สุขภาพต้องมาก่อน... ผมเชื่อความคิดนี้เป็นคติประจำใจของการใช้ชีวิตของใครหลายคน ใช่ครับการไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ แต่การที่มีสุขภาพดีด้วยนั้นประเสริฐยิ่งกว่า
ซึ่งถ้าจะทำให้ชีวิตของเรามีสุขภาพที่ดี สถานที่แรกที่เราจะสามารถเยียวยาทั้งร่างการและจิตใจได้ดีที่สุดก็คือ "บ้าน" ของพวกเรานั่นเอง ยิ่งช่วงนี้ต้องอยู่แต่บ้านกันด้วย 555
เหตุนี้เองที่การเลือกบ้านสักหลัง จึงเป็นเรื่องที่เราต้องพิถีพิถันเป็นพิเศษ เพราะถ้าบ้านของเรามีตัวช่วยให้สามารถเข้าถึงบริการสุขภาพก็จะถือว่าตอบโจทย์มาก ๆ ครับ
แนวคิด “Tomorrow. Reimagined.” ของ พฤกษา ที่นำความต้องการของผู้บริโภคมาเป็นโจทย์สำคัญในการออกแบบ เพื่อ “อนาคต” ของลูกบ้านจึงเป็นต้นแบบที่น่าสนใจ
เพราะถือเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นของแบรนด์ว่า “พฤกษา ใส่ใจ…เพื่อทั้งชีวิต” ที่สามารถช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับลูกบ้านอย่างแท้จริงครับ
ถ้าจะอธิบายให้เห็นภาพว่าพฤกษาเค้าทำอะไร คำตอบก็คือนำแนวคิดนี้มาพัฒนาด้าน Health & Wellness โดยจับมือร่วมกับ “โรงพยาบาลวิมุต” โรงพยาบาลในเครือพฤกษา
เพื่อออกแบบบ้านและพื้นที่ส่วนกลางในหลายโครงการให้ตอบโจทย์ รวมถึงมอบสิทธิประโยชน์ในการดูแลสุขภาพแก่ลูกบ้านทุกคนนั่นเอง
ผมขอยกตัวอย่างโครงการ "Patio รัชโยธิน" ที่ผมประทับใจมาเล่าให้ทุกคนฟังนะครับ เค้าเริ่มต้นจากความคิดง่าย ๆ ที่ว่าถ้าผู้สูงอายุอยู่และดูแลสุขภาพได้ยังไง?
เหมือนง่ายใช่มั้ยครับ ก็แค่มีคนดูแล ไม่ก็จ้างพยาบาลส่วนตัว แต่สิ่งที่เค้าคิดลึกซึ้งกว่านั้น เพราะทุกส่วนประกอบของบ้านต้องปลอดภัย แม้จะใช้งานเพียงลำพัง!
จึงเกิดเป็นความร่วมมือของ “โรงพยาบาลวิมุต” และสายงานทาวน์เฮาส์ของพฤกษา ซึ่งใส่ใจในเรื่อง Elder & Health Care ทำให้การออกแบบบ้านคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก
แล้วถ้าเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นมาล่ะ? ใช่ครับ.. ทำเลที่ตั้งของโครงการก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน อย่างย่านรัชโยธินที่ตั้งโครงการนี้ก็อยู่ไม่ไกลจากโรงพยาบาลวิมุต พหลโยธิน
ทำให้การเคลื่อนย้ายผู้ป่วย รวมถึงการมอบสิทธิพิเศษให้กับลูกบ้านของโครงการ ง่ายดายขึ้น อาทิ สิทธิในการดูแลสุขภาพของผู้อยู่อาศัยและทุกสมาชิกในครอบครัวตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงบริการรถรับส่งเพื่อตรวจสุขภาพฟรี เป็นต้น
ซึ่งนอกจากโครงการ Patio รัชโยธิน แล้ว ก็ยังมีบ้านเดี่ยวระดับ Luxury อย่างโครงการ "The Palm" ที่ออกแบบตามหลัก “Universal Design”
โดยไม่ใช่แค่พื้นที่บางส่วนเท่านั้นนะครับ แต่ทั้งในพื้นที่อยู่อาศัยและพื้นที่ส่วนกลางให้ ทำให้ทั้งโครงการเหมาะกับคนทุกเพศทุกวัย ยิ่งผู้สูงอายุนี่ยิ่งเหมาะเลย
อย่างเช่นครอบครัวใครที่มีผู้สุงอายุแล้วต้องใช้รถเข็นในการดำรงชีวิต ทุกการสัญจรภายในบ้านเค้าก็รองรับรถเข็นตั้งแต่เข้าประตูบ้านไปจนถึงห้องนอนเลยนะ
รวมไปถึงการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางร่วมกับโรงพยาบาลวิมุต ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่จอดรถสำหรับผู้สูงอายุ พื้นที่ลาดในสวนสาธารณะ
หรือแม้แต่สนามเด็กเล่นก็ล้วนออกแบบให้ลบขอบเหลี่ยมมุม มั่นใจได้ว่าไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อเด็กจะวิ่งเล่น ซุกซนแค่ไหน ทุกย่างก้าวว่าปลอดภัยกว่าที่เคยแน่นอน
ซึ่งทั้งหมดที่เล่ามาก็ยังไม่ใช่ทั้งหมดของแนวคิดนี้นะครับ เพราะทางพฤกษาเค้ายังมีองค์ประกอบสำคัญที่จะเติมเต็มการใช้ชีวิตของเราอย่างไร้กังวลอีกอย่าง
คือการเข้าถึงบริการด้านสุขภาพได้อย่างทั่วถึง ไม่ว่าจะเป็น ViMUT Health Care Center ที่เป็นการจัดตั้งศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ และคลินิกดูแลประชาชน
บริเวณโครงการ GEMO ถนนสุขาภิบาล 2 ซึ่งอยู่ใกล้กับโครงการของ Pruksa Avenue ถึง 8 โครงการ รวมแล้วกว่า 1,700 หลังคาเรือนที่จะไปใช้บริการได้
ไม่ว่าจะเป็นบริการสำหรับผู้ป่วยพักฟื้น บริการรถรับ-ส่งผู้ป่วย บริการตรวจสุขภาพประจำปีและตรวจโรคทั่วไปที่ ViMUT Health Care Center ไม่ต้องไปไกลถึงโรงพยาบาลให้เสียเวลา
นอกจากนี้ยังมีบริการ Tele Medicine ที่ให้คำปรึกษาแพทย์ Online ผ่านทางเว็บไซต์และแอปพลิเคชันของโรงพยาบาลวิมุต โดยใช้ได้ทั้งผู้ป่วยเก่าและผู้ป่วยใหม่
รวมถึงขอคำปรึกษาจากแพทย์ให้ตัวเองหรือขอคำปรึกษาให้คนในครอบครัวได้ เช่น ผู้ป่วยติดเตียง ผู้ที่ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ หรือแม้แต่เด็กเล็กก็ตาม
สรุปแล้วผมว่า "Tomorrow. Reimagined." นิยามใหม่จากพฤกษาชี้ถือเป็นต้นแบบที่ดีในการสร้างสรรค์โครงการใหม่ ๆ ออกมาสู่สังคมได้ดีเลย
เพราะนอกจากจะช่วยรักษาปัญหาด้านสุขภาพเมื่อเราเกิดการเจ็บป่วยหรือเหตุจำเป็นแล้ว ยังช่วยป้องกันให้เราห่างไกลจากโรค และได้ดูแลสุขภาพตัวเองอย่างสม่ำเสมอแม้อยู่บ้านก็ตาม
ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าประเทศไทยเราก็จะกลายเป็นประเทศแห่งสังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มตัว การที่โครงการบ้านเริ่มผูกพันธมิตรกับโรงพยาบาลจึงเป็นอีกจุดขายที่น่าสนใจ
เพราะสามารถช่วยให้ผู้อยู่อาศัยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เหมือนแนวคิดการใช้ชีวิตที่หลายคนตอกย้ำตัวเองว่า "สุขภาพมาก่อนเสมอ" นั่นเอง :)
Tag : Tomorrow. Reimagined. | Pruksa | สุขภาพมาก่อนเสมอ
เคยมีคนถามผมว่า "สมัยนี้ ยังสามารถสร้างคอนโดที่ไม่ใกล้รถไฟฟ้าได้ไหม?" ได้สิ เพราะแม้ว่าความใกล้ รถไฟฟ้า จะเป็น 1 ในปัจจัยหลักที่สำคัญมาก แต่มันก็ยังมีปัจจัยอื่นๆที่ "ขาย" ได้อยู่อีก
จะมีคอนโดปล่อยเช่าอยู่อันนึง ที่แม้แต่ตอนโควิดก็ไม่มีผลอะไร มีคนเช่าตลอดๆ แทบไม่มีช่วงว่าง บางครั้งคือ คนเก่าย้ายออกตอนเช้า ตอนเย็นคนใหม่ใส่หน้ากากอนามัยขนของเข้าอยู่ต่อเลย
หลังจากที่ผมถ่ายรูปห้องตัวอย่างใน Sales Gallery เสร็จ ผมก็หันไปบอกกับคุณบี ที่มาด้วยกัน เชื่อไหมว่า แป๊บๆ เดี๋ยวก็ Sold Out!!
หลังจากปล่อย "KLOS Ratchada" ไปไม่นาน "Frasers Property" ก็ได้ฤกษ์เตรียมผุดคอนโดแบรนด์ KLOS แห่งที่ 2 ต่อทันทีครับ
นับตั้งแต่เมืองเริ่มขยายตัวออก พื้นที่ที่หลายคนเคยมองข้ามก็กลายเป็นว่าเริ่มเนื้อหอมขึ้นเรื่อยๆ
ตัวจริง Comeback แล้วจ้าาา พี่สิบหมื่น หรือ แสนสิริ ส่งคอนโดใหม่ บุกย่านสวนพลู กับโครงการ HAUS Nang Linchee (เฮ้าส์ นางลิ้นจี่) ตอนนี้ล้อมไวนิลเรียบร้อยแล้วด้วย
"Osaka Expo 2025" ตำนานบทใหม่ของญี่ปุ่น เปลี่ยนเกาะเทียมธรรมดาให้กลายเป็นเมืองขนาดย่อม
เทรนด์อาคารอนุรักษ์พลังงานยังคงมีมาให้เห็นกันเรื่อยๆ และล้ำหน้ามากขึ้นทุกวันๆ และหนึ่งในโปรเจ็คที่น่าตื่นตาตื่นใจและควรค่าให้หยิบมาพูดถึงกันในวันนี้คือ "505 State Street" ครับ
ในวินาทีที่ผมย่างเท้าเข้ามาชมห้องตัวอย่างของโครงการ "Amatara Residences Rayong" (อมาธารา เรสซิเดนเซส ระยอง) บอกตามตรงว่าแอบคิดลึกๆ ในใจว่า 'นี่มันอีกระดับของที่พักตากอากาศแล้ว'
หลังจากสร้างเสียงฮือฮาแก่ชาวโลกจากโครงการ The Line เมืองภายใต้กำแพงยักษ์จากประเทศซาอุดีอาระเบีย ซึ่งโครงการนี้เป็นอยู่ภายใต้โครงการ Neom ซึ่งเป็นโครงการที่ทางซาอุฯ หมายมั่นให้เป็นเมืองใหม่ที่มาจากโลกอนาคตนั่นเอง แต่มันจะหยุดอยู่แค่ The Line ไม่ได้ครับ เพราะขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองแห่งอนาคต ความล้ำจะต้องไปสุดกว่านี้ ล่าสุดทาง Neom ส่งอีก Golf Community มาเพิ่มอีก!!
เรากำลังจะมีสวนสนุกธีม Dragon Ball แห่งแรกของโลกแล้วครับ! แถมยังการันตีว่าใหญ่กว่าดิสนีย์แลนด์ด้วย!
ร้อนๆ แบบนี้ ถ้าได้เครื่องดื่มเย็นๆ สักแก้วดับร้อนนี่บอกเลยว่าสดชื่นมากกกกก ยิ่งถ้าได้เครื่องดื่มสไตล์ไทยๆ นี่แหละตอบโจทย์เลย!!!!