มันก็ต้องยอมรับจริงๆ ครับว่าทุกวันนี้โลกหมุนเร็วและหลายๆ อย่างต้องตามให้ทันโลกเพราะไม่อย่างนั้นก็จะถูกปล่อยทิ้งไว้ข้างหลัง สุดท้ายก็เป็นที่ลืมเลือนไปเองตามกาลเวลา
ประเด็นที่บ้านเราพูดกันจนแตกเป็นสองเสียงนั้นก็หนีไม่พ้นเรื่องของศาสนา ที่แตะได้บ้างไม่ได้บ้าง เดี๋ยวคนนั้นพุทธแท้ เดี๋ยวคนนี้พุทธเทียม เรียกว่ามีประเด็นให้เป็นที่ถกเถียงกันอยู่บ่อยครั้ง
แต่ก็นะ ผมคิดว่าไม่น่าจะใช่กับ "วัดพระธรรมกาย" ครับ
หนึ่งในวัดที่ออกมาโลดแล่นในสื่อกันให้เห็นอยู่บ่อยๆ หนีไม่พ้นวัดพระธรรมกาย ถึงก่อนหน้านี้จะเงียบไปบ้าง แต่ช่วงนี้มีออกสื่อให้เห็นถึงการปรับตัวแบบก้าวกระโดดให้ทันโลกมากกว่าวัดไหนๆ เลยนะ
ก่อนหน้านี้ที่ดังๆ และคนพูดถึงกันเยอะก็คือ "วัดพระธรรมกาย นิวคาสเซิล" ที่ซื้อโบสถ์และโรงเรียนคอนแวนต์เก่า ชื่อ St.Andrew มาบูรณะเป็นวัด และมีส่วนหนึ่งที่ดีไซน์ออกมาได้ทันสมัยมาก จนคนตั้งคำถามว่านี่มันวัดหรือ Apple Store กันเลยทีเดียว
และล่าสุดที่มาหมาดๆ เลยก็คือมาการก้าวเข้าสู่โลก Metaverse ที่ศาสนาเองก็ปรับตัวใหม่ ไปสร้างวัดกันที่โลกแห่งนี้ด้วยครับ!
โปรเจ็คต์นี้คือ The Muthita Online ของทางวัดธรรมกาย เป็นนิทรรศการมุทิตาพระมหาเถระ-พระเถระ ประจำปี 2564 ของทางวัดเค้า
แน่นอนว่าการจัดนิทรรศการชั่วคราวในครั้งนี้ไม่ใช่แค่เพียงนิทรรศการแบบออฟไลน์แล้ว ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ก็ถึงเวลาที่วัดจะนำเอาความก้าวล้ำทางอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มาปรับใช้ และนำเสนอในรูปแบบออนไลน์เพื่อให้เข้าถึงคนได้หลายกลุ่มแทน
สุดท้ายก็กลายมาเป็นรูปแบบของการแสดงมุทิตาจิตผ่านการเข้าชมนิทรรศการทางอุปกรณ์เทคโนโลยี ที่แค่คลิกเดียวก็เข้าไปในโลกเสมือนจริงแห่งนี้ได้แล้ว!
นิทรรศการ Muthita online นี้ มีคอนเซ็ปท์ว่า "Experienced, as you click" ครับ เราสามารถเข้าไปชมห้องนิทรรศการที่แบ่งออกเป็นโซนๆ เสมือนกับได้ไปเดินดูด้วยตัวเองได้เลย แต่ที่ว้าวคือด้านในก็ออกแบบออกมาได้สุดเจ๋งจนอยากจะเห็นดีไซเนอร์เลยเหมือนกัน
เมื่อเข้าไปที่เว็บไซต์ Muthita Online แล้วเราจะไปอยู่ในจุดเริ่มต้นของการทัวร์ครั้งนี้ รอบด้านเป็นพื้นที่โล่งกว้างที่จะมีทางเข้าโซนต่างๆ เป็นซุ้มให้เลือกครับ ลักษณะซุ้มเหมือนอยู่ในงาน World Expo เลยเหมือนกันนะ 5555
เราสามารถเลือกได้ครับว่าจะเข้าไปทัวร์ที่ไหนก่อน ซึ่งเริ่มแรกผมขอเริ่มต้นที่ Lotus Lobby หรือห้องดอกบัวก่อนเลยแล้วกัน
Lotus Lobby / ห้องดอกบัว
สำหรับห้องดอกบัวนั้นจะจัดแสดงสื่อต้นแบบของการอุปสมบทและความเป็นมาในการจัดงานมุทิตาแด่พระมหาเถระและพระเถระครับ เข้าไปแล้วจะเจอฝรั่งหน้าหล่อเป็นเจ้าหน้าที่ประจำอยู่ที่เคาน์เตอร์ของล็อบบี้ครับ
ส่วนตัวของล็อบบี้นั้นสร้างเป็นอาคารลอยน้ำทรงดอกบัวบานสมกับชื่อ ถ้าเราเงยหน้ามองขึ้นไปเมื่อเราเข้ามาด้านในแล้ว เราจะเห็นว่ามียอดค้ำฟ้า 8 เสา รูปร่างคล้ายช่อฟ้าคู่ของพระอุโบสถแต่มาในสไตล์โมเดิร์น ด้านบนเปิดกว้างเห็นท้องฟ้าและประดับกระจกเอาไว้รอบด้าน ถ้าเดินออกไปตรงส่วนของระเบียงก็สามารถชมวิวได้ด้วย มีหมู่ต้นไม้กับธารน้ำไหล พร้อมท้องฟ้าไร้แดดครับ
ส่วนรายละเอียดของห้องนี้นั้นจัดทำเพื่อระลึกถึงวันแรกที่อุปสมบท มีสื่อมหาปูชนียาจารย์ ผู้เป็นต้นแบบแห่งการอุปสมบท และความเป็นมาของการจัดงานมุทิตาสักการะพระมหาเถระและพระเถระ ของวัดพระธรรมกายจัดแสดง
ลองแวะไปที่ห้องถัดไปกันบ้างดีกว่า
Dome Auditorium / อาคารทรงโดม
อาคารทรงโดมแห่งนี้การออกแบบภายนอกก็จะแตกต่างไปจากห้องดอกบัวนะครับ ซึ่่งเราสามารถเห็นตัวอาคารได้ชัดเจนตั้งแต่ตรงส่วนของทางเข้าเลยว่าหน้าตาของเค้าคล้ายกับบาตรที่คว่ำอยู่
ดีไซน์การออกแบบในรูปทรงนี้คือการใช้ให้บาตรที่เป็นหนึ่งในเครื่องอัฐบริขารที่มีความสำคัญต่อการดำรงชีพของพระภิกษุมาเป็นธีม ตรงส่วนของหน้าทางเข้าก็จะเห็นดอกบัวสีทองที่เป็นสัญลักษณ์งานมุทิตาอย่างชัดเจนด้วยเหมือนกัน
เมื่อเข้าไปด้านในจะต้องตกใจกับความอลังการในการเลือกใช้สีโทนเข้มกับสีทองมาตัดกันและยังเจอคุณพี่ฝรั่งคนเดิมประจำอยู่ที่เคาน์เตอร์ครับ เมื่อลองแพนดูไปรอบๆ จะเจอกับบูธจัดแสดงภาพถ่ายการสร้างบารมีของพระเถระ 6 บูธ แบ่งออกเป็น 3 ชั้น ชั้นที่ 1 บูธ 1A ชั้นที่ 2 บูธ 2A และ 2B ชั้นที่ 3 บูธ 3A, 3B และ 3C ซึ่งในแต่ละบูธนั้นก็จะมีภาพพระเถระจัดแสดงเรียงตามลำดับตัวอักษร
แต่บันไดทางขึ้นชั้นสองนั้นสุดจะว้าวจริงๆ ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในโรงแรมระดับลักชัวรี่เลยเชียว ระยงระย้าจัดเต็ม ลวดลายอ่อนช้อยต่างๆ ก็ใส่เข้ามาจนตาพร่าไปหมด ห้องนี้นับได้ว่าเป็นห้องที่ออกแบบออกมาได้อลังการกว่าใครเพื่อนจนเผลอคิดอยากไปเดินดูในโลกแห่งความเป็นจริงเลย
TRI Hall / อาคารไตร
รูปแบบของอาคารไตรก็สะท้อนออกมาผ่านการดีไซน์เหมือนกันครับ สำหรับไตรนั้นแปลว่าสาม ในที่นี้หมายถึงผ้าสามผืน คือผ้าสังฆาฏิ, ผ้าจีวร และผ้าสบง ที่พระภิกษุถือครองมาตลอด
แนวคิดนี้ก็สะท้อนออกมาเป็นจั่วหลังคาที่ซ้อนทับกัน 3 ชั้นอย่างที่เรามองเห็นจากทางด้านหน้าของตัวอาคารเลย เป็นหลังคาสามชั้นที่วางบนตัวอาคารรองรับธงชัยแห่งพระอรหันต์นี้ และใช้กระจกประดับโดยรอบอาคารเพิ่มการลวงสายตาให้ดูกว้างขึ้นมาอีกนิด
ส่วนภายในนั้นมีซุ้มจัดแสดงภาพการสร้างบารมีของพระมหาเถระ 7 ซุ้ม แบ่งออกเป็น 2 ชั้น ชั้นที่ 1 ซุ้ม D,E,F และ G ชั้นที่ 2 ซุ้ม A,B และ C โดยในแต่ละซุ้มจะมีภาพพระมหาเถระจัดแสดงเรียงตามลำดับตัวอักษร
ส่วนกลางของพื้นที่มีจุดให้เรานั่งพักด้วย (พร้อมกับพี่ฝรั่งคนเดิม) แต่การจะขึ้นชั้นสองเราจะไม่ใช้บันไดครับ เพราะทางนี้มีลิฟต์แก้วคอยให้บริการ เก๋มากๆ เป็นห้องที่มีความโมเดิร์นมากกว่าห้องอื่นเลย
Bodhi "Tree of Awakening"
สุดท้ายยังมีโซนกลางแจ้งด้วยครับ กับ The Bodhi "Tree of Awakening" ต้นโพธิ์ ต้นไม้แห่งการตื่นรู้ โซนนี้เป็นโซนนั่งพักสบายๆ ที่มีต้นไม้ใหญ่ถูกล้อมไว้ตรงกลาง ไม่มีโดมหรือหลังคาลงมาครอบในพื้นที่ส่วนนี้ แต่มีม้านั่งให้เราในโลกเสมือนจริงได้นั่งหย่อนใจ ชมวิวชมบรรยากาศรอบๆ อย่างเงียบสงบ เหมาะกับการ "ตื่นรู้" ตามธีม
หลักๆ แล้วก็ประมาณนี้เลยครับ ผมคิดว่าเรื่องที่น่าสนใจของนิทรรศการออนไลน์ในครั้งนี้คือการได้เข้ามาชมการปรับตัวของศาสนาให้ทันยุค Metaverse 360 องศานี่แหละ
ยิ่งไปกว่านั้นการออกแบบภายในโลกเสมือนจริงแห่งนี้ยังทำออกมาอย่างใส่ใจในรายละเอียดมากๆ ผมถึงได้มองว่านี่มันเหมือนกับงาน World Expo งานหนึ่งเลยเหมือนกัน
และสำหรับในอนาคตอันใกล้เราอาจจะได้เห็นการฟังเทศน์แบบโลกเสมือนจริงหรือการทัวร์นรก-สวรรค์แบบออนไลน์ก็ได้นะ อีเว้นท์ทางศาสนาอื่นๆ ก็น่าจะสามารถทำให้คนในยุคนี้เข้าใกล้ได้มากกว่าเดิม ชนิดที่ว่าไม่ต้องไปวัดแค่คลิกเอาในมือถือก็ได้ใกล้ชิดพระศาสดาเลยล่ะครับ เหมือนการลอยกระทงออนไลน์นั่นแหละ 5555
ตัดเรื่องศาสนาหรือพุทธแท้พุทธเทียมออกไป หลังจากที่ได้เดินเล่นในโลกเสมือนจริงแห่งนี้ผมรู้สึกได้ถึงการพยายามปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยที่เดินไปข้างหน้าอย่างไม่รอใครมาก และแน่นอนว่าหลังจากนี้คงมีเรื่องออกมาให้ว้าวกันอีกเพียบ
ใครที่สนใจอยากลองเข้าไปเดินเล่นชมนิทรรศการหรือการออกแบบภายในโลกเสมือนจริงของวัดพระธรรมกาย ก็ลองเข้าไปกันได้ ที่นี่ เลยนะคร้าบบบ
Tag :
นี่คือคอนโดที่ใกล้ "ลานชมเมืองภูเก็ต" บนเขารังมากที่สุด ทำให้คุณเห็นวิวเมืองภูเก็ตสวยๆตัดภูเขา ทะเล และท้องฟ้า ได้อย่างเต็มตา
ไม่อยากจะเชื่อว่า คอนโดที่มีค่าตัวเริ่มระดับ 7 หมื่นกลางๆ/ตร.ม. จะให้ สุขภัณฑ์อัตโนมัติ WASHLET (แบบที่ใช้ที่ญี่ปุ่นอ่ะ)
นอกจากทำเลติดถนนพระรามสี่อันโดดเด่นแล้ว ความน่าสนใจของ "The Crown Residences" แห่งนี้ ก็คือ "วิว" ที่หาได้ยากกกมว๊ากกกนี่ละ
เจ้าพ่อทำเลริมถนนเพชรเกษมนี่จะเป็นใครไปไม่ได้แล้วนอกจาก "ชัยพัฒนาที่ดิน"
"Asakan Elysium Phahol 59 Station" (อัสสกาญจน์ อีลิเซียม พหลฯ 59) จาก ASAKAN DEVELOPMENT คอนโดใกล้รถไฟฟ้าสถานีพหลโยธิน 59 เพียง 50 ม. เท่านั้น!!
'So Origin Sukhumvit 105' (โซ ออริจิ้น สุขุมวิท 105) ถ้ารู้สึกว่าชื่อมันฟังดูแล้วคุ้นๆ หูจังแหะ ใช่ครับ มันคือตัวเดียวกับ 'โซ ออริจิ้น ลาซาล' นั่นแหละ เปลี่ยนตัวห้อยท้ายนิดหน่อย (แต่ส่วนตัวแอบชอบชื่อเก่ามากกว่า)
ไหนใครกำลังจะรีไฟแนนซ์กันบ้าง ใครกำลังผ่อนบ้านอยู่เพลิน ๆ นี่ห้ามลืมเด็ดเลยนะ เพราะหนี้บ้านพอพ้น 3 ปีแรก ดอกเบี้ยจะพุ่งขึ้นแบบก้าวกระโดดเลย
วันเพ็ญเดือนสิบสอง น้ำก็นองเต็มตลิ่ง...
ใกล้รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน MRT พระราม 9 ประมาณ 420 ม. เป็นรถไฟฟ้าสายสำคัญวิ่งเป็น Loop เชื่อมกับรถไฟฟ้าสายอื่นมากมาย จะไปไหนก็ง่ายดาย
‘ภูมิสถาปนิค‘ ท่านหนึ่งบอกกับผมว่า “Lanscape โครงการนี้สวยที่สุดเท่าที่เคยเจอมา ไม่มีที่ไหนใกล้เคียงความเป็น ‘สวนแบบ Classic’ ที่เป็น ‘quite luxury’ ได้เท่านี้แล้ว“
เฮ้ย! เนื้อที่ดีมันเป็นแบบนี้นี่เอง 5555
นูเทลล่า ทำมาจากถั่วเฮเซลนัท และ ช็อคโกแล็ต ช็อคโกแล็ตมาจากต้นโกโก้ ถั่ว และ โกโก้ = พืช พืช = ผัก กินผัก = ผอม โอเค กินเมนูนี้ได้แบบไม่รู้สึกผิดแล้ว 5555