โอกาสมาถึงแล้ว!!! ปลดล็อก LTV ทั้งที เพื่อน ๆ ชาวติดดอยมีโครงการในใจกันบ้างรึยังครับ ซึ่งถ้าใครมีความพร้อม "ผมว่าตอนนี้ก็ถือเป็นโอกาสที่ดีนะ"
เพราะจริง ๆ LTV ยังไม่ได้ยกเลิกไป เพียงแค่ผ่อนคลายมาตรการเป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคม 2564 จนถึงสิ้นปี 2565 เท่านั้น
ทั้งนี้ก็เพื่อเร่งเพิ่มเม็ดเงินใหม่เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ ผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์ซึ่งมีธุรกิจเกี่ยวเนื่องจำนวนมาก และดึงการลงทุนจากกลุ่มที่ยังมีฐานะการเงินเข้มแข็งหรือรองรับการก่อหนี้เพิ่มได้นั่นเอง 555
โดยเป็นการกำหนดให้สถาบันการเงินของเอกชนและรัฐปล่อยสินเชื่อได้ด้วย LTV ไม่เกิน 100% สำหรับสินเชื่อทุกสัญญาและทุกระดับราคา (แต่เดิม 80%-90%)
เพราะอย่างที่รู้กันว่าภาคอสังหาริมทรัพย์ที่มีความสำคัญและมีธุรกิจเกี่ยวเนื่อง ถือเป็นส่วนหนึ่งของกลไกเศรษฐกิจตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำเลย
จากข้อมูลคิดเป็นกว่าร้อยละ 9.8 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) และมีการจ้างงานรวมกว่า 2.8 ล้านคนเลยนะ อสังหาขายได้ การจ้างงานก็เพิ่มขึ้นไปด้วย
เพราะงั้นก็อย่างที่ผมบอกไปว่าช่วงนี้ก็ถือเป็นโอกาสที่ดีนะ นอกจากจะกู้ได้เต็ม 100% แล้วยังเป็นช่วงดอกเบี้ยขาลง แถมผู้ประกอบการเร่งอัดโปรโมชันแบบเกินคุ้ม
แต่ก่อนที่เราจะตามล่าโครงการในฝัน เรามาคลายสงสัยกันก่อนว่าการที่ ธปท. ผ่อนคลายมาตรการ LTV ให้กู้ซื้อบ้านได้ 100% นั้นมันจะช่วยฟื้นตลาดอสังหาได้จริงหรือป่าวนะ?
ผ่อนคลายมาตรการ LTV ดียังไง
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนครับว่าผ่อนคลายมาตรการ LTV นั้นเป็นมาตรการที่ช่วยกระตุ้นกลุ่มที่มีกำลังซื้อ และมีความสามารถในผ่อนการชำระหนี้ ให้กลับมาซื้อและสร้างหนี้เกี่ยวกับที่อยู่อาศัยมากขึ้น
ซึ่งเมื่อคนกลับมาซื้อก็จะช่วยระบายสต็อกที่อยู่อาศัยใหม่ที่ยังขายไม่หมด เริ่มจากไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ไปจนถึงปีหน้าได้เยอะเลยล่ะ
โดยจากข้อมูลพบว่ามีจำนวนประมาณ 283,500 หน่วย เมื่อผ่อนคลายแล้วน่าจะช่วยให้เกิดยอดขายในปี 2564 ได้เกินกว่า 100,000 หน่วย เป็นจำนวนเงินประมาณ ไม่น้อยกว่า 500,000 ล้านบาท
ซึ่งยังไม่นับรวมที่อยู่อาศัยมือสองที่มีอุปทานรอการซื้ออีกมากกว่า 100,000 หน่วย และอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมที่อยู่อาศัยที่จะช่วยมีมูลค่าในการผลิตสูงเช่นกัน
สรุปก็คือที่ผ่านมาความต้องการซื้อคอนโดในประเทศก็ยังคงมีอยู่ แต่บางส่วนมีมาตรการ LTV เป็นชะงักติดหลังอยู่ เมื่อคลายแล้วคนกลุ่มนี้ก็จะกลับมาซื้อได้นั่นเอง
และเมื่อเกิดมีการซื้อขาย ก็จะมีการพัฒนาโครงการต่อเนื่อง ก่อให้เกิดการจ้างงานในระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นอีกมาก ให้สามารถเศรษฐกิจเคลื่อนที่ไปข้างหน้าได้นั่นเอง
แต่ LTV เป็นเพียงส่วนหนึ่งของปัญหา
อย่างที่ผมบอกไปครับว่าความต้องการซื้อยังมีอยู่ ไม่ว่าใครก็อยากมีบ้าน แต่ใช่ว่าคนกลุ่มนี้จะมี LTV เป็นชะงักติดหลังเพียงอย่างเดียว ยังมีปัญหาอื่น ๆ ที่ทำให้เค้าไม่สามารถซื้อได้ด้วย
เพราะอย่าลืมว่า LTV นั้นคือเกณฑ์ที่กำหนดวงเงินที่ผู้กู้จะกู้ซื้อบ้านได้ หรืออีกนัยหนึ่งก็คือกำหนดว่าผู้กู้จะต้องวางเงินดาวน์ขั้นต่ำเท่าไรนั่นเอง
ถ้าหากอยากกระตุ้นให้ทุกคนสามารถสร้างหนี้ได้ก็คงต้องทำควบคู่กับมาตรการทางการคลังในทิศทางเดียวกันเช่น การลดค่าธรรมเนียมและค่าภาษีให้กับที่อยู่อาศัยทุกระดับราคา
กล่าวคือ การผ่อนคลายมาตรการ LTV ทำให้สามารถใช้ได้กับที่อยู่อาศัยการให้สินเชื่อในทุกระดับราคาและรวมถึงที่อยู่อาศัยมือสองด้วยนั่นเอง
อสังหามือสองก็สำคัญ
อสังหามือสองก็เป็นอีกตลาดที่ไม่ควรมองข้ามเลยครับ เพื่อน ๆ รู้ไหมว่าในแต่ละเดือนมีการประกาศขายเฉลี่ยมากถึงเดือนละ 114,000 หน่วยเลยนะ
ซึ่งถือเป็นตลาดใหญ่ที่มีมูลค่าประมาณ 800,000 ล้านบาทเลยทีเดียว โดยส่วนหนึ่งของผู้ที่ปล่อยขายนี้ ก็มักจะนำเงินที่ได้จากการขายอสังหาในมือเนี่ยแหละ ไปซื้อที่อยู่อาศัยใหม่ด้วย
ดังนั้น... หากมีการผลักดันและกระตุ้นให้เกิดการซื้อขายอสังหามือสองมากขึ้น ก็จะเป็นอีกทางหนึ่งที่ช่วยให้สภาพเศรษฐกิจและตลาดอสังหาดำเนินไปได้เช่นกัน
เพราะเป็นอีกช่องทางที่ช่วยเพิ่มเม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจผ่านการใช้จ่ายเงินของผู้ขายที่ขายที่อยู่อาศัยมือสองได้ และการจ่ายค่าซ่อมแซม/ตกแต่ง/ต่อเติม
สรุปการผ่อนคลาย LTV ช่วยตลาดอสังหาได้ไหม?
ส่วนตัวแล้วผมคิดว่า "ได้" แต่ถ้าดูแค่การกลับมาฟื้นของตลาดอสังหาในปีนี้อาจจะไม่ได้ดีขึ้นอย่างที่หวังมากนัก เพราะมีเวลาแค่ 2 เดือนกว่า ๆ เอง
ซึ่งต้องยอมรับว่าตลอดเวลากว่า 10 เดือนที่ผ่านมานั้นตลาดอสังหาต้องผ่าฟันมาแบบหืดขึ้นคออย่างถ้วนหน้า ยิ่งสะสมกับ 2 ปีที่ผ่านของโควิดยิ่งแล้วใหญ่
แต่มาช้าก็ยังดีกว่าไม่มา เพราะมาตรการนี้มีการผ่อนคลายยาวไปถึงสิ้นปี 2565 ทำให้ปีหน้าทั้งปีเราน่าจะได้เห็นตัวเลขเม็ดเงินสวย ๆ จากภาคอสังหากันมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม... หากจะหวังพึ่งแต่การผ่อนคลายมาตรการ LTV เพียงอย่างเดียว ยังไงก็คงไม่ได้สวยหรูเหมือนช่วงเศรษฐกิจเฟื่องฟูอย่างแน่นอน
ต้องอาศัยมาตรการทั้งจากภาครัฐ ภาคการเงินและภาคการคลัง รวมถึงโปรโมชั่นจากนักพัฒนาโครงการทั้งหลายเข้ามาช่วยหนุนอีกทางเพื่อกระตุ้นการซื้อขาย
เพราะหากไม่มีมาตรการออกมาเพิ่มเติม ภาคอสังหาริมทรัพย์จะไม่กลับไปเท่ากับระดับก่อนวิกฤติจนกระทั่งถึงปี 2568 อย่างที่หลายคนคาดการณ์แน่นอน
Tag : LTV | อสังหาริมทรัพย์ | มาตรการรัฐ
นี่คือคอนโดที่ใกล้ "ลานชมเมืองภูเก็ต" บนเขารังมากที่สุด ทำให้คุณเห็นวิวเมืองภูเก็ตสวยๆตัดภูเขา ทะเล และท้องฟ้า ได้อย่างเต็มตา
ไม่อยากจะเชื่อว่า คอนโดที่มีค่าตัวเริ่มระดับ 7 หมื่นกลางๆ/ตร.ม. จะให้ สุขภัณฑ์อัตโนมัติ WASHLET (แบบที่ใช้ที่ญี่ปุ่นอ่ะ)
นอกจากทำเลติดถนนพระรามสี่อันโดดเด่นแล้ว ความน่าสนใจของ "The Crown Residences" แห่งนี้ ก็คือ "วิว" ที่หาได้ยากกกมว๊ากกกนี่ละ
เจ้าพ่อทำเลริมถนนเพชรเกษมนี่จะเป็นใครไปไม่ได้แล้วนอกจาก "ชัยพัฒนาที่ดิน"
"Asakan Elysium Phahol 59 Station" (อัสสกาญจน์ อีลิเซียม พหลฯ 59) จาก ASAKAN DEVELOPMENT คอนโดใกล้รถไฟฟ้าสถานีพหลโยธิน 59 เพียง 50 ม. เท่านั้น!!
'So Origin Sukhumvit 105' (โซ ออริจิ้น สุขุมวิท 105) ถ้ารู้สึกว่าชื่อมันฟังดูแล้วคุ้นๆ หูจังแหะ ใช่ครับ มันคือตัวเดียวกับ 'โซ ออริจิ้น ลาซาล' นั่นแหละ เปลี่ยนตัวห้อยท้ายนิดหน่อย (แต่ส่วนตัวแอบชอบชื่อเก่ามากกว่า)
ไหนใครกำลังจะรีไฟแนนซ์กันบ้าง ใครกำลังผ่อนบ้านอยู่เพลิน ๆ นี่ห้ามลืมเด็ดเลยนะ เพราะหนี้บ้านพอพ้น 3 ปีแรก ดอกเบี้ยจะพุ่งขึ้นแบบก้าวกระโดดเลย
วันเพ็ญเดือนสิบสอง น้ำก็นองเต็มตลิ่ง...
ใกล้รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน MRT พระราม 9 ประมาณ 420 ม. เป็นรถไฟฟ้าสายสำคัญวิ่งเป็น Loop เชื่อมกับรถไฟฟ้าสายอื่นมากมาย จะไปไหนก็ง่ายดาย
‘ภูมิสถาปนิค‘ ท่านหนึ่งบอกกับผมว่า “Lanscape โครงการนี้สวยที่สุดเท่าที่เคยเจอมา ไม่มีที่ไหนใกล้เคียงความเป็น ‘สวนแบบ Classic’ ที่เป็น ‘quite luxury’ ได้เท่านี้แล้ว“
เฮ้ย! เนื้อที่ดีมันเป็นแบบนี้นี่เอง 5555
นูเทลล่า ทำมาจากถั่วเฮเซลนัท และ ช็อคโกแล็ต ช็อคโกแล็ตมาจากต้นโกโก้ ถั่ว และ โกโก้ = พืช พืช = ผัก กินผัก = ผอม โอเค กินเมนูนี้ได้แบบไม่รู้สึกผิดแล้ว 5555