ในวงการอสังหาฯ สมัยนี้สไตล์การออกแบบมีหลากหลายมากขึ้นกว่าแต่ก่อนมากครับ เวลาที่ผมไปเดินดูโครงการใหม่ๆ หรือมีโอกาสได้ไปงานเปิดตัวโครงการ รู้ไหมครับ สิ่งหนึ่งที่ดีเวลลอปเปอร์เค้าโครตให้ความสนใจมากๆ ก็คือเรื่องการออกแบบ
อันนี้จะบอกว่ามีแค่ดีเวลลอปเปอร์ที่สนใจก็ไม่ได้นะ เพราะว่าตัวผู้ซื้ออย่างเราๆ ก็น่าจะจัดเรื่องการออกแบบให้อยู่ใน Priority แรกๆ เลยนะครับ เพราะจะซื้อบ้านหรือคอนโดทั้งที ก็ต้องเอาแบบที่ชอบที่สุด ไม่ว่าจะเป็นฟังก์ชันหรือการออกแบบ
ช่วงนี้หนึ่งในสไตล์การออกแบบที่เรามักจะได้ยินบ่อยที่สุดคือสไตล์ "นอร์ดิก" ซึ่งเป็นสไตล์ที่หลายโครงการชูเป็นจุดขายเลยนะ ว่าเห้ย โครงการเราออกแบบในสไตล์นี้นะ ซึ่งสไตล์นอร์ดิกมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวตรงสามเหลี่ยมจั่วสูง และ ไม่มีชายคา ที่พอเห็นปุ๊บก็เดาได้เลยว่า เออโครงการนี้น่าจะออกแบบในสไตล์นอร์ดิกแหงมๆ
ซึ่งพอไปดูตัวโครงการที่มาพร้อมสไตล์นอร์ดิกแล้วผมเองก็รู้สึกว่า เออ มันสวยคูลดีจริงๆ ว่ะ จนทำให้เกิดความสงสัยว่า สไตล์นี้มันมาจากไหนกันนะ? แล้วทำไมมันปังจัง มีข้อดีตรงไหนเหรอ?
สไตล์นอร์ดิกสัญชาติยุโรป
สไตล์นอร์ดิกมีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่า สไตล์สแกนดิเนเวีย ซึ่งแถบสแกนฯ ก็คือยุโรปตอนเหนือครับ พวก นอร์เวย์ สวีเดน เดนมาร์ก และ ฟินแลนด์ ซึ่งเราจะเรียกคนแถบๆ นี้ว่าชาวนอร์ดิกครับ ดังนั้นการออกแบบบ้านสไตล์นี้เลยเรียกว่าสไตล์นอร์ดิกไปโดยปริยาย
เป็นไตล์บ้านเมืองหนาว แล้วจะเข้ากับเมืองร้อนอย่างประเทศไทยไหม?
แถบสแกนฯ เป็นเมืองหนาวครับ ดังนั้น คำถามต่อมาคือประเทศเราเป็นเมืองร้อน ถ้าเราหยิบสไตล์นี้มาออกแบบแล้วจะเข้ากันเหรอ? คำตอบคือ เข้ากันครับ อย่างที่ผมบอกว่าจุดเด่นของสไตล์นอร์ดิก ทรงสามเหลี่ยมจั่วสูง ซึ่งการออกแบบบ้านให้มีจั่วสูงๆ ทำให้อากาศสามารถถ่ายเทได้ดีขึ้น พูดง่ายๆ คือพออากาศถ่ายเท ความร้อนก็ไม่สะสมนั่นเอง
อีกอย่างคือสไตล์นอร์ดิกยังมีจุดขายตรงที่ เค้าจะเน้นความโปร่งและความโล่งเป็นหลักด้วย และในตัวบ้านจะต้องมีแสงลอดผ่านอย่างทั่วถึงด้วยนะ เพราะว่าแถบสแกนดิเนเวียนั้นเป็นเมืองหนาวที่ผู้คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้เจอแสงอาทิตย์เท่าไหร่ ดังนั้นการออกแบบบ้านให้รับแสงได้อย่างทั่วถึงจึงจำเป็นมากๆ ครับ นอกจากนี้ส่วนชานบ้าน และ ระเบียงจะต้องไม่มีการกั้นผนังด้วยนะ ดังนั้นภายในตัวบ้านเลยยิ่งดูกว้างมากกก เรียกได้ว่าเน้นเอกลักษณ์ทั้งในและนอกบ้านเลย ดังนั้นเวลาเราไปโครงการบ้านที่ออกแบบสไตล์นอร์ดิกก็จะได้กลิ่นอายของความอบอุ่นและเรียบง่ายติดตัวกลับมานั่นเอง
สไตล์นอร์ดิกไม่ใช่แค่รูปแบบบ้าน แต่คือแฟชั่น
สไตล์นอร์ดิกไม่ได้อยู่แค่ในวงการอสังหาครับ เพราะยังมีอิทธิพลไปถึงวงการแฟชั่น วงการเฟอร์นิเจอร์อีกด้วย เนื่องจากสไตล์นี้เป็นสไตล์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวสูงมากๆ อย่างเฟอร์นิเจอร์จากอิเกียส่วนมากก็มีกลิ่นอายนอร์ดิกนะ (แหม ก็อิมพอร์ตมาจากสวีเดนนี่!!) ซึ่งจุดขายของสไตล์นอร์ดิกคือความเรียบง่าย มินิมอล ไม่รกหรือดูยุ่งเหยิง นั่นเองครับ
ทำไมสไตล์นอร์ดิกถึงไม่มีชายคา?
ย้อนกลับไปที่ จุดกำเนิดของสไตล์นี้กันอีกครั้งครับแถบสแกนดิเนเวียเป็นเมืองหนาว มีหิมะตกอยู่ตลอด การยกจั่วสูงให้ทำมุม 40 องศาแบบนี้เป็นข้อดีมากๆ เพราะเมื่อไหร่ที่หิมะตกก็จะไม่ค้างอยู่บนหลังคาครับ ตัดภาพมาที่ถ้าเป็นประเทศไทยจะมีข้อดียังไง เพราะไม่มีหิมะ? ข้อดีของไทยคือถ้าฝนตก น้ำจะไม่ขังอยู่บนหลังคา ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวลเรื่องการรั่วซึมเพราะทรงหลังคาแบบนี้จะทำให้น้ำฝนไหลลงด้านล่างได้ดีนั่นเองครับ
วันนี้ผมเลยขอยกตัวอย่างโครงการที่ออกแบบในสไตล์นอร์ดิกมาฝากกันด้วย เอาใจคนที่อยากมีบ้านสไตล์นี้กันสักหน่อย
1. บางกอก บูเลอวาร์ด by SC Asset
แบรนด์บางกอก บูเลอวาร์ด เป็นแบรนด์ที่ทาง SC Asset ตั้งใจให้เป็น Nordic Collection เลยครับ ปัจจุบัน บางกอก บูเลอวาร์ดมีด้วยกันทั้งหมด 14 โครงการ ได้แก่
พระราม 5, วิภาวดี, แจ้งวัฒนะ, ปิ่นเกล้า-เพชรเกษม, สาทร-ปิ่นเกล้า, ศรีนครินทร์-บางนา, พระราม9, เวสต์เกต, รามอินทรา-เสรีไทย, สาทร-ราชพฤกษ์, ลาดพร้าว-เสรีไทย, เพชรเกษม-ปิ่นเกล้า, ดอนเมือง-แจ้งวัฒนะ, เพชรเกษม - ปิ่นเกล้า
โดยโครงการในเครือ บางกอก บูเลอวาร์ดเป็นโครงการบ้านเดี่ยวที่เรียกได้ว่าขายดีถล่มทลายเลยนะ สนนราคาก็จะอยู่ที่ บ้านเดี่ยว 10 ล้าน, บ้านเดี่ยวหรู 15 ล้าน, บ้าน 20 ล้าน ตามลำดับครับ ขอบอกว่าสวยมากจริงๆ
2. อณาสิริ กรุงเทพ-ปทุมธานี และ อณาสิริ บางนา by Sansiri
พี่สิบหมื่นของเราก็อินเทรนด์ไม่แพ้ใครครับ หลังจากแกเริ่มลุยตลาดแนวราบ บอกเลยว่าหลายๆ โครงการนั้นสวยปังจริงๆ แล้วไม่ได้หยุดอยู่ที่สไตล์ใดสไตล์หนึ่งด้วย แกทำหลายสไตล์มากเลยครับ หนึ่งในนั้นคือสไตล์นอร์ดิกนั่นเอง ซึ่งสไตล์นอร์ดิกที่พี่แสนฯ แกทำอยู่ที่โครงการ อณาสิริ กรุงเทพ - ปทุมธานี และ อณาสิริ บางนา ครับ
อย่างตัวโครงการ อณาสิริ กรุงเทพ-ปทุมธานี เป็นโครงการที่ได้ทำเลดี ใกล้สนามกอล์ฟ Flora Ville Golf & Country Club นอกจากนี้ยังมีทั้ง ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล และสถาบันการศึกษา เดินทางใกล้ทางด่วนเพียง 15 นาทีเท่านั้นมีความอบอุ่นสุดๆ รวมถึงสภาพแวดล้อมก็เงียบสงบเหมาะแก่การอยู่อาศัยฝุดๆ มีบ้านทั้งหมด 4 แบบ ขนาดตั้งแต่ 138 ตร.ม. ถึง 180 ตร.ม. ในราคาเริ่มต้น 4.69 - 6 ล้าน*
อณาสิริ บางนา โครงการนี้ตั้งอยู่บนทำเลบางนา ทำเลยอดฮิตของคนอยากมีบ้านเลยครับ ใกล้จุดขึ้น-ลงทางด่วนบูรพาวิถี เพียง 3 นาที อีกทั้งยังมรรถไฟฟ้า ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล และสถาบันการศึกษาชั้นนำอีกด้วย แต่โครงการนี้เค้าสร้างมาในรูปแบบทาวน์โฮม 5 แบบ นะครับไม่เหมือนด้านบนเน้อ ขนาดเริ่มต้น 109 ตร.ม. ถึง 118 ตร.ม. เลย โดยราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 2.39 - 6 ล้าน*
3. แกรนด์ วีโฮม–บางนา by วี.วี.พร๊อพเพอร์ตี้ กรุ๊ป จำกัด
โครงการนี้อยู่แถวๆ บางบ่อครับ ซึ่งเป็นแบบบ้านสไตล์นอร์ดิกในราคาที่เอื่อมถึงง่าย แต่ใกล้แหล่งงานในย่านบางนา อาทินิคมอุตสาหกรรมบางพลี, นิคมอุตสาหกรรมเวลโกรว์, ตลาดบางบ่อ, มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ, สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิม สนามกอล์ฟ เลควูด คันทรี่คลับ, วินเทจ คลับ, กรีนวัลเลย์ คันทรี่คลับ เป็นต้น
โดยจะเป็นบ้าน 3 นอน 3 น้ำ 1 อเนกประสงค์ 2 จอดรถพื้นที่ใช้สอยประมาณ 141 ตร.ม.ในราคาเริ่มต้น 3 ล้านกว่าๆ ครับ ถือว่าคุ้มมากๆ โดยตัวบ้านได้สัมผัสใกล้ชิดกับธรรมชาตินอกบ้านได้มากขึ้น มีความเรียบง่ายสอดรับกับธรรมชาติ แต่แฝงไว้ด้วยอรรถประโยชน์ใช้สอยตามแบบอย่างของชาวสแกนดิเนเวียที่แท้ทรู
เป็นไงบ้างครับ กับแบบบ้านสไตล์นอร์ดิก? ส่วนตัวผมก็อยากมีเป็นของตัวเองเหมือนกันนะ ดูเป็นแบบบ้านที่ไม่น่าจะเชยไวด้วย นอกจากจะดูเก๋แล้ว สไตล์การออกแบบยังสอดคล้องกับภูมิอากาศบ้านเราด้วย
ใครสนใจอยากมีบ้านสไตล์นี้เป็นของตัวเองก็ลองไปดูโครงการที่ผมหยิบเอามาแนะนำได้นะ แต่ละตัวนี่สวยงามเป็นเอกลักษณ์มากกกก เห็นแล้วกระเป๋าเงินมีสั่นกันเลยทีเดียว5555
Tag : บ้านสไตล์นอร์ดิก |
“ได้วิวแม่น้ำ สวยขนาดนี้เลยรึนี่?!“ เป็นความรู้สึกของผมตอนที่ขึ้นไปชั้น 38 วิวสวยแบบไม่มีอะไรมาบดบังเลย มีมุมที่เห็นสวนเบญจกิติด้วย
สำหรับผมแล้ว BTS สถานี "ห้าแยกลาดพร้าว" เป็น สถานี Interchange กับ MRT ที่ผมชอบที่สุด และมักจะเป็นทำเลที่ผมแนะนำ ให้คนมาอยู่อาศัยมากที่สุดอันดับต้นๆเลย
มีความท้าทายเล็กๆ กับการเปลี่ยนอดีต ’สถานทูตออสเตรเลีย‘ ให้กลายมาเป็น ‘Luxury Condo’ และ ’Mixed-Use’ ระดับ ’iconic’ ริม ’ถนนสาทร‘
'เกือบหลับ แต่กลับมาได้' จะมีโครงการไหนกันเชียวที่จะเหมาะกับคำนี้ ถ้าไม่ใช่ 'Hyde Riverbay Charoennakorn' (ไฮด์ ริเวอร์เบย์ เจริญนคร)
โครงการใหม่ของ Major ที่แน่มาก แกร่งมาก เพราะไม่หวั่นไหวกับการต้องถูกขนาบข้างโดย Sansiri แบบรั้วชนรั้วเลย!
'dcondo calm Ramkhamhaeng 40' (ดีคอนโด คาล์ม รามคําแหง 40) ก็เป็นอีกโครงการที่ผมบอกเลยว่า คุณจะลืมภาพจำของแบรนด์ดีคอนโดแบบเดิมๆ ไปแทบหมดสิ้น เพราะโครงการนี้ เค้าอยู่ใกล้รถไฟฟ้าถึง 2 สาย ทั้งสายสีส้มและสายสีเหลือง!!!
ไหนใครกำลังจะรีไฟแนนซ์กันบ้าง ใครกำลังผ่อนบ้านอยู่เพลิน ๆ นี่ห้ามลืมเด็ดเลยนะ เพราะหนี้บ้านพอพ้น 3 ปีแรก ดอกเบี้ยจะพุ่งขึ้นแบบก้าวกระโดดเลย
ขออวดว่าผมได้รีวิวหนังสือเล่มนี้ก่อนหนหน้านี้แล้วด้วยนะ อิอิ แต่ที่จริงผมไม่ได้ตั้งใจรีวิวหรอก แต่เป็นคนอ่านหนังสือแล้วชอบ ‘Short Note’ ประโยคดีๆ คมๆ เก็บไว้ แต่ปรากฏว่ามันโดนบาดเยอะมาก จนสามารถเอามาลงในเพจได้เลย
ช่วงนี้ผมชอบเข้าไปดูงานออกแบบของ Foster + Partners บ่อยสุดๆ คือรู้สึกได้เลยว่าเราอินกับสไตล์การออกแบบของเค้ามากๆ ซึ่งถ้าใครไม่รู้ว่าเค้าคือใคร Foster + Partners คือบริษัทที่ออกแบบ Apple Store ตรงเซ็นทรัลเวิลด์ นั่นแหละครับ น่าจะพออ๋อกันขึ้นมาบ้างเนอะ
ยุคนี้ใครเค้าเที่ยวต่างประเทศกัน คนรวยเค้าเที่ยวนอกโลกครับ!
Apple Store นี่ไม่ว่าจะไปเปิดสาขาที่ไหน ก็สามารถกลายเป็นแลนด์มาร์คของที่นั้นๆ ได้ตลอด ล่าสุดเค้าเพิ่งเปิดสาขาใหม่ที่ประเทศมาเลเซีย ไปหมาดๆ เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน ที่ผ่านมานี่เอง ซึ่งนี่เป็นสาขาแรกของมาเลเซีย
เดือน 7 กำลังจะผ่านพ้นอีกแล้วนะครับ ตอนนี้อากาศกำลังชุ่มฉ่ำแบบสุด ๆ ไปเลย ซึ่งหลายเดือนที่ผ่านมามีสัญญาณว่าดอกเบี้ยแบบคงที่เริ่มกลับมาแล้วนะ