"พื้น" เป็นองค์ประกอบสำคัญของบ้านหรือคอนโด ที่หลายคนอาจจะหลงลืม หรือ อาจจะไม่ค่อยให้ความสนใจมากนัก ทั้งๆ ที่ความเป็นจริงๆ แล้ว "พื้น" เป็นองค์ประกอบของห้อง ที่เราสัมผัสบ่อยที่สุดเลยแท้ๆ
หลายคนที่เพิ่งเข้ามาศึกษาเรื่องการเลือกซื้อคอนโด หรือ เพิ่งเข้าสู่วงการเล่นคอนโด ผมบอกเลยครับว่า เวลาเราไปดูโครงการเนี้ย เรื่องพื้นเป็นสิ่งที่เราไม่ควรที่จะมองข้ามเด็ดขาดเลยนะครับผม
คนที่ยังใหม่ในวงการนี้ อาจจะงง และตั้งคำถามว่า เอ้า แล้วเราจะรู้ได้ยังไงล่ะว่าพื้นห้องในคอนโดมันมีกี่แบบ แล้วแต่ละแบบมันแตกต่างหรือมีข้อดีข้อเสียยังไงบ้าง? แหม ผมจั่วหัวมาขนาดนี้ จะปล่อยให้พวกคุณงงได้ไง ถูกไหมครับ? อิอิ
เพราะวันนี้คอนโดติดดอย จะพาทุกคน ไปทำความรู้จักกับเรื่องพื้นๆ ที่โคตรจะสำคัญอย่างเรื่อง วัสดุปูพื้นคอนโดกันครับผม ซึ่งโดยทั่วๆ ไปแล้วไอเจ้าวัสดุปูพื้นในคอนโด เรามักจะเห็นผ่านตาเราบ่อยๆ อยู่ 6 ประเภท ได้แก่
1. Laminate (ลามิเนต)
ก็ต้องเริ่มต้นด้วยตัวฮิตอย่าง พื้นไม้ลามิเนตสิครับ เชื่อไหมว่าเวลาไปห้องตัวอย่าง 10 โครงการ เจอพื้นวัสดุนี้ไปแล้ว 7 โครงการ แล้วทำไมเจ้าพื้นไม้ลามิเนตถึงได้ฮอตขนาดนี้ล่ะ? ลามิเนต เป็นวัสดุที่ถูกสร้างมาเพื่อทดแทนไม้ปาร์เก้และไม้จริง โดยที่ลามิเนตจะถูกสร้างมาจากส่วนประกอบอย่างเศษไม้หรือไม่ก็มีการนำวัสดุสังเคราะห์อื่นๆ มาทำการบีบอัดด้วยความแรงสูง ก่อนจะทำการเคลือบทับด้วยเมลามีนลามิเนต ส่วนลวดลายไม้ก็จะมีการใช้พวกคอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยครับ
ด้านความหนาของพื้นลามิเนตที่เราสามารถเจอได้ทั่วๆ ไปจะมีความหนาอยู่ที่ คือ 8 มม. และ 12 มม. วิธีสังเกตว่าหนาหรือไม่หนาสำหรับพื้นลามิเนตคือการลงน้ำหนักเวลาเราเดินครับถ้าไม่มีเสียงดังก็แปลว่าลามิเนตที่โครงการใช้จะค่อนข้างหนาหน่อย ส่วนถ้าโครงการไหนเสียงดังเวลาเราเดินเนี้ย ก็ให้ประเมินเบื้องต้นคร่าวๆ ไปเลยว่า พื้นมันบ๊างงง
ข้อดีของพื้นไม้ลามิเนต นอกจากจะมีราคาที่ถูกกว่าการใช้ไม้จริงแล้ว ด้านความทนทานก็ค่อนข้างโอเคเลยนะครับ เพราะจุดเด่นของลามิเนตคือผิวหน้าของพื้นประเภทนี้จะค่อนข้างทนทานต่อรอยขีดขูด พื้นผิวก็ไม่ค่อยลื่นทำความสะอาดง่าย แถมยังเป็นพื้นที่ไม่เก็บฝุ่น ทนทานต่อความร้อนและที่สำคัญพื้นประเภทนี้จะไม่ติดไฟ ส่วนข้อเสียคือแม้จะไม่ติดไฟแต่ลามิเนตไม่ถูกกับน้ำครับ ถ้าโดนน้ำน้องอาจจะพองได้เน้อ เพราะฉะนั้นใครที่อยู่คอนโดที่ใช้พื้นแบบนี้พยายามเลี่ยงน้องออกจากน้ำหน่อยนะ
2. Vinyl (พื้นกระเบื้องยาง)
ต่อด้วยอีกหนึ่งวัสดุที่เป็นที่นิยมเช่นเดียวกันครับ นั่นก็คือกระเบื้องยางนั่นเอง เมื่อพูดถึงวัสดุประเภทนี้ผมเชื่อว่ามีจำนวนไม่น้อยเลยที่แอบด้อยค่าน้องกันอยู่บ้างแน่นอน เพราะเราจะมีภาพจำว่า กระเบื้องยาง มักจะมาพร้อมหน้าตาที่ไม่ค่อยสวยเท่าไหร่นัก แต่ความจริงแล้วน้องเค้าน่ารักกว่าที่คิดมากนะ!! เพราะกระเบื้องยางเป็นวัสดุที่มีความทนทานสูงต่อสภาวะอากาศสูงมากๆ ทนแดด ทนร้อน ได้ดีสุดๆ โดนน้ำก็ไม่บวม แถมไม่ได้เป็นอาหารจานโปรดของปลวกด้วย
แม้แต่ก่อนน้องจะมีหน้าตาและลวดลายไม่ค่อยสวยงามเท่าไหร่นัก แต่เดี๋ยวนี้กระเบื้องยางเริ่มมีลวดลายมาให้เลือกมากขึ้นแล้วนะ น้องมีการปรับภาพลักษณ์ให้สวยงามและเข้ากับยุคสมัยมากขึ้น แถมเดี๋ยวนี้กระเบื้องยางลายไม้เริ่มมาแรงแบบเบียดลามิเนตไปติดๆ แล้วเพราะพอเราปูออกมากระเบื้องยางแทบจะดูไม่ต่างจากลามิเนตเลยครับ แต่ข้อเสียก็แอบมีอยู่นิดนึงคือเวลาปูกระเบื้องยาง จำเป็นที่จะต้องแต่งยาแนวให้มันดูเรียบเสมอกับกระเบื้องก่อน ไม่เหมือนลามิเนตที่หากมีการปรับหน้าพื้นเก่าแล้วเราก็สามารถติดตั้งได้เลย
3. Engineered Hardwood (ไม้เอ็นจิเนียร์)
พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ หรือ เอ็นจิเนียร์ วู้ด เป็นพื้นที่มีการเอาไม้จริงๆ ที่มีความหนาประมาณ 3 มิลลิเมตร มาประกบเข้ากับไม้เนื้อแข็งไม่ก็ไม้ยาง หรือการนำไม้จริงที่ไม่ค่อยหนามาประกบกันหลายๆ เลเยอร์นั่นแหละ ข้อดีคือความสวยและเหมือนไม้จริงมากกว่าเอาสองตัวบน ก็ใช่ฮะ ก็มันเป็นไม้จริงนี่ แต่แค่มีการนำมาซ้อนกันนั่นแหละ
ความทนต่อการลงน้ำหนักของเจ้า เอ็นจิเนียร์ วู้ด จะดีมากเลยครับ แถมยังง่ายต่อช่างด้วยเพราะไม่ต้องคอยมาขัดผิวไม้หน้างานด้วย ดังนั้นเวลาเราเข้าไปอยู่ใหม่ๆ จะไม่มีเกิดปัญหาเรื่องฝุ่นไม้จากการจัดพื้นผิวแน่นอน แต่ในเมื่อมันเป็นไม้จริงๆ มันจึงไม่ถูกกับน้ำครับ ถึงแม้จะมีการเคลือบพื้นผิวเพื่อป้องกันไปแล้วแต่ก็ยังมีโอกาสที่จะเกิดการซึมได้อยู่ดี และเมื่อไม้โดนน้ำ สิ่งที่ตามมาก็คือการพองและระเบิกตัวแตกนั่นเอง ดังนั้นสิ่งที่ต้องระวังหลักๆ ก็คือน้ำนั่นเอง และปลวกด้วยนะ เพราะไม้นี่แหละเป็นอาหารจานโปรดของปลวกเลยครับผม
4. Granito (กระเบื้องแกรนิต)
พักหลังๆ เรามักจะเห็นโครงการหลายโครงการนำเอาวัสดุ กระเบื้องแกรนิตมาใช้กันเพิ่มขึ้นแล้วครับ เนื่องจากพื้นผิวประเภทนี้มีความสวยงามและแข็งแรงกว่ากระเบื้องเซรามิกทั่วไป หลายคนอาจจะคิดว่ากระเบื้องแกรนิตก็ต้องทำมาจากหินแกรนิตใช่ไหมครับ คำตอบคือถูกต้องครับแต่มันไม่ได้ทำมาจากหินแกรนิต 100% เพราะกระเบื้องแกรนิตเป็นวัสดุที่มีเนื้อเป็นหินแกรนิตเทียม มีส่วนผสมของผงหินแกรนิตเท่านั้น
เจ้ากระเบื้องแกรนิตจะมีทั้งแบบลักษณะพื้นผิววาว และ พื้นผิวด้าน ข้อควรรู้คือวัสดุปูพื้นประเภทนี้จะไม่มีการเคลือบสี เวลากะเทาะกระเบื้องหรือแผ่นกระเบื้องแตก ข้างในก็ยังเป็นสีเดียวกันกับข้างนอกนี่แหละครับ แต่ไม่ต้องกลัวแตกอะไรเบอร์นั้นนะเพราะของจริงค่อนข้างทนเลยทีเดียว แถมการดูดซึมน้ำยังต่ำมาก รับน้ำหนักได้สูงอีกด้วย แต่ข้อเสีอคือมันหนักมากก แถมถ้าโดนน้ำแล้วระวังลื่นหัวแตกนะครับผม
5. Marble (หินอ่อน)
ตัวนี้มักเห็นบ่อยๆ ในโครงการหรูๆ ครับ 5555 เจ้าวัสดุชนิดนี้เป็นวัสดุที่มาจากธรรมชาติ 100% ดังนั้นสิ่งที่จามมาคือราคาค่อนข้างสูงนั่นเอง ดังนั้นจึงไม่แปลกใจที่วัสดุประเภทนี้มักจะไปโผล่ในคอนโดระดับลักชั่วรีๆ Segment บนๆ หน่อย
เจ้าหินอ่อน มันก็คือหินปูนชนิดหนึ่งนี่แหละ ดังนั้นมันจึงมีความแข็งแรงและทนเอามากๆ แถมลวดลายแต่ละก้อนเมื่อเอามาทำเป็นแผ่นแล้วยังออกมายูนีคมากๆ เพราะสีสันและลวดลายของมันเนี้ย มันแล้วแต่แหล่งที่มาจริงๆ แถมลวดลายส่วนใหญ่ยังดูอ่อนช้อย หรูหรา เอามาปูแล้วทำให้ห้องดูแพงแบบสุดๆ ข้อดีของพื้นประเภทนี้ไม่ใช่แค่มันดูสวยและดูหรูนะ เพราะหินอ่อนมีคุณสมบัติที่สามารถดูดซับความเย็นได้ดี ไม่ดูดซับความร้อน เมื่อไหร่ที่เท้าสัมผัสหินอ่อน เราจึงรู้สึกว่าพื้นมันจะเย็นๆ นั่นเองครับ
แต่ข้อเสียก็มีเหมือนกันคือต้องขยันทำความสะอาดมันหน่อย เพราะถึงแม้จะไม่ดูดซับความร้อนแต่สิ่งสกปรกนี่ขอสู้ตาย เจ้าพื้นหินอ่อนจะค่อนข้างดูดซับสิ่งสกปรกได้ไวครับเพราะฉะนั้นใครไม่อยากให้น้องขี้เหร่ก็ต้องหมั่นทำความสะดวกกันบ่อยหน่อย
6. Ceramic (กระเบื้องเซรามิก)
พูดถึงกระเบื้องแกรนิตไปแล้ว มาพูดถึงกระเบื้องเซรามิกกันบ้าง เซรามิกเป็นวัสดุที่ทำมาจากกระเบื้องดินเผาหรือกระเบื้องเคลือบ ตัวนี้ก็เป็นหนึ่งในวัสดุที่ได้รับความนิยมมานานเหมือนกันครับ เพราะมีพื้นผิวที่แข็งแรงและเบาเมื่อเทียบกับกระเบื้องแกรนิต
โดยข้อดีกระเบื้องเซรามิกหลักๆ คงหนีไม่พ้นในเรื่องของการออกแบบ วัสดุประเภทนี้มักจะมีลวดลายที่หลากหลาย มีตัวเลือกเยอะ แถมถ้าติดบนพื้นคอนกรีตก็ไม่ต้องใช้ปูนกาวยึดติดกระเบื้องด้วยนะ แถมข้อดีคือดูแลง่ายครับ ไม่พอง ไม่มีปลวก เช็ดถูง่าย ส่วนข้อเสียคือเจอกระแทกหน่อยก็แตกแล้ว ดังนั้นห้องใครใช้วัสดุประเภทนี้ต้องระวังเรื่องของแรงกระแทกหน่อยครับ อ้อ เรื่องน้ำด้วย ถึงโดนน้ำจะไม่พอง แต่มันจะลื่นนั่นเองฮะ
ก็หยิบยกเอามาฝากกันครับ เชื่อว่าหลายคนมองข้ามเรื่องนี้ไปเยอะมากกกก อย่างที่บอกครับว่ามันโคตรจะสำคัญเลย เพราะเหยียบมันอยู่ทุกวันจริงๆ ใครไปดูคอนโดหรือห้องตัวอย่างอย่าดูแค่ผังห้อง การออกแบบ ฯลฯ
เพราะ "พื้น" ก็สำคัญไม่แพ้องค์ประกอบอื่นๆ เลย ทีนี้เวลาเราไปห้องตัวอย่างหรือไปดูโครงการ จะได้ดูออกด้วยว่าโครงการนี้เค้าใช้วัสดุอะไรปูพื้นกันแน่ หวังว่าอ่านบทความนี้แล้วหวังว่าทุกท่านคงจะได้รับประโยชน์กันไปบ้างนะครับโผมมม
Tag : วัสดุปูพื้นคอนโด | พื้นคอนโด |
"LIFE สาทร - นราธิวาส 22"...นี่น่าจะเป็น คอนโด LIFE ที่มีคนสนใจมากที่สุดในปี 2025
"KAVALON" พัฒนาโดย "เจ้าพ่อแคมปัสคอนโด" แห่งยุคอย่าง AssetWise ซึ่งนี่ก็เป็นโครงการที่ 6 แล้ว ในโซน ม.กรุงเทพ รังสิต
สิ่งหนึ่งที่ผมตั้งตารอเวลาไปงานแถลงข่าวต้นปีของ AssetWise ก็คือ "ชื่อ" ของโครงการใหม่ๆในปีนั้นนั่นละครับ ยอมรับเลยว่า เป็น Dev ที่ตั้งชื่อโครงการได้แปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร ไพเราะเสนาะหู ช่างสรรหาจริงๆ 555
นาทีนี้จะมีทำเลไหนร้อนแรงเท่า 'พระราม 4' ตั้งแต่การมาของอภิมหาโปรเจกต์ใหญ่อย่าง One Bangkok ก็ดูเหมือนว่า ย่านที่ปังอยู่แล้วตรงนี้ จะยิ่งทวีคูณความปังสุดเข้าไปอีกระดับ
AP ที่เตรียมตัวปักหมุดใกล้ BTS ไปหมาดๆ แต่ต้องบอกว่าปีนี้ AP มาเพื่อบุกย่านอุดมสุข ของแทร่!!
โรงแรมใหม่มาเติมเมืองอีกแล้ว ยังไม่แน่ใจว่าจะลงเป็นเชนอะไร แต่ตัวนี้ตั้งติด MRT สถานีศูนย์วัฒนธรรมเลยครับ
'บิวกิ้นแม่งเล่นโคตรตลก' นี่คือคำพูดที่ผมพูดกับเพื่อนหลังดูภาพยนตร์เรื่อง 'ซองแดงแต่งผี' จบ
เปิดภาพแรกสนามบินภูฏานโฉมใหม่ สนามบินแห่งชาติที่จะเปลี่ยนภาพลักษณ์ของภูฏานตลอดไป
ยกให้เป็นร้านผลไม้เคลือบน้ำตาลที่ผมชอบที่สุด อร่อยที่สุด และหากินยากที่สุดด้วย!!!
เปิด “สโคป ทองหล่อ” อัลตร้าลักซ์ชูรี All-Penthouse แห่งแรกในไทย สร้างเสร็จสมบูรณ์บนทำเลทองย่านสุขุมวิท-ทองหล่อ
การที่ "Reference Ekkamai" (เรฟเฟอเรนซ์ เอกมัย) ของ "SC Asset" มาปักธงอยู่ตรงนี้ บริเวณปากซ.เอกมัย 1 จึงจัดเป็น 1 ในโครงการที่น่าสนใจที่สุดอย่างแน่นอน นี่คือทำเลแบบ One-Stop Location for Living ก็ว่าได้
ใครจะไปคิดว่าคาเฟ่ร่มรื่น ฟิลโฮมมี่ๆ สไตล์ญี่ปุ่นแบบนี้ จะซุกซ่อนอยู่ในย่านบางขุนนนท์นี่เอง!!