เวลาไปดูโครงการคอนโดฯ หรือว่าโครงการบ้านทั้งหลาย ผมจะชอบแอบเหล่มองไปทางส่วนของพื้นที่สำหรับเด็กอยู่บ้างครับ
เอาจริงๆ ก็คือผมรู้สึกว่าพื้นที่ส่วนกลางของโครงการต่างๆ ในบ้านเรามี playground สำหรับเด็กค่อนข้างน้อย และส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่ที่ตั้งเอาไว้ในร่ม (ก็เข้าใจแหละว่าแดดแรง 555) แต่ผมก็แอบคิดนะว่ามันจะดีกว่าหรือเปล่าถ้าโครงการบ้านและคอนโดฯ บ้านเราหันมาใส่ใจพื้นที่สำหรับเด็กเพิ่มขึ้นอีกนิด
ซึ่งก่อนหน้านี้ผมก็พอจะเห็นบ้างแหละว่ามีบางเจ้าเค้าก็เรียกได้ว่าใส่ใจ จับมือกับทางโรงพยาบาลเด็กหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ออกแบบ playground ในพื้นที่ส่วนกลางเพื่อส่งเสริมพัฒนาการสำหรับน้องๆ หนูๆ โดยเฉพาะ
เห็นแล้วก็แอบชื่นใจครับ เพราะยังไงซะวัยนี้เค้าก็เรียนรู้ผ่านการ "เล่น" อยู่แล้ว
แต่อย่างที่บอกไปว่ามันยังมีน้อย ทั้งจำกัดจำนวนพื้นที่และตั้งอยู่ในที่ร่มเสียมาก
ถ้าเรามี playground ให้เด็กๆ แบบกลางแจ้งแต่ปลูกต้นไม้ใหญ่เพื่อให้ร่มเงา พร้อมกับออกแบบเครื่องเล่นต่างๆ ให้เหมาะจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาการเรียนรู้และการเจริญเติบโตของเด็กๆ บ้างผมก็ว่าน่าจะเข้าท่าดีนะ
วันนี้ไปเจอโปรเจ็คต์หนึ่งที่น่าสนใจ มันไม่ใช่ playground ในโครงการบ้านหรอกครับ แต่เป็น playground ในที่แจ้งที่เค้าเปลี่ยนพื้นที่ของศูนย์อุตสาหกรรมเก่าบริเวณตอนเหนือของกรุงปักกิ่งให้เป็นพื้นที่สำหรับเด็กเล่นโดยเฉพาะ
พื้นที่โครงการก็อย่างที่เห็น จัดว่ากว้างขวางทีเดียว และที่สำคัญมีทั้งพื้นที่กลางแจ้งและพื้นที่ในร่มให้ด้วย
เห็นแล้วรู้สึกว่าน่าสนใจดี ดีเวลลอปเปอร์บ้านเราอาจลองเพิ่มพื้นที่สำหรับเด็กให้มากขึ้น หรือผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมืองอาจจะลองหาพื้นที่ที่เป็น leftover มาสร้างให้เด็กๆ เข้าไปใช้งานได้ดูนะครับ ผมว่าสร้างประโยชน์ได้เหมือนกัน
สำหรับ The Playscape นี้เป็นผลงานของทีมสถาปนิกอย่าง waa studio จากเมืองปักกิ่ง ที่ชุบชีวิตโกดังเก็บสินค้าประเภทเมล็ดพืชสำหรับการขนส่งเพื่อกระจายสินค้า ให้เป็นสนามเด็กเล่นใหญ่ยักษ์เพื่อเสริมสร้างพัฒนาการของน้องๆ หนูๆ โดยเฉพาะ
จะบอกให้ว่าลูกค้าของโปรเจ็กต์นี้ ก็คือผู้ให้บริการด้านสุขภาพที่มีความเชี่ยวชาญในด้านของการสังเกต และสนับสนุนพัฒนาการของเด็กที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวในหลายช่วงวัยอยู่แล้วด้วย
เพราะงั้นมันเลยออกมาเป็นพื้นที่ที่ไม่ใช่แค่ให้เด็กๆ มาเล่นเอาสนุก แต่เป็นการส่งเสริมพัฒนาการของเด็กๆ ในเมืองใหญ่ที่ขาดหายไปด้วยพร้อมกัน
โดยโปรเจ็คต์นี้สอดแทรกแนวคิด "Back to the Neighborhood" เปิดโอกาสให้เด็กๆ ทั้งหลายได้เรียนรู้ผ่านการเล่นและการผจญภัย และทางผู้ออกแบบเค้าคาดหวังที่จะออกแบบมันออกมาในรูปแบบของประสบการณ์การเล่นตามท้องถนน จำลองการเล่นบอร์ดเกม รวมไปถึงเกมมือถือด้วย
ทั้งหมดทั้งมวลที่ทำออกมาเลยจะเป็นการผสานคาแร็กเตอร์ของสิ่งที่พูดไปทั้งหมดนั้นมาเข้ากับบริบทของพื้นที่ แล้วก็แบ่งคอนเซ็ปต์ของแต่ละสัดส่วนออกมาตามนี้ครับ
-Hide and seek (พัฒนาการแบบกลุ่ม): การเล่นซ่อนหาเป็นกิจกรรมที่สามารถส่งเสริมพัฒนาการแบบกลุ่มได้ พร้อมกันนั้นก็ยังเสริมสร้างจินตนาการและการมีปฏิสัมพันธ์ไปพร้อมกัน
-Adventure playground (ท้าทาย): เด็กๆ จะได้ลองเสี่ยงตัดสินใจว่าอยากทำหรือไม่ทำกิจกรรมไหน ความเสี่ยงระดับใดที่รู้สึกไม่ปลอดภัย เพื่อที่พวกเขาจะได้พบกับประสบการณ์ใหม่ๆ ด้วย
-Nook and Cranny (สัดส่วนร่างกาย): พื้นที่ที่ให้เด็กๆ ได้ทำการค้นพบและทำความเข้าใจในการยศาสตร์หรือสรีระร่างกายของตัวเอง
-Maze (การค้นพบ): เขาวงกตจะเป็นสถานที่ที่เด็กๆ จะได้ลองค้นหาด้วยตัวเองว่าทางไหนยาก ทางไหนง่าย ทางไหนสลับซับซ้อน และแน่นอน พวกเขาจะได้เรียนรู้ว่าบางครั้งทางที่ง่ายก็ไม่ใช่ทางออกเสมอไป
-Fantasy (จินตนาการ): พื้นที่แลนด์สเคปแบบแอ็บสแตร็กต์ เสริมสร้างจินตนาการการวิ่งเล่น ให้ความยืดหยุ่นในสถานการณ์ตามความคิด
ถ้าเรามองแวบแรกจะเห็นเลยว่าเขาเน้นไปที่องค์ประกอบ 3 อย่างในการสร้างสนามเด็กเล่นแห่งนี้ คือ ท่อ หลังคา และลานเนิน
ท่อ เอาไว้ทดสอบการรับรู้ของร่างกาย หลังคามีไว้ให้เด็กๆ กล้าออกจากกรอบด้วยการเดินในระดับความสูงที่แตกต่าง ส่วนลานเนินนั้นก็ช่วยในเรื่องของการพัฒนาสมดุลครับ
ตัวพื้นที่ที่เห็นหลักๆ ของสนามเด็กเล่นนั้นจะเป็นคอร์ตใหญ่ที่ถูกล้อมด้วยอาคารทั้งหลาย ซึ่งพื้นที่ด้านในเองมีแบ่งระดับการเล่นของแต่ละช่วงอายุไว้ด้วย
อย่างโซนแรกจะเป็นสนามระดับเดียวที่มีความสูง 6 เมตร เหมาะสำหรับเด็กอายุ 2-4 ขวบ จะมีลักษณะเป็นพื้นที่สำหรับให้เด็กๆ คลานไปตามพื้นที่ถูกออกแบบไว้ให้มีพื้นผิวอ่อนนุ่ม
ทางด้านโซนสองเองก็จะเป็นพื้นที่แนวตั้งที่แบ่งออกเป็น 3 ระดับ มีพื้นที่แบบใต้ดิน เหมาะสำหรับเด็กอายุ 4 ขวบขึ้นไป
ตรงนี้ก็จะแอดวานซ์ขึ้นมานิดคือออกแบบให้เด็กๆ สามารถปีนป่ายไปบนโครงตาข่ายได้ ซึ่งเจ้าโครงตาข่ายเหล่านี้ก็ถูกสร้างออกมาให้มีความลาดเอียงเหมาะจะกระตุ้นให้เด็กๆ สนุกสนานออกกำลังแขนด้วยนะ
ทางด้านชั้น 2 และ 3 นั้นจะเป็นห้องเรียนแบบมัลติฟังก์ชันครับ มีด้วยกันทั้งหมด 6 ห้อง มีเนินขนาดความสูง 7 เมตร โดยเนินหลังคาจะเชื่อมต่อกันหมด ผู้ปกครองจึงไม่ต้องกังวลว่าจะดูแลเด็กๆ ได้ไม่ทั่วถึง อ้อ ที่นี่เค้ายังมีร้านอาหารและห้องสมุดคอยให้บริการด้วย ตอบโจทย์มากๆ เลย
สำหรับเด็กๆ นั้น การเล่นก็ถือเป็นการเรียนรู้อย่างหนึ่ง ผมเลยคิดว่าถ้ามีพื้นที่สำหรับพวกเค้ามากๆ และออกแบบมาอย่างใส่ใจสักหน่อยก็น่าจะเป็นการปูพื้นฐานให้อย่างดีทีเดียว
เพราะการที่เด็กๆ ได้เรียนรู้ผ่านการเล่นและการผจญภัยนั้นเป็นอะไรที่เหมาะสมกับวัยของพวกเขามากที่สุดแล้วครับ
Tag :
“โอ้โห ได้วิวนี้เลยเรอะ คอนโดอยู่ตรงนี้เลยจริงดิ นี่มันอยู่ท่ามกลางดง รีสอร์ท โรงแรม เลยนะ“ ผมเผลอหลุดปากออกมา เมื่อได้เห็นภาพโครงการครั้งแรก
"LIFE สาทร - นราธิวาส 22"...นี่น่าจะเป็น คอนโด LIFE ที่มีคนสนใจมากที่สุดในปี 2025
"KAVALON" พัฒนาโดย "เจ้าพ่อแคมปัสคอนโด" แห่งยุคอย่าง AssetWise ซึ่งนี่ก็เป็นโครงการที่ 6 แล้ว ในโซน ม.กรุงเทพ รังสิต
วันก่อนเข้าออฟฟิศไปแถวๆ โชคชัย 4 นึกขึ้นได้ว่า เออ มันมีคอนโดโครงการหนึ่งของ SC Asset แถวๆ นี้นี่นา เรายังไม่เคยไปดูทำเลเลยแหะ!! COBE Ladprao - Sutthisan (โค้บบ์ ลาดพร้าว-สุทธิสาร) งานนี้เลยถือโอกาสลองเดินจ้ำอ้าว ไปส่องดูทำเลหน่อยซิ ว่าจะดีซักแค่ไหนกันเชียว
ที่ดินศูนย์กลางเมืองไม่เคยมีวันไหนที่ไม่ร้อนฉ่า
ส่องโครงการรัฐกันบ้างครับ หลังจากที่เค้ามีการเปิดจองสิทธิ์โครงการ 'บ้านเพื่อคนไทย' ไปตั้งแต่เมื่อช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา แต่ตอนนี้ปิดลงทะเบียนไปเรียบร้อยแล้ว
เมื่อความหวานในใจต่ำเกินไป ชวนทุกคนมาเติมความหวาน กับเครื่องดื่มใหม่จากคริสปี้ครีม Krispy Kreme Sweet Pink Milk
มันจะมีอยู่รสชาติหนึ่งครับ ที่ไม่ว่าจะได้ลิ้มรสเมื่อไหร่ ก็จะนึกถึงวันวานตอนเป็นเด็กตลอด นั่นก็คือ 'โอวัลติน'!! กินทีไรเป็นต้องฟินเสมอ
พาชิมพิซซ่าโฮมเมดร้านดังประจำตลาดนัดจตุจักรที่แมสและสบายกระเป๋าที่สุดในตอนนี้!
วันนี้มีโอกาสได้เข้าไปร่วมฟังเสวนาในหัวข้อ 'อยู่สูงอย่างมั่นใจอาคาร SC ปลอดภัย 100%'
"MX27" ช่วง "อโศก-พร้อมพงษ์" นี่มันดงโรงแรมชัดๆ
เหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา แม้ว่าจุดศูนย์กลางจะอยู่ที่ประเทศเมียนมาร์ แต่แผ่นดินไหวครั้งนี้ กลับรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนได้ถึงกรุงเทพมหานคร ที่อยู่ห่างจากจุดศูนย์กลางไกลนับพันกิโลเมตร