ตุลาเวียนมาบรรจบอีกปี ใกล้จะสิ้นเดือนแล้วครับ นอกจากรอเงินเดือนออกแล้ว อีกวันสำคัญในเดือนตุลาคม ก็คือวัน ฮาโลวีนนั่นเอง
แม้ประเทศเราจะไม่ได้ให้ความสำคัญกับวันฮาโลวีนมากนัก แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยฮะว่าส่วนลึกๆ ในใจผมก็แอบตื่นเต้นเล็กๆ อยู่กับวันฮาโลวีน
แม้ประเทศของเราจะไม่มีการแต่งตัวเป็นผี แต่งบ้านให้หลอน หรือเล่นเกม Trick or treat เป็นธรรมเนียม แต่ต้องบอกเลยว่าบรรยากาศความหลอนของฮาโลวีนสามารถส่งต่อมายังบ้านเราได้แบบง่ายๆ
เพราะ Netflix ก็ทยอยเอาหนังสยองขวัญมาลงต้อนรับวัน ฮาโลวีน หลายเรื่องเลยฮะ เข้าทางเราเหมือนกันนะ ในเมื่อไม่ได้ออกไปฉลองเหมือนฝรั่งมังค่า แต่ก็บิ้วตัวเองให้หลอนได้ง่ายๆ จากการดูหนังอยู่บ้านนี้แหละ
วันนี้เลยของยก 5 หนังจาก Netflix หลอนรับฮาโลวีน เอาแบบให้ร้องกรี๊ด จนมุดผ้าห่มมาฝากกันหน่อยดีกว่า
The Curse of La Llorona คำสาปมรณะจากหญิงร่ำไห้
แค่ใบปิดหนังก็หลอนฉี่ราดแล้วฮะ หนังเรื่องนี้เค้าเล่าจากตำนาน ลาโรโยน่า ซึ่งเป็นผีในตำนานของแม็กซิโก ซึ่งถ้าเทียบกับบ้านเราก็จะประมาณแม่นาคครับ ว่ากันว่านางเป็นผีที่ชอบจับเด็กเพราะโหยหาลูกของตัวเอง เพราะเมื่อตอนที่ยังมีชีวิตเนี้ย นางก็มีลูฏครับแต่ลูกนางตายก็เลยลายเป็นผีโหยหาลูก แอบลักลูกคนอื่น (ซะงั้น) โดยหนังเรื่องนี้จะเล่าย้อนไปในช่วงปี 1970 เมื่อสาวนักสังคมสงเคราะห์จำต้องย้ายไปทำงานในแม็กซิโก และสุดท้ายก็ต้องพบเจอกับความสยองของ ลา โลโรนา ที่หวังจะเอาลูกทั้ง 2 ของเธอไป
ซึ่งความน่าสนใจอยู่ที่หนังเรื่องนี้ถูกสร้างโดยทีมผู้สร้างจักรวาล The Conjuring หลายๆ คนก็คงนึกว่าผีเจ้าสาวนางนี้คงอยู่ในจักรวาลนี้ชัวร์ๆ แต่ความจริงเค้าออกมาเผยแล้วนะว่าไม่ได้อยู่ในจักรวาลคนเรียกผีแน่นอน
ความหลอน : ให้ 3 เต็ม 5 กะโหลก มีจังหวะ Jump scare อารมณ์แบบตุ้งแช่เบาๆ ผีหน้าตาน่ากลัว แต่การดำเนินเรื่องแอบมีจังหวะให้เอียงคอ เกาหัว งงๆ อยู่บ่อยเหมือนกัน เอาเป็นว่าพอได้มุดผ้าห่มเล็กๆ น้อยๆ ครับ
Dead Silence อาถรรพ์ผีใบ้
เรื่องนี้ไม่ใช่หนังใหม่อะไรเลยฮะ หลายคนอาจจะเคยดูแล้วก็ได้นะ แต่เวลาใครถามถึงหนังผีผมก็ชอบแนะนำหนังเรื่องนี้เหมือนกัน แค่เห็นไอหุ่นกระบอกนี่ก็หลอนแล้วฮะ เชื่อไหมครับว่ามีคนอยู่มากมายเลยนะที่กลัวหุ่นกระบอก หรือตัวตลกอะไรแบบนี้ ผมล่ะคนนึง เรื่องนี้ทำออกมาสนองความกลัวของใครหลายๆ คนที่กลัวไอหุ่นแบบนี้มากฮะ
เป็นเรื่องราวของสองผัวเมียที่อยู่ๆ วันนึงคนเป็นเมียเนี้ยได้รับตุ๊กตาหุ่นกระบอกนี่ แถมมันยังมีชื่อด้วยนะมันชื่อว่า "บิลลี่" ซึ่งก็ไม่รู้ด้วยว่าใครส่งมา แทนที่จะทิ้งสองผัวเมียนี้ดันเอสไปเก็บไว้ในห้องซะงั้นหลังจากนั้นเรื่องสยองก็ตามมา... เรื่องนี้การันตีด้วยฝีมือการกำกับภาพยนตร์ของ เจมส์ วาน ชื่อที่เราคุ้นหูผู้สร้างจักรวาลเรียกผีนั่นแหละฮะ
ความหลอน : ให้ 4 เต็ม 5 กะโหลก ให้เยอะเพราะว่าผมกลัวหุ่นกระบอกครับ555
In the Tall Grass พงหลอนมรณะ
ใครที่ชอบอ่านหนังสือหรือดูหนังแนวระทึกขวัญจะไม่รู้จักคนคนนี้ได้ไงฮะ "สตีเวน คิง" นั่นเองและนี่ก็เป็นอีกเรื่องฮะที่อยากแนะนำแฟนๆ ของเค้าผู้นี้
เป็นเรื่องราวของ ของ “เบ็คกี้” และ “คาล” ที่แวะข้างทางเพราะอยู่ๆ ที่กำลังต้องท้องอยู่เกิดแพ้ท้องขึ้นมา (แวะอ้วกแปป) แต่พอจะขึ้นรถปุ๊บ อยู่ๆ ก็ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือจากทุ่งหญ้าดังออกมา ทำให้สองคนนี้ต้องเข้าไปช่วยแต่!!! ก็ดั๊น ไปหลงกันในป่าฮะ แถมหาทางออกไม่ได้ด้วย หลังจากนั้นก็เจอเรื่องราววุ่นๆ ปนหลอนขึ้นมาในทุ่งหญ้าแห่งนั้น บอกเลยว่าคนไม่กลัวผีดูได้ แต่ดูไปต้องคิดไปด้วยนะ
ความหลอน : 3 เต็ม 5 กะโหลก ไม่น่ากลัวมากเท่าไหร่แต่มีจังหวะได้ลุ้น เล่นกับบรรยากาศเป็นส่วนใหญ่ คนกลัวผีดูได้
House of Secrets เจาะคดีปริศนา การตายหมู่ที่บูรารี
อันนี้เป็นสารคดีชุด มีทั้งหมด 3 ตอน เรื่องราวเกี่ยวกับการตาย 11 ศพที่อินเดียเมื่อปี 2018 มีใครจำคดีการตาย 11 ศพที่กรุงเดลี ประเทศอินเดีย ได้ไหมครับ? ข่าวนี้เป็นข่าวดังในปี 2018 จะบอกว่าดังไปทั่วโลกก็ได้ฮะ เพราะในคดีนี้มีเรื่องแปลกๆ ชวนให้สงสัยหลายอย่าง
เรื่องราวของครอบครัวชาวอินเดียที่เคร่งศาสนา มีหน้ามีตา มีการศึกษา มีหน้าที่การงานที่ดี ไม่มีปัญหาเรื่องการเงิน เป็นที่รักของเพื่อนบ้าน อะไรทำให้เกิดเรื่องน่าสะเทือนใจแบบนี้ได้? พวกเขาถูกฆาตรกรรมหรือพวกเขาตั้งใจฆ่าตัวตาย? กันแน่นะ
สารคดีชุดนี้จะพาเราไปหาคำตอบที่ชวนสงสัยและเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับเลข 11 บอกเลยว่าผมชอบมาก เป็นสารคดีที่ไม่กดข้ามเลยฮะ ดำเนินเรื่องดีมากๆ ซึ่งหากใครจำคดีนี้ได้หรือใครไม่เคยได้ยินมาก่อนแนะนำเลยฮะเหมือนได้ดูหนังสืบสวนเรื่องหนึ่งเลย แต่แอบน่ากลัวหน่อยๆ เพราะมีภาพศพจริงด้วยนะ
ความหลอน : 4 เต็ม 5 กะโหลก ไม่ได้น่ากลัวเพราะไม่ใช่หนังผี แต่การดำเนินเรื่องดี แอบหลอนๆ หลังจากความจริงปรากฏหน่อยๆ สนุกมากอยากให้ไปดูกันฮะ
The Raincoat Killer: Chasing a Predator in Korea (ฆาตกรเสื้อกันฝน: ล่าฆาตกรต่อเนื่องเกาหลี)
เป็นสารคดีเช่นกันครับเรื่องนี้เป็นเรื่องของ ยูยองชอล ฆาตกรต่อเนื่องของเกาหลีใต้ ที่ได้ทำการฆ่าเหยื่อไปถึง 20 ราย ภายในปี 2003 ถึง 2004 ซึ่งเหยื่อส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ สาวบริการ และ หมอนวด โดยการลงมือกับเหยื่อนั้นสยองมากฮะ ทั้งทุบจนสมองไหล หรือหั่นศพ จนถูกขนานนามว่าเป็นฆาตกรต่อเนื่องที่โหดร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์เกาหลีใต้เลย
แม้วิธีการฆ่าจะสยดสยองแต่ไม่ต้องกลัวครับไม่มีฉากเลือกสาดมาแน่นอน สารคดีจะเป็นการนำเสนอในมุมมองของการสืบสวนและนิติเวชต่างๆ มากกว่า
ความหลอน : 4 เต็ม 5 กะโหลก เผื่อใครเบื่อหนัง แวะมาดูสารคดีได้ฮะ สนุกดีเหมือนกันเรื่องนี้นอกจากจะได้รู้เรื่องของฆาตกรต่อเนื่องแล้ว แอบตีแผ่เรื่องคดีหรือการสืบสวนเบาๆ ด้วยนะ
ยกเอามาให้ดู 5 เรื่องฮะ เอามาบิ้วตัวเองหน่อย อย่างที่บอกว่าบ้านเราไม่มีฮาโลวันเหมือนฝรั่งเนอะก็อยากเค้าธีมบ้าง เปิดหนังผีดูซะเลย แต่คะแนนความหลอนที่ความเห็นส่วนตัวของผมนะ ส่วนใครมีเรื่องไหนแวะมาแนะนำพี่หมีบ้างนะ ไม่รู้จะดูอะไรแล้วเนี้ย
Tag : Halloween day | Netflix |
“ได้วิวแม่น้ำ สวยขนาดนี้เลยรึนี่?!“ เป็นความรู้สึกของผมตอนที่ขึ้นไปชั้น 38 วิวสวยแบบไม่มีอะไรมาบดบังเลย มีมุมที่เห็นสวนเบญจกิติด้วย
สำหรับผมแล้ว BTS สถานี "ห้าแยกลาดพร้าว" เป็น สถานี Interchange กับ MRT ที่ผมชอบที่สุด และมักจะเป็นทำเลที่ผมแนะนำ ให้คนมาอยู่อาศัยมากที่สุดอันดับต้นๆเลย
มีความท้าทายเล็กๆ กับการเปลี่ยนอดีต ’สถานทูตออสเตรเลีย‘ ให้กลายมาเป็น ‘Luxury Condo’ และ ’Mixed-Use’ ระดับ ’iconic’ ริม ’ถนนสาทร‘
'เกือบหลับ แต่กลับมาได้' จะมีโครงการไหนกันเชียวที่จะเหมาะกับคำนี้ ถ้าไม่ใช่ 'Hyde Riverbay Charoennakorn' (ไฮด์ ริเวอร์เบย์ เจริญนคร)
โครงการใหม่ของ Major ที่แน่มาก แกร่งมาก เพราะไม่หวั่นไหวกับการต้องถูกขนาบข้างโดย Sansiri แบบรั้วชนรั้วเลย!
'dcondo calm Ramkhamhaeng 40' (ดีคอนโด คาล์ม รามคําแหง 40) ก็เป็นอีกโครงการที่ผมบอกเลยว่า คุณจะลืมภาพจำของแบรนด์ดีคอนโดแบบเดิมๆ ไปแทบหมดสิ้น เพราะโครงการนี้ เค้าอยู่ใกล้รถไฟฟ้าถึง 2 สาย ทั้งสายสีส้มและสายสีเหลือง!!!
ไหนใครกำลังจะรีไฟแนนซ์กันบ้าง ใครกำลังผ่อนบ้านอยู่เพลิน ๆ นี่ห้ามลืมเด็ดเลยนะ เพราะหนี้บ้านพอพ้น 3 ปีแรก ดอกเบี้ยจะพุ่งขึ้นแบบก้าวกระโดดเลย
ขออวดว่าผมได้รีวิวหนังสือเล่มนี้ก่อนหนหน้านี้แล้วด้วยนะ อิอิ แต่ที่จริงผมไม่ได้ตั้งใจรีวิวหรอก แต่เป็นคนอ่านหนังสือแล้วชอบ ‘Short Note’ ประโยคดีๆ คมๆ เก็บไว้ แต่ปรากฏว่ามันโดนบาดเยอะมาก จนสามารถเอามาลงในเพจได้เลย
ช่วงนี้ผมชอบเข้าไปดูงานออกแบบของ Foster + Partners บ่อยสุดๆ คือรู้สึกได้เลยว่าเราอินกับสไตล์การออกแบบของเค้ามากๆ ซึ่งถ้าใครไม่รู้ว่าเค้าคือใคร Foster + Partners คือบริษัทที่ออกแบบ Apple Store ตรงเซ็นทรัลเวิลด์ นั่นแหละครับ น่าจะพออ๋อกันขึ้นมาบ้างเนอะ
ยุคนี้ใครเค้าเที่ยวต่างประเทศกัน คนรวยเค้าเที่ยวนอกโลกครับ!
Apple Store นี่ไม่ว่าจะไปเปิดสาขาที่ไหน ก็สามารถกลายเป็นแลนด์มาร์คของที่นั้นๆ ได้ตลอด ล่าสุดเค้าเพิ่งเปิดสาขาใหม่ที่ประเทศมาเลเซีย ไปหมาดๆ เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน ที่ผ่านมานี่เอง ซึ่งนี่เป็นสาขาแรกของมาเลเซีย
เดือน 7 กำลังจะผ่านพ้นอีกแล้วนะครับ ตอนนี้อากาศกำลังชุ่มฉ่ำแบบสุด ๆ ไปเลย ซึ่งหลายเดือนที่ผ่านมามีสัญญาณว่าดอกเบี้ยแบบคงที่เริ่มกลับมาแล้วนะ