โควิด-19 ทำให้คนอยู่บ้านและการทำงานที่บ้านนานขึ้นจริง ๆ นะครับ แต่ผลที่ตามมาก็คือค่าไฟฟ้าเฉลี่ยสูงขึ้นไปด้วย ผู้บริโภคเลยสนใจติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปเพื่อลดค่าใช้จ่ายให้เบาบางลง

        ขณะเดียวกันผู้ประกอบการอสังหาฯ ก็หันมาให้ความสนใจเนื่องจากพลังงานสะอาด ซึ่งเป็นเทรนด์ของโลกแถมยังเป็นแหล่งรายได้ใหม่ด้วย!!

        อย่างทางเสนาก็อินเทรนด์ไม่แพ้ใครครับ ในปีที่ผ่านมาเสนาฯได้ติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปทุกยูนิตในโครงการทาวน์เฮาส์ 2 ชั้นแบรนด์ “เสนาวิลล์” ราคาเริ่มต้น 2 ล้านบาทขึ้นไป  

        จากเดิมมุ่งเน้นลูกค้าในกลุ่มโครงการบ้านเดี่ยว มาเป็นการให้บริการลูกค้ากลุ่มโครงการบ้านขนาดเล็ก หรือ ทาว์น์เฮาส์ โดยจะเป็นการติดตั้ง โซลาร์รูฟท็อปขนาด 1 กิโลวัตต์ ซึ่งคิดเป็นต้นทุนค่าไฟฟ้าในอัตรา 20-30% ของราคาผ่อนบ้าน อยู่ที่กว่า 1 หมื่นบาทต่อเดือน

        ด้วยเหตุนี้เอง “โซลาร์รูฟท็อป” จึงกลายเป็น แม่เหล็ก ที่จะเข้ามาช่วยดึงลูกค้า ขณะเดียวกันนั้นยังเป็น แหล่ง“รายได้ใหม่” ให้กับผู้พัฒนาอสังหาฯ เนื่องจากมูลค่าตลาดมีแนวโน้มสูงถึง 1.37 แสนล้านในช่วง 10 ปีข้างหน้า 

        นอกจากกระแสรักษ์โลก และสิ่งแวดล้อมแล้ว ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ความต้องการใช้โซลาร์รูฟท็อป มีแนวโน้มพุ่งสูงขึ้นมาจากความคุ้มค่าที่เพิ่มขึ้นนั้น มีปัจจัยสนับสนุนจากราคาโซลาร์รูฟท็อปที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ราคารับซื้อไฟที่เพิ่มขึ้น รวมถึงโควตารับซื้อไฟของภาครัฐที่เพิ่มขึ้นในอนาคตข้างหน้าครับผม