เมื่อปีก่อนผมเชื่อว่าคนไทยหลายๆ คนคงได้รู้จักคำว่า Startup กันมากยิ่งขึ้น จากซีรีส์สัญชาติเกาหลีที่โด่งดังอย่างเรื่อง Startup นั่นเองครับ
ซีรีส์เรื่องนี้ นอกจากจะสนุกและเพลินตาไปกับเหลานักแสดงหน้าตาดี๊ดีแล้ว มันยังแฝงสาระในเรื่องของธุรกิจ Startup มากๆ กลายเป็นว่า Startup ได้จุดประกายความฝันให้แก่เหล่าเด็กรุ่นใหม่ไม่น้อยเลยฮะ
จริงๆ ต้องบอกว่าประเทศไทยก็มีธุรกิจประเภท Startup เยอะเหมือนกันนะ เยอะเสียจนตอนนี้เหล่าดิเวลลอปเปอร์คอนโดหลายเจ้าหันมาจับกลุ่มลูกค้าที่เป็น Startup เยอะมากกกกก
แต่วันนี้ผมไม่ได้จะมาพูดถึงเรื่องของคอนโดที่เหมาะกับ Startup นะครับ แต่ผมจะมาพูดถึงไอเดียเก๋จาก Amsterdam ประเทศ เนเธอแลนด์ สิ่งนั้นก็คือ "หมู่บ้านสตาร์ทอัพ หรือ Startup village"
Startup เป็นธุรกิจที่กำลังลุกโชนและสร้างแรงบันดาลใจให้แก่คนรุ่นใหม่ทั่วทุกมุมโลก ไม่เว้นแม้กระทั่งพื้นว่างๆ ร้างๆ แห่งหนึ่งในประเทศเนเธอแลนด์แห่งนี้ที่ถูกเนรมิตให้กลายเป็นหมู่บ้านสำหรับนักคิดและนักสร้างสรรค์ ที่มีทั้งผู้ประกอบการ นักวิจัย เหล่าสตาร์ทอัพและนวัตกรรมต่างๆ เอาไว้ด้วยกัน
หรือจะกล่าวว่าหมูบ้านแห่งนี้เป็นหมู่บ้านแห่งแรงบันดาลใจก็ว่าได้ ด้วยสภาพแวดล้อมที่รายล้อมไปด้วยคนที่มีฝัน มีพลังที่เปี่ยมล้นในการทำงาน ปัจจุบันหมู่บ้านแห่งนี้ได้รวมคนที่มีไฟเหล่านี้ไว้ได้ถึง 55 บริษัท เลยทีเดียว
โปรเจกต์ Startup Village เกิดขึ้นจากแนวคิดการเปลี่ยนพื้นที่ร้าง ให้กลายเป็นศูนย์รวมเทคโนโลยีชั้นนำของเมืองในงบประมาณที่จำกัดโดยโปรเจกต์นี้เริ่มขึ้นจริงจังเมื่อปี 2016 เมื่อ Julius Taminiau สถาปนิกชาวเนเธอร์แลนด์ เป็นผู้คิดริเริ่มนั่นเอง โดยภายในหมู่บ้านถูกออกแบบให้มีทั้งพื้นที่ส่วนกลาง โดยข้อดีของการมีพื้นที่ส่วนกลางคือการสนับสนุนให้เหล่าสตาร์ทอัพได้มีโอกาสพบปะพูดคุยและทำความรู้จักกันมากขึ้นนั่นเอง ไม่ว่าจะเป็น เช่น ร้านกาแฟ ห้องประชุม และ Co-working Space เป็นต้น โดยหมู่บ้านนี้จะรายล้อมไปด้วยตู้คอนเทนเนอร์ จะเรียกว่าหมู่บ้านตู้คอนเทนเนอร์แทนหมู่บ้าน Startup เลยก็ได้นะ โดยตู้คอนเทนเนอร์ มีให้เลือก 4 ขนาด ได้แก่ 2.4 x 6 เมตร, 4.8 x 6 เมตร, 2.4 x 12 เมตร และ 4.8 x 12 เมตร
อีกความพิเศษและข้อดีที่หมู่บ้านแห่งนี้ใช้ตู้คอนเทนเนอร์คือการปรับเปลี่ยน ขยายพื้นที่หรือลดพื้นที่ได้ง่ายต่อการขนย้าย แถมยังมาในราคาที่ประหยัดเข้าถึงง่ายเหมาะสำหรับคนที่อยากตั้งต้นธุรกิจ รวมถึงตู้คอนเทนเนอร์พวกนี้ยังสามารถเอามาใช้ซ้ำได้นอกจากนี้ยังมีความทนทานอีกด้วย
หมู่บ้าน Startup ที่ไม่ได้มีแค่ Startup
ภายในหมู่บ้านแห่งนี้ยังเปิดโอกาสให้คนที่อยู่นอกหมู่บ้านและนักศึกษาได้เข้ามาใช้พื้นที่ได้อีกด้วยที่สำคัญคือใช้ได้แบบฟรี!! โดย Julius สถาปนิกผู้ออกแบบได้บอกว่า เหตุผลที่เค้าเลือกใช้ตู้คอนเทนเนอร์ก็เพราะว่าขนาดของตู้คอนเทนเนอร์เป็นพื้นที่ที่เหมาะสมกับออฟฟิศของสตาร์ทอัพ เพราะตู้คอนเทนเนอร์มีขนาดที่ใหญ่พอๆ กับโรงรถเลยครับ ดังนั้นไอเจ้าตู้คอนเทนเนอร์สินค้านี่แหละจึงเหมาะมากที่จะเป็นออฟฟิศแห่งแรกของเหล่าสตาร์ทอัพนั่นเอง
เอ๊ะ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับโรงรถ? ขนาดโรงรถเชื่อมโยงอะไรกับออฟฟิศแรกของเหล่าสตาร์ทอัพ? ที่เค้ายกตัวอย่างขนาดโรงรถ เพราะเจ้าแห่งเทคโนโลยี ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์เคลื่อนที่อย่า Apple ก็มีจุดเริ่มต้นเล็กๆ มาจากโรงรถนี่แหละฮะ เป็นไงเชื่อมโยงได้เก๋ไหม
ตู้คอนเทนเนอร์จะถูกวางเรียงรายติดๆ กัน หลากหลายตู้จนกำเนิดเป็นหมู่บ้านที่รวบรวมเหล่านักคิดนักสร้างสรรค์ ก่อให้เกิดบรรยากาศที่เหมาะเจาะแก่การทำงานและจุดประกายสุดๆ ปัจจุบันหมู่บ้านแห่งนี้กลายเป็นสถานที่ในการแลกเปลี่ยนความรู้และสรรค์สร้างผลงานแก่เหล่าสตาร์ทอัพ
ประเด็นที่ผมมองว่าเห้ย มันสร้างสรรค์มากนะไม่ใช่แค่ว่าไอตรงนี้มันจะเป็นแค่หมู่บ้านที่ใช้ทำงานสำหรับ Startup อย่างเดียวเสียเมื่อไหร่ เพราะการทำงานต้องควบคู่กับการพักผ่อน เหมือนกับคำว่า "Work life balance" เมื่อการทำงานต้อง "Work hard play harder" ที่นี่ยังมาพร้อมกับ ลานจัดกิจกรรมกลางแจ้ง ที่เนรมิตให้เป็นพื้นที่จัดอีเว้นต์ทั้งวิชาการและด้านความบันเทิง มีกิจกรรมอยู่ตลอดทุกๆ วันศุกร์จะเป็นปาร์ตี้ คอนเสิร์ต จะดื่มเบียร์ ปิ้งบาร์บีคิว หรืออะไรก็ได้ครับ ซึ่งเหมาะมากกับหมู่บ้านนี้ที่ทุกคนทำงานหนักมาตลอดทั้งสัปดาห์จะได้ปลดปล่อยและผ่อนคลายความเครียด นอกจากนี้ยังสามารถสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อกันได้ด้วย
แม้ข้างต้นผมจะบอกว่าหมู่บ้านแห่งนี้ช่างเหมาะเจาะกับการเป็นออฟฟิศแห่งแรก แต่ความจริงแล้วภายในหมู่บ้านแห่งนี้ก็มีหลายบริษัทใหญ่ที่ตั้งใจเข้ามาตั้งออฟฟิศในนี้ด้วยเช่นเดียวกันแม้จะเป็นแค่หมู่บ้านคอนเทนเนอร์ที่ไม่ได้ดูหรูหรา แต่การจัดสรรพื้นที่และการรวบรวมเอาคนกลุ่มนี้มารวมกัน จึงส่งผลให้หมู่บ้านแห่งนี้โคตรจะเอื้อเฟื้อต่อการทำงานเลย
แม้การเอาตู้คอนเทนเนอร์มาใช้ในการเป็นที่อยู่อาศัยหรือร้านรวงต่างๆ อาจจะไม่ได้ใหม่ทั้งในบ้านเราและที่อื่นๆ เพราะเราก็เห็นอะไรแบบนี้จนชินตา แต่การนำเอาตู้คอนเทนเนอร์มาใช้เพื่อสร้างออฟฟิศหรือคอมมูนิตี้สำหรับสตาร์ทอัพยังไม่มีโอกาสได้เห็นในบ้านของเรา
ส่วนตัวผมว่าก็น่าเอาแบบอย่างนะ เพราะอย่างที่บอกข้างต้นว่าคนรุ่นใหม่มีไฟและความคิดสร้างสรรค์กันมาก ถ้ามีอะไรแบบนี้ในบ้านเราบ้าง ก็น่าจะเป็นการส่งเสริมกลุ่มคนรุ่นใหม่ได้ดีเลยทีเดียวฮะ
Tag : Startup village |
"MARU CHULA" สรุป สิ่งที่ควรรู้ของคอนโดใหม่จากค่าย Major
ว่ากัน 'ซอยหลังสวน' เปรียบเสมือน "แมนฮัตตันแห่งกรุงเทพฯ" คำกล่าวนี้ผมว่าไม่เกินจริงเลยนะ เพราะซอยหลังสวน ได้ชื่อว่าเป็นย่านที่มีราคาที่ดินแพงที่สุดในประเทศไทย และมูลค่าเพิ่มอย่างต่อเนื่องทุกปี!!
นี่คือคอนโดที่ใกล้ "ลานชมเมืองภูเก็ต" บนเขารังมากที่สุด ทำให้คุณเห็นวิวเมืองภูเก็ตสวยๆตัดภูเขา ทะเล และท้องฟ้า ได้อย่างเต็มตา
‘Supalai Elite Sukhumvit 39’ (ศุภาลัย เอลีท สุขุมวิท 39) ตัวนี้ถือเป็นอีกหนึ่งโครงการที่หลายๆ คนตั้งตารอ ด้วยตัวทำเลที่ค่อนข้างน่าสนใจเลยครับ
ก่อนไปดูทำเล ขอพูดถึงตัวโครงการหน่อย ออกตัวก่อนว่าผมหาข้อมูลที่ยังไม่ Official นะครับ คือไม่ชัวร์ว่าโครงการจะสูงกี่ชั้น มีกี่ยูนิตกันแน่ แต่ทาง PropCons บอกว่าตัวนี้น่าจะเป็นคอนโด High-rise สูงราวๆ 21 ชั้น
โครงการใหม่แกะกล่องจาก 'เสนาดีเวลลอปเมนท์' มีรถไฟฟ้าสายสีเหลืองตัดผ่าน ถือว่ายังเดินทางง่ายๆ ชิลๆ
สำหรับผมเนี่ย การที่มี BigC foodplace ที่ The Old Siam เป็นเรื่องตื่นเต้นมากเลย
รีบไปลองด่วน!! Krispy Kreme เปิดตัวเมนูใหม่อีกแล้ว!! กับ CHOCOMANIA 4 รสชาติเข้มข้น
White Glass Coffee ร้านนี้ทุกโต๊ะต้องสั่ง Avocadro Toast
อันนี้ดี! สิ่งนี้มีชื่อว่า ‘KANGURU’ มันคือ ตู้อเนกประสงค์ แบบ 3 in 1
คอนเฟิร์มอีกครั้ง ร้าน “Dong Sheng” เขามีบริการแกะกุ้งให้นะ
Big C ที่ One Bangkok เติมคำว่า ‘Bangkok Mache” ลงไปด้วย