ไม่กี่วันก่อนผมบังเอิญไปเจอทวิตแนะนำผลิตภัณฑ์อาหารรูปแบบใหม่ที่ชื่อ “Plant-based Food” ด้วยความที่ไม่รู้จักก็เลยคิดไปเองว่าคงเหมือนอาหารเจที่ทำรูปทรงให้คล้ายเนื้อสัตว์มั้ง

        ที่สะดุดตามากก็คือเค้ามีรูปแบบที่หลากหลาย ไม่ใช่แค่รูปทรงคล้าย ๆ แต่ดูภายนอกแล้วเหมือนเนื้อสัตว์จริง ๆ เลย อย่างหมูกรอบของโปรดผมนี่เหมือนมาก!!!

        ว่าแล้วก็เลยขอศึกษาทำความรู้จักเค้าซะหน่อย จะได้สอยมากินอย่างไม่คาแคลงใจ พร้อมกับนำมาเล่าให้เพื่อน ๆ ฟังเป็นแนวร่วมไปซื้อกินเป็นเพื่อนกัน 55555

        "Plant-based Food" เป็นอาหารจากพืชครับ โดยคิดค้นให้มีรสชาติ กลิ่น และรสสัมผัสคล้ายเนื้อสัตว์ ซึ่งผลออกมาคล้ายมาก จึงเริ่มเป็นกระแสที่หลาย ๆ คนกล่าวถึง

        โดยวัตถุดิบหลักจะมาจากพืช ผัก ผลไม้ ถั่ว ธัญพืช และเห็ดชนิดต่าง ๆ โดยจะต้องผ่านกระบวนการแปรรูปเพื่อให้มีความใกล้เคียงกับเนื้อสัตว์ในทุก ๆ มิติ

        ความดีงามของ Plant-based Food ยังไม่หมดแค่นั้นนะครับ เพราะจากข้อมูลที่เค้าสำรวจกันมายังพบว่านอกจากจะดีต่อสุขภาพแล้ว ยังดีต่อสิ่งแวดล้อมด้วย

        เริ่มจากด้านสุขภาพก่อน องค์การอนามัยโลกเค้าได้ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการว่า เนื้อแดงและเนื้อสัตว์แปรรูป เป็นอาหารที่อาจก่อให้เกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ 

        นอกจากนั้น หากบริโภคผลิตภัณฑ์แปรรูปจากเนื้อเพิ่มขึ้น 50 กรัมต่อวัน จะเพิ่มโอกาสเป็นโรคมะเร็งลำไส้เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 18 ฟังดูแล้วผมคนนึงแหละที่รู้สึกวิตกขึ้นมาเลย ไอ้เราก็เป็นสายชาบูปิ้งย่างซะด้วย 5555

        ดังนั้นทางเลือกใหม่อย่าง Plant-based Food จึงเป็นทางออกของปัญหานี้สำหรับใครหลาย ๆ คนครับ เพราะได้รสชาติและรสสัมผัสที่คล้านจนเกือบจะเหมือนเลย

        แต่อย่างไรก็ดีก็ยังมีความกังวลเกี่ยวกับปริมาณโซเดียมที่มีอยู่ในอาหารประเภท Plant-based ที่ค่อนข้างมากกว่าเนื้อสัตว์ปกติอยู่ครับ

        ยกตัวอย่าง Plant-based จาก Beyond meat และ Impossible มีโซเดียม 370 และ 390 มิลลิกรัมตามลำดับ ขณะที่เนื้อวัวมีอยู่เพียง 65 – 75 มิลลิกรัมเท่านั้นเอง

        ส่วนทางด้านสิ่งแวดล้อมนั้น Plant-based Food นั้นดีงามต่อโลกกว่าที่เราคิดเยอะเลยครับ เพราะทุกวันนี้ปัญหาภาวะโลกร้อน (Global Warming) เริ่มมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ 

        ซึ่งสาเหตุก็มาจาก การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ หรือก๊าซเรือนกระจกอื่น ๆ ไปสู่ชั้นบรรยากาศ และการลดลงของจำนวนต้นไม้ที่จะช่วยดูดก๊าซเหล่านั้นไม่ให้ขึ้นไปสู่ชั้นบรรยากาศ

        โดยจากผลการศึกษาพบว่าการเลี้ยงสัตว์เพื่อนำมาเป็นอาหาร เช่น การเลี้ยงวัว เป็นการสร้างมีเทนทางหนึ่ง และมีเทนเป็นก๊าซเรือนกระจกที่สำคัญ 

        หลายคนอาจจะนึกว่าจะซักเท่าไหร่เชียว คำตอบคือ 'เยอะมาก' ในระยะเวลา 1 ปีวัวทั้งโลกสามารถสร้างก๊าซเรือนกระจกออกมามากถึง 5.5 พันล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์ 

        เทียบแล้วมากกว่าจำนวนก๊าซเรือนกระจกที่ถูกปล่อยออกมาจากประเทศออสเตรเลีย บราซิล แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สเปน และสหราชอาณาจักรรวมกันซะอีกนะ!!!

        ดังนั้นใครที่คิดว่าก๊าซเรือนกระจกเป็นเรื่องของโรงงานอุตสาหรรม การเปิดแอร์บ้านอย่างเดียวก็คิดผิดแล้วครับ รูปแบบการกินก็ส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมไม่แพ้กันเลย

        อ่านมาถึงตรงนี้ผมว่าหลายคนก็เริ่มที่จะสนใจอยากลองและไปหาซื้อ Plant-based Food มากินกันแล้วใช่มั้ยครับ ไม่ต้องฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ได้รสชาติและสารอาหารที่ใกล้เคียง 

        แต่สิ่งที่ทำให้หลายคนเปลี่ยนใจ รวมถึงผมด้วยก็คือเรื่องของ "ราคา" เนี่ยแหละครับ เพราะในขณะนี้ Plant-based ยังมีราคาที่สูงอยู่เลย 

        ถ้าลองเทียบกับผลิตภัณฑ์ที่มาจากสัตว์ เช่น 'เนื้อบด' ตอนนี้จะมีราคาอยู่ที่ 230 บาทต่อกิโลกรัม แต่ Beyond Meat ที่เป็น Plant-based กลับมีราคาสูงถึง 1350 บาทต่อกิโลกรัมเลยทีเดียว

        จากราคาที่ต่างกันโหดเอาเรื่องนี้เอง จึงดูเหมือนว่าจะเป็นสินค้าสำหรับคนที่มีกำลังซื้อเท่านั้น ซึ่งในอนาคตถ้าได้ความนิยมขึ้นมากกว่านี้ก็คงช่วยให้ราคาถูกลงได้ครับ

        ซึ่งการจะหา Plant-based Food มาลองกินในตอนนี้ก็ไม่ใช่เรื่องยากครับ มีแบรนด์หลากหลายแบรนด์เข้ามาทำตลาด มีทั้งที่ผลิตในไทยเองและนำเข้าจากต่างประเทศ 

        บริษัทที่เราอาจจะเห็นผ่านตากันมาบ้าง เช่น Meat Avatar, More Meat, Let’s Plant Meat หรือเจ้าใหญ่ ๆ อย่าง ซีพีแรม เนสท์เล่ ไทยยูเนี่ยน และ ปตท. ก็ลงมาเล่นในตลาดนี้เช่นกัน

        ส่วนใครที่ไม่ใช่สายเข้าครัว อยากลองชิมอย่างเดียว ผมเห็นร้านอาหารหลาย ๆ ร้านก็มีเมนูที่ทำจาก Plant-based Food อยู่นะ

        เช่น Sizzler ที่เคยได้ร่วมกับ Green Monday ออก 4 เมนูใหม่ที่ใช้ Beyond Beef Patty และ Omni Pork ที่ทำจากพืช 100% 

        เช่นเดียวกันกับ Starbuck ที่ได้เพิ่มเมนูเครื่องดื่มและแซนวิชที่ทำจากพืช อาทิ Oat milk Cocoa Macchiato และ Beyond Meat Sandwich ครับ

        โดยส่วนตัวแล้ว หลังจากที่ผมได้อ่านและศึกษามา ผมว่านี่อาจจะเป็นช่องทางใหม่ที่ช่วยให้ภาคเกษตรกรรมของประเทศเรารุ่งเรืองขึ้นก็ได้นะ

        เพราะอย่าลืมว่าประเทศเราเป็นประเทศเกษตรกรรมที่สามารถสร้างผลผลิตทางการเกษตรได้หลากหลาย มีวัตถุดิบให้นำไปแปรรูปได้เยอะกว่าชาติอื่น ๆ 

        ถ้าหากประเทศไทยมีการศึกษาวิจัยและพัฒนาที่เพียงพอ สามารถตอบโจทย์เรื่องรสชาติ และเนื้อสัมผัสได้ ก็มีโอกาสที่ไทยจะกลายเป็นผู้ส่งออกหลักในตลาดนี้ได้ไม่ยาก

        แล้วเพื่อน ๆ ล่ะครับเคยมีโอกาสได้ลองผลิตภัณฑ์ Plant-based Food ไหนกันแล้วบ้าง มาแนะนำผมให้เปิดโลกวงการอาหารทางเลือกใหม่นี้หน่อยเร็ววววว