั้งวันยังได้เลยนะเนี่ย เอาเป็นว่าโควิดซาลงเมื่อไหร่ ถึงเวลาบินไปโอซาก้าแล้วล่ะทุกคนนนน
Picture Credit: archdaily
Tag :
"LIFE สาทร - นราธิวาส 22"...นี่น่าจะเป็น คอนโด LIFE ที่มีคนสนใจมากที่สุดในปี 2025
"KAVALON" พัฒนาโดย "เจ้าพ่อแคมปัสคอนโด" แห่งยุคอย่าง AssetWise ซึ่งนี่ก็เป็นโครงการที่ 6 แล้ว ในโซน ม.กรุงเทพ รังสิต
สิ่งหนึ่งที่ผมตั้งตารอเวลาไปงานแถลงข่าวต้นปีของ AssetWise ก็คือ "ชื่อ" ของโครงการใหม่ๆในปีนั้นนั่นละครับ ยอมรับเลยว่า เป็น Dev ที่ตั้งชื่อโครงการได้แปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร ไพเราะเสนาะหู ช่างสรรหาจริงๆ 555
นาทีนี้จะมีทำเลไหนร้อนแรงเท่า 'พระราม 4' ตั้งแต่การมาของอภิมหาโปรเจกต์ใหญ่อย่าง One Bangkok ก็ดูเหมือนว่า ย่านที่ปังอยู่แล้วตรงนี้ จะยิ่งทวีคูณความปังสุดเข้าไปอีกระดับ
AP ที่เตรียมตัวปักหมุดใกล้ BTS ไปหมาดๆ แต่ต้องบอกว่าปีนี้ AP มาเพื่อบุกย่านอุดมสุข ของแทร่!!
โรงแรมใหม่มาเติมเมืองอีกแล้ว ยังไม่แน่ใจว่าจะลงเป็นเชนอะไร แต่ตัวนี้ตั้งติด MRT สถานีศูนย์วัฒนธรรมเลยครับ
'บิวกิ้นแม่งเล่นโคตรตลก' นี่คือคำพูดที่ผมพูดกับเพื่อนหลังดูภาพยนตร์เรื่อง 'ซองแดงแต่งผี' จบ
เปิดภาพแรกสนามบินภูฏานโฉมใหม่ สนามบินแห่งชาติที่จะเปลี่ยนภาพลักษณ์ของภูฏานตลอดไป
ยกให้เป็นร้านผลไม้เคลือบน้ำตาลที่ผมชอบที่สุด อร่อยที่สุด และหากินยากที่สุดด้วย!!!
เปิด “สโคป ทองหล่อ” อัลตร้าลักซ์ชูรี All-Penthouse แห่งแรกในไทย สร้างเสร็จสมบูรณ์บนทำเลทองย่านสุขุมวิท-ทองหล่อ
การที่ "Reference Ekkamai" (เรฟเฟอเรนซ์ เอกมัย) ของ "SC Asset" มาปักธงอยู่ตรงนี้ บริเวณปากซ.เอกมัย 1 จึงจัดเป็น 1 ในโครงการที่น่าสนใจที่สุดอย่างแน่นอน นี่คือทำเลแบบ One-Stop Location for Living ก็ว่าได้
ใครจะไปคิดว่าคาเฟ่ร่มรื่น ฟิลโฮมมี่ๆ สไตล์ญี่ปุ่นแบบนี้ จะซุกซ่อนอยู่ในย่านบางขุนนนท์นี่เอง!!