ในช่วง 1-2 เดือนนี้ นับว่าเป็นช่วงที่เริ่มกลับมาคึกคักของวงการอสังหาจริงๆ เนื่องเพราะหลาย Developer เริ่มทยอย "โชว์ของใหม่" กันอย่างต่อเนื่อง

        บ้างก็เปิดให้จับจองแล้ว บ้างก็แปะโป้งบอกเอาไว้ก่อน ประมาณว่า "อย่าเพิ่งรีบ ยังมีของเราอีกนะ" อิอิ

        จากปัญหาในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ทำให้มีการเพิ่ม Supply ใหม่ๆเข้าสู่ตลาดค่อนข้างเล็กน้อย และมีการหั่นราคาเพื่อปล่อยของเก่า

        "ราคา" ที่เคยพุ่งขึ้นอย่างร้อนแรงเมื่อหลายปีก่อน (ขึ้นตามราคาที่ดินที่สูง) ก็เลยมีโอกาสได้พักหายใจ 

        เป็นการปรับฐาน "ราคา" ใหม่ ให้สอดคล้องกับกำลังซื้อที่แท้จริงมากขึ้น

        เลยเป็นโอกาสที่ดีของคนที่ยังมีกำลังซื้อ ได้คว้า "ของ" ที่สร้างเสร็จแล้วในราคาสุดคุ้ม

        โครงการใหม่ๆที่เปิดตัวช่วงนี้ ก็เลยมีการปรับราคาให้น่ารักขึ้นเยอะ จับต้องได้ง่ายขึ้น สวยขึ้น เน้นการใช้งานส่วนกลางมากขึ้น

        "Life Rama4 - Asoke" ก็เช่นกัน เป็น 1 ในโครงการใหม่ที่ทำการบ้าน เจาะตลาดคนรุ่นใหม่มาได้ค่อนข้างดี ทำให้มีคนสนใจไม่น้อย 

        ผมเคยเขียนถึงไปบ้างล่ะ วันนี้สบโอกาสเข้าไปดูโครงการอีกรอบ เลยทำรีวิวมาฝากแฟนเพจกัน 

        เอาล่ะ มาเริ่มกันเลย

        โครงการจะวางตัวเองอยู่ตรงติดถนนพระรามสี่ ฝั่งวิ่งไปพระโขนง เยื้องกับตลาดคลองเตย ใกล้ๆกับตึก FYI Center

        ภายใน FYI นั้นมีร้านค้าอยู่หลายร้านเลย เช่น Shibuya shabu , Dean & Deluca , หมูทอดเจ๊จง และ 7-Eleven 

        "สะดวกดีวุ้ย มีร้านอาหารเยอะ แล้วพอเดินมาถึง FYI มันเหมือนเดินถึง MRT แล้วเลย" คุณบี ได้หล่นความเห็นเอาไว้ เมื่อตอนที่ไปเดินสำรวจด้วยกัน 

        ผมเองก็คิดไม่ต่างกันเลย

        ห่าง "MRT ศูนย์สิริกิติ์" ประมาณ 450 ม. เดินได้สบาย จากโครงการมาน่าจะสัก 5 นาทีเอง (ถ้าศูนย์สิริกิติ์สร้างใหม่เสร็จเมื่อไร โหย เดินงานแฟร์กันเพลิน)

        แต่ความรู้สึกมันจะเหมือนไวกว่านั้น เพราะรู้สึกว่าถึง MRT ตั้งแต่เดินเข้า FYI เหมือนที่คุณบีบอก 

        นั่งจาก "MRT ศูนย์สิริกิติ์ ไปอีกแค่ 2 สถานีคือ ลุมพินี ส่วนสีลมก็ชิลๆ 3 สถานีถึง อันนี้นับว่าเป็นกำไรสำหรับคนทำงานแถวๆ สีลม-ลุมพินี เหมือนกันนะ

        หรืออยากจะไปหาอะไรอร่อยๆสนองกระเพาะที่ "เยาวราช" ก็ห่างแค่ 6 สถานี นั่งไป 11 นาทีเอง

        หรือจะไป Central พระรามเก้า , สามย่านมิตรทาวน์ ก็ง่ายดาย และใช้เวลาไม่นานทั้งนั้น บางทีนั่งในห้องน้ำยังอาจนานกว่าเลย อิอิ

        ในอนาคต "พระราม4" จะกลายเป็นย่านที่เป็นศูนย์รวมธุรกิจ และไลฟ์สไตล์เข้าไว้ด้วยกัน

        เนื่องด้วยการผุดของ โรงแรม สำนักงาน ร้านค้าปลีก และยังอีกสารพัดโปรเจกต์ของเจ้าสัวตลอดแนวเส้นพระราม 4 

        อย่าง "One Bangkok" จากโครงการ ขับรถไปไม่ถึง 10 นาทีก็ถึงแล้ว ส่วนตัว "Dusit Central Park" ก็ประมาณ 10-15 นาที

        ความดีงามของย่านนี้ก็คือ ความสะดวกในการเดินทาง เพราะเล่นไปตัดกับถนนอื่นๆ กินเรียบมาตั้งแต่เจริญกรุงยาวไปนู่นนน สุขุมวิท ช่วงพระโขนงเลย ลัดเลาะกันสนุกสนาน

        เลี้ยวเข้าซอยสุขุมวิท 24 เชื่อมต่อใจกลางสุขุมวิท-อโศก หรือจะไป สาทร-สีลม ก็ง่ายดาย แต่ละเส้น พีคๆทั้งนั้น (รถติดแน่นวล อิอิ)

        ที่น่าตื่นเต้นอีกอย่างคือ โครงการใกล้กับ "สวนเบญจกิติ" ที่กำลังปรับปรุงใหม่ (มีการทำทางเชื่อมไปถึงสวนลุมด้วย) ซึ่งในอนาคตจะเป็นสวนขนาดใหญ่ 800 ไร่ ปอดใหม่ของคนกรุงเทพ 

        มีทั้ง สวนป่า , สวนน้ำ , บึงขนาดใหญ่ , ไบค์เลน , Skywalk ที่ผ่ากลาง ให้เราเดินชื่นชมธรรมชาติ ต้นไม้นานาพันธ์ จะสายเบิร์นพลังงาน หรือสายชิลล์ ก็เหมาะดีนักแล

        Life Rama 4 - Asoke เป็นคอนโด High Rise 39 ชั้น 1 อาคาร ยูนิตพักอาศัย 1,237 ยูนิต+ร้านค้า 2 ยูนิต ที่จอดรถ  40% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) บนที่ดินขนาด 5-2-7.5 ไร่

        ประเภทห้องพักในโครงการ มีตามนี้เลย

        - ห้อง Simplex ฝ้าเพดานสูง 2.65 เมตร

        ห้อง 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ 26.5-32 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.85 ล้านบาท

        ห้อง 1 Bedroom Plus ขนาดพื้นที่  35-38 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 5.28 ล้านบาท

        ห้อง 2 Bedroom ขนาดพื้นที่ 47-75 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 7.05 ล้านบาท

        - ห้อง Vertiplex ฝ้าเพดานสูง 4.4 เมตร

        ห้อง 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ 28.5-38 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 5.5 ล้านบาท

        ห้อง 2 Bedroom ขนาดพื้นที่ 47-70 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 8.35 ล้านบาท

        ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ ประมาณ 152,000 บาท/ตร.ม. (ราคาเปิดตัวกลางเดือนตุลาคม)

        ขายแบบ Fully Fitted ผ่าน EIA แล้วเรียบร้อย สบายใจได้

        เป็นครั้งแรกของการเปิดตัวผังห้องชุดรูปแบบใหม่ที่ Customize เป็นพิเศษ เฉพาะโครงการ Life Rama4-Asoke ด้วยผังห้องชุดที่มากกว่า 100 ดีไซน์ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ชีวิต เลือกกันสนุกจนมึนแน่นอน 555

        ห้องรูปแบบใหม่ "Vertiplex" เพดานสูงถึง 4.4 ม. เพิ่มพื้นที่ ทำให้ไม่ต่างจาก 2 ห้องนอนเลย มาพร้อม Walk-In Closet ขนาดใหญ่ มันให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านเหมือนกันนะ อันนี้อยากให้ลองมาดูกับตาตัวเองกัน

        ห้อง 1 Bedroom ขนาด 26.5-30 ตร.ม. ออกแบบให้มี walk-in closet เชื่อมระหว่างห้องนอน กับห้องน้ำ ที่น่าจะทำให้ดวงใจน้อยๆของใครหลายคนหวั่นไหว 555 

        มีระบบ Home Automation ภายในห้องให้ด้วย เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้จริงๆกับคอนโดยุคใหม่

        พื้นที่ส่วนกลางเยอะมากกกก มีถึง 5 ชั้น (Quintuple Facilities) พื้นที่มากกว่า 8,635 ตารางเมตร หรือ 5.39 ไร่ กับพื้นที่สีเขียวรอบโครงการ 

        ชั้น G :

        Lobby , Sylvan Park , The Parlour , Playfulness Bar , The Reception , Chill Out Lab , Green Tunnel

        ชั้น 36 – 39 :

        Swimming Pool & Jacuzzi 6 ฟังก์ชัน ยาว 50 m. , Sundown Terrace , The Muscle Factory Panoramic Fitness , The Common , The Circular Lounge , Rooftop Garden , Sky Studio 

        มีระบบเข้าออกโครงการแบบสแกนทะเบียนรถ สะดวกดีนะ 

        ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ ระบบ KATSAN / CCTV / Key Card

        "ส่วนกลาง" จัดว่าเชื้อไม่ทิ้งแถว โดดเด่น น่าใช้งาน ไม่แพ้ "ชีวิต" รุ่นพี่ที่ผ่านมาเลย

        พัฒนาขึ้นเพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ work from anywhere ได้อย่างเต็มที่ Co-working Space ดีไซน์ใหม่ มีความเป็นส่วนตัว แม้อยู่ในพื้นที่ส่วนรวม 

        "วิว" สตั๊นได้โหดร้ายมาก ได้ทั้งวิวโค้งน้ำบางกระเจ้า และสวนเบญฯ จะมีสักกี่คอนโดกันที่ได้วิวแบบนี้ เอาตรงๆ ตอนไปเดินสำรวจพื้นที่ ผมยังไม่คิดเลยว่า จะได้วิวระดับนี้!!

        กลับจากทำงานมาเหนื่อยๆ ขึ้นมาเห็นวิวแบบนี้ โอ๊ย ช่วยได้เยอะเลยนาาา

        เหมือนเติมพลังงาน "ชีวิต" กลับเข้าร่างอีกครั้ง  

        "เจ้าอื่นเค้าไม่ research ข้อมูลคนอยู่อาศัยบ้างเหรอ?"

        ผมเคยหล่นคำถามแบบนี้กับคุณบี หลังจากเข้าไปฟังข้อมูลของโครงการ

        สาเหตุเพราะว่า เวลาผมเข้าไปฟังโครงการใหม่ๆของ "พี่แอพ"(AP) ทีไร มักจะมีอะไรให้ผม "ว้าว" เสมอ 

        รูปแบบโครงการใหม่ของ AP มันเป็นการฟังข้อมูลจากคนอยู่อาศัยจริง แล้วมาปรับปรุงให้เข้ากับยุคสมัย มีเหตุผลทุกอย่างรองรับ

        อย่าง "The Parlour" นี่ ผมชอบมากๆ เป็นพื้นที่ส่วนกลางที่ใช้ทานอาหารแบบ Grab & Go >>>> "EAT + MEET"

        "พี่แอพ" เค้าไป research มาจริงๆ ว่าหลายคนไม่ชอบกินอาหารบนห้อง เพราะทำให้มี "กลิ่น" ถ้าเป็นไปได้ ก็อยากกินที่ส่วนกลางดีกว่า

        ดังนั้นเค้าเลยออกแบบส่วนกลางที่ตอบสนองต่อความต้องการนี้

        แถมยังจัด layout ให้ใกล้กับจุดรับ Food delivery ด้วย (รับเสร็จ เดินมากินได้เลย) แถมยังมีที่ทิ้งขยะ หลังทานเสร็จพร้อมระบบจัดการขยะ

        คือเราทิ้งขยะจากทางนึง แล้วมีอีกทางนึงให้แม่บ้านเข้าไปเก็บ เอาไปทิ้ง

        ที่สำคัญ ยังออกแบบที่นั่ง (ทาน) มาให้หลากหลายรูปแบบ เช่น นั่งแบบร่วมกัน (กับคนในครอบครัว) หรือ นั่งแบบ Private ทานคนเดียว เป็นต้น

        นี่แค่เรื่องเดียวนะ ยังมีแง่มุมอื่นๆ อีกมากมาย นี่แหละคือข้อดีของการใช้ "Design Thinking" ของ "พี่แอพ" เค้า

        สำหรับผมแล้ว ทำเล "พระรามสี่" เป็นทำเลแห่งอนาคต ยังมี "ความเจริญ" เข้ามาเสริมทัพกันอย่างต่อเนื่อง

        มีเพิ่มทั้ง แหล่งงาน แหล่งท่องเที่ยว 

        แน่นอนว่า เหล่าโครงการที่อยู่อาศัยหลากหลายรูปแบบ ย่อมตบเท้าตามกันมา

        และ "ราคา" ก็อาจมีการปรับตามราคา "ที่ดิน" ที่นับวันก็หาได้ยากขึ้นเรื่อยๆ

        "Life Rama4-Asoke" ที่หอบเอาจุดเด่นหลายอย่าง มาพร้อมกับค่าตัวที่เริ่ม 3.85 ล้านบาท จึงเป็น 1 ในตัวเลือกที่ดี ให้คนทำงานแถวอโศก สีลม สาทร และบริเวณใกล้เคียง ที่มีงบจำกัด 

        ยังไม่ต้องเชื่อผม อยากให้มาลองดูด้วย "ตา" ตัดสินด้วย "ใจ" ของตัวเองกันดูนะ 

        คลิกที่นี่ เพื่อลงทะเบียนข้อมูลเพิ่มเติมครับ

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้