ย้อนกลับไปสมัยที่ผมยังเป็นนักศึกษาวัยเอาะ ๆ ผมมีความฝันอยากไปเยี่ยมชม World Expo กับเค้าซักครั้ง ซึ่งจนถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่ได้ไป แถมเกือบลืมไปแล้วด้วยว่ามันมีงานนี้อยู่ 55555
ซึ่งตอนนี้ "World Expo 2020 Dubai" ก็ได้เปิดฉากขึ้นแล้วหลังจากที่เลื่อนมา 1 ปีเต็ม ผมเองก็คงไม่ได้ไปอีกตามเคย เลยขอทำหน้าที่เป็นกัปตันติดดอยแอร์ไลน์พาเพื่อน ๆ บินทิพย์ไปส่องกัน
ซึ่งการจัดนิทรรศการครั้งนี้ถือเป็น World Expo ครั้งแรกในตะวันออกกลางเลยนะ มาภายใต้หัวข้อหลัก Connecting Minds, Creating The Future และมีผู้เข้าร่วมกว่า 190 ประเทศ
สำหรับอาคารแสดงประเทศไทย หรือคำติดปากที่เราเรียกกันว่า Thailand Pavilion ปีนี้ได้ที่ใหญ่กว่าทุกครั้ง ตั้งอยู่ในโซน Mobility บนพื้นที่กว่า 3,606 ตารางเมตรหรือ 2.25 ไร่
มีเพื่อนบ้านเรือนเคียงที่เป็นแนวหน้ามากมาย อาคารข้าง ๆ ของไทยเราเป็นประเทศเบลเยียม และถัดออกไปก็เป็นสหรัฐอเมริกาพี่ใหญ่ของโลกเลยนะ วู๊ววววว
โดยทางผู้จัดบอกว่าปีนี้จะนำความก้าวหน้าที่เกี่ยวข้องกับ Mobility for the Future ไปนำเสนอ พร้อมกับนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัลของสตาร์ทอัพไปจัดแสดงด้วย
Thailand Pavilion ยุค 4.0
Thailand Pavilion ปีนี้มาในรูปแบบที่แสดงศักยภาพผ่านการออกแบบอัตลักษณ์อาคาร ไม่ได้โชว์เทคโนโลยีการก่อสร้างมากมายอะไร แต่ก็ไม่ได้โชว์ความเป็นไทยแบบโจ๋งครึ่ม แต่ก็ต้องอาศัยจินตนาการร่วมด้วยนะ 555
เริ่มจากภายนอกอาคารมีการออกแบบนำ "ดอกรัก" มาใช้เป็นอัตลักษณ์ โดยสื่อความหมายถึงการแผ่ขยายวงกว้าง และส่งต่อการเจริญเติบโตเสมือนเกสรดอกไม้ ที่ทอต่อเนื่องกันออกมาคล้ายกับม่านดอกไม้คลุมอาคารไว้
ผสานเอกลักษณ์ของสถาปัตยกรรมไทยอย่างซุ้มโค้ง แสดงถึงความอ่อนช้อยในลักษณะคล้ายการประนมมือไหว้อันงดงาม ทรงจอมแห ลักษณะของพระปรางค์วัดอรุณราชวรารามฯ หรือจั่วของบ้านเรือนไทย มาเรียงร้อยเข้าไว้ด้วยกัน
ส่วน Logo เลือกใช้พวงมาลัยที่ลดทอนเป็นลายเส้น ดังการเชื่อมต่อของดิจิทัลแบบไร้ขีดจำกัด และมีอุบะ 4 ช่อแสดงถึง Thailand 4.0 รวมถึงเลือกใช้สีทองเป็นหลัก เพื่อสื่อถึงแผ่นดินสุวรรณภูมิ มาพร้อมมาสคอตที่มีชื่อว่า น้องรักและน้องมะลิ ซึ่งมาจากดอกไม้ทั้งสองนั่นเอง
ส่วนภายในอาคารนั้น แบ่งออกเป็น 4 ห้องนิทรรศการ มีคอนเซ็ปต์คือนำเสนอพัฒนาการของประเทศไทยตั้งแต่อดีตสู่ปัจจุบัน ให้สอดคล้องไปกับแนวทางการพัฒนาประเทศไปสู่การเป็น Thailand 4.0
ตลอดจนแนวคิดทางการแก้ปัญหาต่าง ๆ เช่น การขนส่ง การเดินทาง การสำรวจ การใช้เทคโนโลยีเพื่อประโยชน์ส่วนบุคคล โลจิสติกส์ การเชื่อมต่อกับระบบดิจิทัลเพื่อมุ่งสู่การเป็นดิจิทัลฮับ และประตูสู่ธุรกิจการค้าทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในอนาคต
นิทรรศการ 4 ห้อง ผ่านแนวคิด Mobility for the Future
ภายใน Thailand Pavilion จะประกอบไปด้วยห้องนิทรรศการ 4 ห้อง จะนำเสนอผ่านรูปแบบแอนิเมชันแบบครบรส มีทั้งแสง สี เสียงแบบจัดเต็มเลยนะ ประกอบไปด้วย
นอกจากนี้ภายในอาคารก็ยังมีร้านอาหารไทย (The Taste of Thai) ให้ได้ลิ้มความอร่อยของเมนูไทยสี่ภาคแบบต้นฉบับ รวมไปถึงร้านขายของที่ระลึก (Thai Souk) ให้เลือกสรรสินค้าคุณภาพดีติดมือกลับบ้านกันอีกด้วย
ความเป็นไทย มีอะไรมากกว่าที่คิด
อีกสิ่งที่ช่วยสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับ Thailand Pavilion ก็คือตลอด 6 เดือนที่จัดงานยังจะมีเทศกาลและการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทยร่วมสมัยภายใต้แนวคิด Thai Iconic มาร่วมด้วย เช่นการแสดงโขน การแสดงสี่ภาค บริเวณหน้าทางเข้าหมุนเวียนให้ชมในแต่ละวัน
ส่วนเทศกาลเสริมเป็นระยะ ๆ จัดขึ้นภายใต้แนวคิด The Best of Thailand โดยมีไฮไลต์เป็นกิจกรรมในวาระครบรอบความสัมพันธ์ 45 ปี ไทย-UAE ประเทศเจ้าภาพ ซึ่งตรงกับวันที่ 12 ธันวาคมพอดี ซึ่งทุกประเทศต้องนำธีมวันชาติของตัวเองเข้าร่วมขบวนพาเหรดและกิจกรรมที่ World Expo จัดขึ้น
แต่ถ้าใครชอบเทศกาลแบบไทยที่คุ้นเคย ผมแนะนำให้ไปช่วงเดือนพฤศจิกายน เพราะจะมีจัดเทศกาลแห่งสายน้ำ รวมไปถึงเทศกาลอันว่าด้วยการท่องเที่ยวและสุขภาพที่ ททท. รวมถึงบริษัทที่เกี่ยวกับสุขภาพจะมาร่วมกันจัดแสดงโชว์เคสเพิ่มเติมด้วย
อ่านแนวคิดและรูปแบบการจัดงานแล้วก็อยากไปเนอะ ฮ่า ๆ เพราะนอกจากประเทศไทยแล้ว งานนี้เรายังได้ไปแลกเปลี่ยนนวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัล ในการพัฒนาสร้างสรรค์เชิงเศรษฐกิจและสังคมร่วมกับนานาประเทศอีกด้วย
ไม่แน่นะ... ถ้าเพื่อน ๆ คนไหนมีโอกาสไปเดินเล่น เดินชมอาคารประเทศอื่น ๆ อาจจะได้แนวคิดดี ๆ ไม่ว่าจะนวัตกรรมหรือเทคโนโลยีดิจิทัลอะไรก็ตาม กลับมาช่วยพลักดันและพัฒนาเป็นสตาร์ทอัพหน้าใหม่ของไทยก็ได้
ส่วนใครที่รอชมงานจากทางบ้านแบบผม ก็สามารถติดตามความเคลื่อนไหว และรับชมการถ่ายทอดสดกิจกรรม ซึ่งจะหมุนเวียนไปในแต่ละวันได้เลยที่ www.facebook.com/Expo2020DubaiThailand ไปด้วยตัวเองไม่ได้ก็เที่ยวทิพย์กันไปก่อนเนอะ ลุ๊ยยยย
ติดตามข่าวสารของอาคารแสดงประเทศไทยได้ที่
Tag : World Expo 2020 Dubai | Thailand Pavilion | World Expo
"LIFE สาทร - นราธิวาส 22"...นี่น่าจะเป็น คอนโด LIFE ที่มีคนสนใจมากที่สุดในปี 2025
"KAVALON" พัฒนาโดย "เจ้าพ่อแคมปัสคอนโด" แห่งยุคอย่าง AssetWise ซึ่งนี่ก็เป็นโครงการที่ 6 แล้ว ในโซน ม.กรุงเทพ รังสิต
สิ่งหนึ่งที่ผมตั้งตารอเวลาไปงานแถลงข่าวต้นปีของ AssetWise ก็คือ "ชื่อ" ของโครงการใหม่ๆในปีนั้นนั่นละครับ ยอมรับเลยว่า เป็น Dev ที่ตั้งชื่อโครงการได้แปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร ไพเราะเสนาะหู ช่างสรรหาจริงๆ 555
นาทีนี้จะมีทำเลไหนร้อนแรงเท่า 'พระราม 4' ตั้งแต่การมาของอภิมหาโปรเจกต์ใหญ่อย่าง One Bangkok ก็ดูเหมือนว่า ย่านที่ปังอยู่แล้วตรงนี้ จะยิ่งทวีคูณความปังสุดเข้าไปอีกระดับ
AP ที่เตรียมตัวปักหมุดใกล้ BTS ไปหมาดๆ แต่ต้องบอกว่าปีนี้ AP มาเพื่อบุกย่านอุดมสุข ของแทร่!!
โรงแรมใหม่มาเติมเมืองอีกแล้ว ยังไม่แน่ใจว่าจะลงเป็นเชนอะไร แต่ตัวนี้ตั้งติด MRT สถานีศูนย์วัฒนธรรมเลยครับ
'บิวกิ้นแม่งเล่นโคตรตลก' นี่คือคำพูดที่ผมพูดกับเพื่อนหลังดูภาพยนตร์เรื่อง 'ซองแดงแต่งผี' จบ
เปิดภาพแรกสนามบินภูฏานโฉมใหม่ สนามบินแห่งชาติที่จะเปลี่ยนภาพลักษณ์ของภูฏานตลอดไป
ยกให้เป็นร้านผลไม้เคลือบน้ำตาลที่ผมชอบที่สุด อร่อยที่สุด และหากินยากที่สุดด้วย!!!
เปิด “สโคป ทองหล่อ” อัลตร้าลักซ์ชูรี All-Penthouse แห่งแรกในไทย สร้างเสร็จสมบูรณ์บนทำเลทองย่านสุขุมวิท-ทองหล่อ
การที่ "Reference Ekkamai" (เรฟเฟอเรนซ์ เอกมัย) ของ "SC Asset" มาปักธงอยู่ตรงนี้ บริเวณปากซ.เอกมัย 1 จึงจัดเป็น 1 ในโครงการที่น่าสนใจที่สุดอย่างแน่นอน นี่คือทำเลแบบ One-Stop Location for Living ก็ว่าได้
ใครจะไปคิดว่าคาเฟ่ร่มรื่น ฟิลโฮมมี่ๆ สไตล์ญี่ปุ่นแบบนี้ จะซุกซ่อนอยู่ในย่านบางขุนนนท์นี่เอง!!