การมีบ้าน เป็นสิ่งที่ทุกคนนั้นใฝ่ฝันครับ ผมมักจะพูดอยู่เสมอว่าความต้องการที่อยู่อาศัยจะไม่มีวันหมดไป เพราะที่อยู่อาศัยเป็นหนึ่งในปัจจัย 4
ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ที่บ้านจะเป็นความฝันของใครหลายๆ คนหลายคนใช้เงินที่เก็บหอมรอมริบทั้งชีวิตมาเพื่อจะซื้อบ้าน หลายคนใช้เวลาว่างส่วนใหญ่ไปกับการตกแต่งบ้าน
แต่ก่อนเนี้ยเราอาจจะมี "บ้าน" เพื่อใช้อยู่อาศัย แต่เดี๋ยวนี้บ้านกลายเป็นสิ่งเชิดหน้าชูตาหรือเป็นความภาคภูมิใจของเรานั่นเองครับ อันนี้ผมพูดรวมๆ ถึงคอนโดด้วยนะ
แต่ขึ้นชื่อว่าความฝัน สำหรับใครหลายๆ คนแล้ว "บ้าน" ไม่ใช่สิ่งที่จะสร้างขึ้นมาได้ง่ายๆ เพราะบ้านคือสินทรัพย์ก้อนใหญ่ ซึ่งคนส่วนใหญ่ที่ไม่ได้มีเงินก้อนที่จะซื้อสด ก็จะใช้วิธีการ "กู้จากธนาคาร" แล้วผ่อนเอาครับ ง่ายขึ้นมาหน่อย
แต่!!! สำหรับบางคนการกู้ธนาคาร ก็ยังคงยากอยู่ดี เพราะใช่ว่าจะสามารถเดินดุ่มๆ เข้าไปขอกู้ธนาคารแล้วจะผ่านทุกคน ซึ่งเวลามีคนเข้าไปดำเนินการขอกู้ ธนาคารก็จะต้องคำนึงถึงหลายๆ ปัจจัยเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นฐานเงินเดือน ภาระหนี้สิน ซึ่งที่เค้าดูเนี้ยก็เพื่อใช้พิจารณาว่าผู้กู้นั้นๆ จะมีกำลังผ่อนหรือไม่นั่นเองฮะ
หลายคนที่อาจจะมีภาระหนี้สิน เช่น บางคนยังผ่อนรถอยู่เหลืออีกหลายงวด บางคนฐานเงินเดือนไม่มากพอ ก็อาจจะโดนปัดตกในการอยากได้บ้านสักหลังไปโดยปริยาย
แต่โลกของเราไม่ได้โหดร้ายอย่างนั้นครับ เพราะยังมีการกู้อีกแบบที่ออกมาเพื่อตอบโจทย์คนกลุ่มนี้อยู่นะ นั่นก็คือ "การกู้ร่วม" นั่นเอง เพราะข้อดีของการกู้ร่วมก็คือ มันทำให้เรามีโอกาสในการอนุมัติสินเชื่อง่ายขึ้น รวมถึงวงเงินเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมด้วยนั่นเอง
การกู้ร่วมคืออะไร?
ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจกันก่อนดีกว่าครับว่าการกู้ร่วมเนี้ย มันคืออะไร ชื่อของมันก็บอกอยู่แล้วครับว่ามันคือ "การร่วม" ซึ่งในที่นี้ก็หมายถึง เราได้ร่วมเซ็นสัญญาเพื่อยื่นกู้ทรัพย์สินในชิ้นเดียวกัน ซึ่งการกู้ร่วมซื้อบ้านจะเหมือนเป็นการค้ำประกันกลายๆ ครับ
สมมุติเราเป็นผู้กู้หลัก ผู้ที่จะมากู้ร่วมกับเราก็จะต้องมีคุณสมบัติที่ดีพอๆ กับเรา คุณสมบัติที่ดีในที่นี้ก็หมายถึง การมีฐานเงินเดือนที่ชัดเจน มีประวัติการชำระหนี้ที่ดี และที่สำคัญเลยจะต้องมีรายได้เหลือพอที่จะร่วมกันแบกรับหนี้ได้นั่นเองฮะ
ใครจะสามารถมาเป็นผู้กู้ร่วมกับเราได้บ้าง?
ไม่ใช่ว่าจะหยิบจับเอาใครมาเป็นผู้กู้ร่วมได้นะครับ ขึ้นชื่อว่าร่วมกันเป็นหนี้แล้ว หากไม่ไตร่ตรองให้ดี ปัญหาตามมาแน่นอน ถ้าให้ผมแนะนำเนี้ย ผู้กู้ร่วมควรจะเป็นญาติ พี่น้อง พ่อแม่หรือลูกดีกว่า เพราะการกู้ร่วมนั้นหมายถึงเราจะต้องถือกรรมสิทธิ์ร่วมกันด้วย ถ้าหากสมมุติเอาเพื่อนมาเป็นผู้กู้ ในอนาคตถ้าเกิดว่าเค้าไม่ได้ผ่อนกับเราจริงๆ พอถึงขั้นตอนการโอนกรรมสิทธิ์คืนให้เราก็อาจจะมีปัญหาได้ครับ
ข้อที่ต้องระวังถ้าอยากจะกู้ร่วมมีอะไรบ้าง?
1. การกู้ร่วมคือการรับผิดชอบหนี้ร่วมกัน
อย่างที่ผมกล่าวไว้ข้างต้นเลยฮะว่า การกู้ร่วมเท่ากับการนำสถานะทางการเงินของคน 2 คนมารวมกัน เพื่อให้มีความสามารถในการผ่อนชำระบ้านได้อย่างเพียงพอ ซึ่งในมุมมองของธนาคารเค้าจะมองว่า ผู้กู้ร่วมทั้งสองเนี้ย จะต้องผ่อนชำระร่วมกันด้วย
แต่!! ปัญหาเนี้ยมันไม่เข้าใครออกใครครับ ถ้าหากว่าเราเกิดมีปัญหากับคนที่กู้ร่วมกันระหว่างสัญญา บ้านก็ยังผ่อนไม่หมด หรืออีกฝ่ายไม่อยากผ่อนกับเราแล้ว ทีนี้ครับภาระทั้งหมดจะตกเป็นของอีกฝ่ายทันที ซึ่งนี่แหละครับปัญหาใหญ่ เพราะเราอาจจะไม่สามารถแบกรับภาระหนี้ได้คนเดียว
จะเดินเข้าธนาคารบอกว่าไม่กู้ร่วมแล้วก็ไม่ได้นะครับ เพราะธนาคารเค้าจะไม่อนุมัติให้ถอนการกู้ร่วมได้ ซึ่งอาจจะนำไปสู่การสูญเสียบ้านได้ในภายหลัง ดังนั้น จะกู้กับใคร คิดให้ดีๆ ครับถ้าไม่อยากแบกรับภสระคนเดียวในภายหลัง ทางที่ดีควรเป็นญาติใกล้ชิดกันดีกว่าครับ
2. กู้ร่วมครั้งแรกไม่เป็นไร แต่กู้ครั้งต่อไปยากจัง
อันนี้เป็นกรณีถ้าหากว่าเรากู้ร่วมกับพี่น้องนะครับ เพราะหลังจากที่เราเป็นหนี้ร่วมกับพี่น้องแล้วเนี้ย ก็จะเท่ากับว่าเราใช้สถานะทางการเงินของตัวเองในการกู้ร่วมกันไปแล้ว เกิดวันหนึ่งอยากแยกย้ายมามีครอบครัวเป็นของตัวเอง วันหนึ่งอยากกู้บ้านเป็นของตัวเองบ้าง งานนี้จะยากกว่าเดิมหน่อย เพราะสถานะทางการเงินในการจะกู้ครั้งใหม่จะลดลงนั่นเองฮะ เพราะว่าเรายังมีหนี้ค้างอยู่กับบ้านหลังที่กู้ร่วมกับพี่น้องนั่นเองครับ ฉะนั้นก่อนจะตัดสินใจกู้ร่วมกับพี่น้องต้องคำนึงก่อนนะว่าระหว่างที่เรากำลังผ่อนชำระเนี้ย เราจะไม่มีแพลนอยากได้บ้านหลังอื่นอีก
3. กรรมสิทธิ์จะตกเป็นของทั้ง 2 ฝ่าย
เนื่องจากตอนที่เรายื่นขออนุมัติวงเงินในการกู้บ้านกับธนาคาร เท่ากับว่าได้รับการอนุมัติสำเร็จด้วย "สถานะทางการเงินของทั้ง 2 คน" ดังนั้นกรรมสิทธิ์ ก็ต้องตกเป็นของคน 2 คนด้วยเช่นกัน ซึ่งหากกว่าวันหนึ่งเราอยากขายบ้านหลังนี้แล้ว ก็เท่ากับว่าเราจะต้องได้รับการยินยอมจากผู้ร่วมกู้ด้วยนะครับ วกกลับไปข้อแรก ถ้าเกิดว่าตีกันขึ้นมา ไม่เผาผีกันแล้วเราก็ไม่สามารถขายได้นะครับถ้าอีกฝ่ายไม่ให้ความยินยอม
4. เวลายื่นลดหย่อนภาษีจะถูกหารสอง
ทุกคนรู้ใช่ไหมครับว่า ดอกเบี้ยจากการซื้อที่อยู่อาศัยนั้นเราสามารถนำไปใช้ลดหย่อนภาษีได้ สำหรับคนที่กู้ซื้อบ้านคนเดียวเนี้ย มันไม่มีปัญหาหรอก แต่ถ้าเป็นกรณีที่เรากู้ร่วมซื้อบ้านนั้น เท่ากับว่าดอกเบี้ยที่เราจะนำไปหักลดหย่อนภาษีจะต้องถูกหารเฉลี่ยตามจำนวนของผู้กู้ร่วมด้วย ถึงในความเป็นจริงเราจะผ่อนคนเดียว แต่เวลายื่นลดหย่อนก็ต้องหารนะ!! เสียประโยชน์เต็มๆ
แม้ว่าการกู้ร่วมซื้อบ้านจะมีข้อดีตรงที่เปิดโอกาสให้ประชาชนมีบ้านเป็นของตัวเองง่ายขึ้นก็จริง แต่ก็มีหลายๆ ปัจจัยที่ต้องคำนึงมากๆ ทั้งเรื่องของการแบกภาระการผ่อน เรื่องการถือครองกรรมสิทธิ์ ที่สำคัญคือการไว้เนื้อเชื่อใจของผู้ร่วมกู้ เพื่อจะได้ไม่ต้องมีปัญหาตามมาทีหลัง แต่ถ้าเราได้ผู้ร่วมกู้ดี ทุกอย่างคงไม่มีปัญหาบ้านในฝันไม่ไกลเกินเอื้อมแน่นอนครับผม
Tag :
เคยมีคนถามผมว่า "สมัยนี้ ยังสามารถสร้างคอนโดที่ไม่ใกล้รถไฟฟ้าได้ไหม?" ได้สิ เพราะแม้ว่าความใกล้ รถไฟฟ้า จะเป็น 1 ในปัจจัยหลักที่สำคัญมาก แต่มันก็ยังมีปัจจัยอื่นๆที่ "ขาย" ได้อยู่อีก
จะมีคอนโดปล่อยเช่าอยู่อันนึง ที่แม้แต่ตอนโควิดก็ไม่มีผลอะไร มีคนเช่าตลอดๆ แทบไม่มีช่วงว่าง บางครั้งคือ คนเก่าย้ายออกตอนเช้า ตอนเย็นคนใหม่ใส่หน้ากากอนามัยขนของเข้าอยู่ต่อเลย
หลังจากที่ผมถ่ายรูปห้องตัวอย่างใน Sales Gallery เสร็จ ผมก็หันไปบอกกับคุณบี ที่มาด้วยกัน เชื่อไหมว่า แป๊บๆ เดี๋ยวก็ Sold Out!!
หน้าร้อนซัมเมอร์มันก็ต้องคู่กับทะเล ผมฝันไว้เสมอนะว่าอยากมีคอนโดตากอากาศ แต่ปัญหาก็คือคอนโดติดทะเลส่วนใหญ่มีราคาแรงมาก
หลังจากปล่อย "KLOS Ratchada" ไปไม่นาน "Frasers Property" ก็ได้ฤกษ์เตรียมผุดคอนโดแบรนด์ KLOS แห่งที่ 2 ต่อทันทีครับ
นับตั้งแต่เมืองเริ่มขยายตัวออก พื้นที่ที่หลายคนเคยมองข้ามก็กลายเป็นว่าเริ่มเนื้อหอมขึ้นเรื่อยๆ
"Osaka Expo 2025" ตำนานบทใหม่ของญี่ปุ่น เปลี่ยนเกาะเทียมธรรมดาให้กลายเป็นเมืองขนาดย่อม
เทรนด์อาคารอนุรักษ์พลังงานยังคงมีมาให้เห็นกันเรื่อยๆ และล้ำหน้ามากขึ้นทุกวันๆ และหนึ่งในโปรเจ็คที่น่าตื่นตาตื่นใจและควรค่าให้หยิบมาพูดถึงกันในวันนี้คือ "505 State Street" ครับ
ในวินาทีที่ผมย่างเท้าเข้ามาชมห้องตัวอย่างของโครงการ "Amatara Residences Rayong" (อมาธารา เรสซิเดนเซส ระยอง) บอกตามตรงว่าแอบคิดลึกๆ ในใจว่า 'นี่มันอีกระดับของที่พักตากอากาศแล้ว'
หลังจากสร้างเสียงฮือฮาแก่ชาวโลกจากโครงการ The Line เมืองภายใต้กำแพงยักษ์จากประเทศซาอุดีอาระเบีย ซึ่งโครงการนี้เป็นอยู่ภายใต้โครงการ Neom ซึ่งเป็นโครงการที่ทางซาอุฯ หมายมั่นให้เป็นเมืองใหม่ที่มาจากโลกอนาคตนั่นเอง แต่มันจะหยุดอยู่แค่ The Line ไม่ได้ครับ เพราะขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองแห่งอนาคต ความล้ำจะต้องไปสุดกว่านี้ ล่าสุดทาง Neom ส่งอีก Golf Community มาเพิ่มอีก!!
เรากำลังจะมีสวนสนุกธีม Dragon Ball แห่งแรกของโลกแล้วครับ! แถมยังการันตีว่าใหญ่กว่าดิสนีย์แลนด์ด้วย!
ร้อนๆ แบบนี้ ถ้าได้เครื่องดื่มเย็นๆ สักแก้วดับร้อนนี่บอกเลยว่าสดชื่นมากกกกก ยิ่งถ้าได้เครื่องดื่มสไตล์ไทยๆ นี่แหละตอบโจทย์เลย!!!!