คิดค่าเขียนแบบเท่าไหร่ เอลซ่าถูกใจสิ่งนี้!
ผมเห็นปุ๊บเป็นต้องหยุดมือเลยครับ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ Sou Fujimoto สถาปนิกชาวญี่ปุ่นชื่อดังได้ปล่อยภาพตึกสูงแห่งใหม่ในเซินเจิ้นออกมาให้ได้ยลกัน
เห็นแล้วนึกออกอยู่แค่ "เหมือนตึกที่หลุดมาจากหนังไซไฟ ไม่ก็โลกอนาคต"
เจ้าตึกนี้เป็น (ว่าที่) ตึกสูงกลางน้ำในเซินเจิ้นครับ ที่บอกว่าเป็น "ว่าที่" ก็เพราะตอนนี้แค่ปล่อยภาพงานออกแบบกับแปลนตัวตึกออกมา เป็นภาพคอนเซ็ปต์ประกวดแบบของเค้า ยังไม่ได้เริ่มก่อสร้างกันแต่อย่างใด แต่เอาตามตรงนะ แค่เห็นภาพก็ว้าวแล้ว
ยังไม่ต้องพูดถึงว่าโปรเจ็คต์นี้อยู่ในมือ Sou Fujimoto อีกต่างหาก!
เท้าความก่อนละกัน ใครที่ติดตามวงการสถาปนิกจะต้องคุ้นชื่อ Sou Fujimoto แน่ๆ เพราะเขาคนนี้ได้ชื่อว่าเป็นสถาปนิกชาวญี่ปุ่นรุ่นใหม่ๆ ที่มีชื่อเสียง โดยผลงานจะเน้นไปที่ความ "น้อยแต่มาก" "เรียบแต่โก้" ดีไซน์สมัยใหม่เน้นประโยชน์ใช้สอยมากที่สุด
ถ้าลองไปดูโปรเจ็คต์ที่ผ่านมาของเค้าแล้วจะเข้าใจได้เลยครับว่าทำไม Sou Fujimoto ถึงประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังไม่มาก นั่นก็เพราะโปรเจ็คต์งานแต่ละชิ้นของเขามันเป็นงานที่มีซิกเนเจอร์แปะยี่ห้อความเป็นตัวของตัวเองสูงจริงๆ นั่นแหละ (ส่วนตัวผมชอบงานบ้านของเค้ามากครับ ดูมีความเป็นญี่ปุ่นสมัยใหม่ แต่ว่างานสเกลใหญ่ๆ เองก็เก๋ไม่แพ้กัน)
และล่าสุดกับผลงานชิ้นใหม่ของเขาก็เปิดภาพการออกแบบที่เรียกได้ว่าชวนตะลึงไปเลยเหมือนกัน กับการออกแบบตึกสูงแห่งใหม่ ตั้งอยู่ที่อ่าว Qianhai เซินเจิ้นครับ
ภาพที่เราเห็นจะเป็นรูปแบบอาคารสูงกว่า 99 ชั้น เห็นแล้วนึกถึงหนังไซไฟอวกาศหรือโลกอนาคตมากๆ ซึ่งก็ต้องยอมรับเลยนะว่างานชิ้นนี้สะท้อนความหลากหลายและสื่อถึงสังคมแห่งยุคสมัยใหม่ได้อย่างเต็มที่จริงๆ
ตอนนี้เหมือนจะยังไม่มีชื่อเฉพาะ เพราะเรียกกันว่าเป็น "Qianhai's New City Center Landmark" หรือก็คือ "แลนด์มาร์คใจกลางเมืองแห่งใหม่ของเฉียนไห่" แบบชั่วคราวไปก่อน
เพราะก็ตามชื่อครับ...หากสร้างเสร็จสมบูรณ์เมื่อไหร่ เจ้าตึกที่ว่านี้ต้องขึ้นแท่นเป็นจุดหมายปลายทางสายใหม่รอคอยให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกไปเยือนแน่นอน!
ตัวตึกประกอบไปด้วยหอคอยย่อยๆ 99 ชั้น ในระดับความสูง 268 เมตร ตั้งหันหน้าไปทางอ่าว Qianhai ถ้าเรามองผ่านสายตาแบบนี้เราจะรู้สึกเหมือนกับว่าตัวตึกมันลอยอยู่กลางอากาศใช่มั้ยล่ะ แต่ว่าในความเป็นจริงแล้วมันคือการใช้เทคนิครูปแบบหนึ่งมาช่วยครับ
นั่นก็คือการสร้างให้แต่ละชั้นเชื่อมโยงเข้ากับแกนหลักของโครงสร้าง จากนั้นจึงค่อยๆ ขยายออกด้านนอกเป็นวงกว้าง เป็นเหมือน facade ช่วยลดแรงลมปะทะ มองไปคล้ายน้ำตกแต่ว่าไม่ใช่ และตัวอาคารจะมีเสาตรงกลางตั้งไว้เป็นโครงสร้างหลักในการรับแรง
พูดก็พูดเถอะนะ รูปทรงการออกแบบแบบนี้มันช่วยสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับวงการสถาปัตยกรรมได้แบบสุดขั้วไปเลย บ้าดี ผมชอบ 5555
เค้าบอกว่า ดูแบบนี้จะเหมือนว่าหอคอยพวกนี้แยกออกจากกัน แต่ว่าในขณะเดียวกันก็รวมกันเป็นหนึ่งเดียว ตรงกับคอนเซ็ปต์ของงาน นั่นคือ “อนาคตของสังคมในยุคแห่งความหลากหลาย”
ดูไปแล้วเราอาจจะนึกสงสัยว่า เอ...เขียนแบบออกมาขนาดนี้ มันจะมีผลกระทบในเรื่องของการรักษาสิ่งเเวดล้อมและการลดใช้พลังงานหรือเปล่า เพราะอันที่จริงสมัยนี้เค้าเน้นไปที่การอนุรักษ์อ่ะเนอะ ซึ่งหลังจากผมไปค้นๆ ดูก็เห็นว่าทีมมีการคำนึงถึงจุดนี้อยู่นะ
ไอ้เสาบางๆ ที่อยู่รอบๆ คือพระเอกครับ หน้าที่หลักคือคอยบังแดดให้เสาใหญ่ที่อยู่แกนกลาง แต่หน้าที่รองคือทำหน้าที่เก็บน้ำฝนแล้วส่งลงไปยังถังเก็บตามเสาบางๆ เหล่านี้นี่แหละ ซึ่งน้ำฝนที่ได้ก็จะเอามาช่วยปั่นไฟใช้ในอาคารได้ เพราะในตัวเสาซ่อนกังหันช่วยปั่นไฟฟ้าเอาไว้ครับ
อ้อ ถามว่าอาคารมันเอาไว้ทำอะไร หลักๆ คือเป็น "จุดชมวิว" ครับ ตามสไตล์เค้าแหละ สร้างอะไรออกมาให้มันดูอะเมซิ่งๆ แต่หน้าที่หลักคือเป็นจุดชมวิว
แต่นอกจากนี้ก็จะมีพื้นที่สำหรับจัดแสดงนิทรรศการ ร้านอาหาร แล้วก็มีโบสถ์ด้วยครับ ซึ่งต้องบอกตรงนี้ก่อนนะว่ายังไม่ได้ปักธงว่าจะสร้างจริงมั้ย มันคือภาพคอนเซ็ปต์ประกวดแบบของเค้า คงต้องจับตาดูกันอีกที เพราะถ้าได้ดีลสร้างจริงล่ะก็ น่าจะเป็นอีกหนึ่งงานที่ท้าทายความสามารถของสิ่งก่อสร้างไร้ขอบเขตแบบเหนือจินตนาการเลย
แต่สำหรับสายเที่ยวอย่างเราก็คือตั้งตารอครับ คนไหนกลัวความสูงอาจจะต้องขอผ่าน 5555
credit: archdaily.com
Tag :
“ได้วิวแม่น้ำ สวยขนาดนี้เลยรึนี่?!“ เป็นความรู้สึกของผมตอนที่ขึ้นไปชั้น 38 วิวสวยแบบไม่มีอะไรมาบดบังเลย มีมุมที่เห็นสวนเบญจกิติด้วย
สำหรับผมแล้ว BTS สถานี "ห้าแยกลาดพร้าว" เป็น สถานี Interchange กับ MRT ที่ผมชอบที่สุด และมักจะเป็นทำเลที่ผมแนะนำ ให้คนมาอยู่อาศัยมากที่สุดอันดับต้นๆเลย
มีความท้าทายเล็กๆ กับการเปลี่ยนอดีต ’สถานทูตออสเตรเลีย‘ ให้กลายมาเป็น ‘Luxury Condo’ และ ’Mixed-Use’ ระดับ ’iconic’ ริม ’ถนนสาทร‘
'เกือบหลับ แต่กลับมาได้' จะมีโครงการไหนกันเชียวที่จะเหมาะกับคำนี้ ถ้าไม่ใช่ 'Hyde Riverbay Charoennakorn' (ไฮด์ ริเวอร์เบย์ เจริญนคร)
โครงการใหม่ของ Major ที่แน่มาก แกร่งมาก เพราะไม่หวั่นไหวกับการต้องถูกขนาบข้างโดย Sansiri แบบรั้วชนรั้วเลย!
'dcondo calm Ramkhamhaeng 40' (ดีคอนโด คาล์ม รามคําแหง 40) ก็เป็นอีกโครงการที่ผมบอกเลยว่า คุณจะลืมภาพจำของแบรนด์ดีคอนโดแบบเดิมๆ ไปแทบหมดสิ้น เพราะโครงการนี้ เค้าอยู่ใกล้รถไฟฟ้าถึง 2 สาย ทั้งสายสีส้มและสายสีเหลือง!!!
ไหนใครกำลังจะรีไฟแนนซ์กันบ้าง ใครกำลังผ่อนบ้านอยู่เพลิน ๆ นี่ห้ามลืมเด็ดเลยนะ เพราะหนี้บ้านพอพ้น 3 ปีแรก ดอกเบี้ยจะพุ่งขึ้นแบบก้าวกระโดดเลย
ขออวดว่าผมได้รีวิวหนังสือเล่มนี้ก่อนหนหน้านี้แล้วด้วยนะ อิอิ แต่ที่จริงผมไม่ได้ตั้งใจรีวิวหรอก แต่เป็นคนอ่านหนังสือแล้วชอบ ‘Short Note’ ประโยคดีๆ คมๆ เก็บไว้ แต่ปรากฏว่ามันโดนบาดเยอะมาก จนสามารถเอามาลงในเพจได้เลย
ช่วงนี้ผมชอบเข้าไปดูงานออกแบบของ Foster + Partners บ่อยสุดๆ คือรู้สึกได้เลยว่าเราอินกับสไตล์การออกแบบของเค้ามากๆ ซึ่งถ้าใครไม่รู้ว่าเค้าคือใคร Foster + Partners คือบริษัทที่ออกแบบ Apple Store ตรงเซ็นทรัลเวิลด์ นั่นแหละครับ น่าจะพออ๋อกันขึ้นมาบ้างเนอะ
ยุคนี้ใครเค้าเที่ยวต่างประเทศกัน คนรวยเค้าเที่ยวนอกโลกครับ!
Apple Store นี่ไม่ว่าจะไปเปิดสาขาที่ไหน ก็สามารถกลายเป็นแลนด์มาร์คของที่นั้นๆ ได้ตลอด ล่าสุดเค้าเพิ่งเปิดสาขาใหม่ที่ประเทศมาเลเซีย ไปหมาดๆ เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน ที่ผ่านมานี่เอง ซึ่งนี่เป็นสาขาแรกของมาเลเซีย
เดือน 7 กำลังจะผ่านพ้นอีกแล้วนะครับ ตอนนี้อากาศกำลังชุ่มฉ่ำแบบสุด ๆ ไปเลย ซึ่งหลายเดือนที่ผ่านมามีสัญญาณว่าดอกเบี้ยแบบคงที่เริ่มกลับมาแล้วนะ