ผมว่าหนึ่งในปัญหาชวนหัวที่ทำให้คนในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ที่มีที่ดินต้องดูแลต้องปวดขมับและเกิดข้อพิพาทกันบ่อยๆ หนึ่งในนั้นน่าจะหนีไม่พ้นปัญหาเรื่อง "การครอบครองปรปักษ์" นี่แหละครับ
"การครอบครองปรปักษ์" ฟังแค่ชื่อก็เหมือนจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่แล้ว อันที่จริงมันก็มีทั้งดีทั้งไม่ดี ขึ้นอยู่กับว่าเราได้ประโยชน์หรือเสียประโยชน์นั่นแหละนะ 5555
ความหมายของมันถ้าไม่ได้พูดถึงกันในภาษากฏหมาย แปลเป็นภาษาชาวบ้านให้เข้าใจง่ายๆ ก็คงต้องบอกว่า เป็นกฏหมายที่เอื้อให้ใครก็ตามที่เข้ามาครอบครองที่ดินของเราจนครบ 10 ปี สามารถกลายเป็นเจ้าของที่ดินผืนนั้นไปโดยปริยาย
นี่แหละครับถึงได้บอกว่ามันแล้วแต่มุมจริงๆ ถ้าเราเป็นเจ้าของที่เราก็คงไม่อยากเสียที่ดินของตัวเองให้คนอื่นไปฟรีๆ หรอกจริงมั้ย
กรณีนี้เกิดได้ทั้งกับ "อสังหาริมทรัพย์" และ "สังหาริมทรัพย์" เลยนะ
สำหรับ "อสังหาริมทรัพย์" ต้องครอบครองติดต่อกันเป็นเวลา 10 ปี
ส่วน "สังหาริมทรัพย์" นั้น ต้องครอบครองติดต่อกันเป็นเวลา 5 ปีครับ
ซึ่งในวันนี้ผมจะพูดถึง "อสังหาริมทรัพย์" แล้วกัน
แน่นอนว่าฟังดูแล้วกฏหมายนี้ไม่เป็นธรรมกับเจ้าของที่ดินสักเท่าไหร่ ว่าแต่การครอบครองปรปักษ์คืออะไร มีหลักเกณฑ์อย่างไร และที่สำคัญคือมีวิธีแก้ไขแบบไหนบ้าง เดี๋ยวเรามาหาคำตอบกันเพื่อระมัดระวังป้องกันไว้ก่อนดีกว่าครับ
หลักๆ ที่เจ้าของที่ดินต้องรู้คือ หลักเกณฑ์ตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์สำหรับการครอบครองปรปักษ์ มาตรา 1382 กล่าวไว้ว่า "บุคคลใดครอบครองทรัพย์สินของผู้อื่นไว้โดยความสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของ ถ้าเป็นอสังหาริมทรัพย์ได้ครอบครองติดต่อกันเป็นเวลาสิบปีท่านว่าบุคคลนั้นได้กรรมสิทธิ์"
มาตรานี้ถือได้ว่าเป็นข้อกฏหมายที่ถูกอ้างถึงเสมอเกี่ยวกับการครอบครองปรปักษ์ เดิมทีก็ถูกตราขึ้นมาเพื่อให้คนที่มีที่ดินจำนวนมากหรือว่าคนที่มีที่ดินแต่ว่าไม่ได้ดูแล ปล่อยให้ที่ดินนั้นรกร้างว่างเปล่าน่าเสียดาย กลายเป็นว่าถ้าหากมีคนที่ต้องการนำที่ดินผืนนั้นๆ ไปทำประโยชน์นานกว่า 10 ปี โดยที่คนที่เป็นเจ้าของไม่ได้ทักท้วงอะไร ก็ยกกรรมสิทธิ์ให้ไปเลยประมาณนี้
ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะกฎหมายต้องการให้ประชาชนได้ใช้ที่ดินเพื่อทำประโยชน์ไม่ใช่สะสมที่ดินไว้เป็นไอเท็มคอลเล็กชั่นนั่นเอง
แต่การที่จะได้กรรมสิทธิ์ที่ดินโดยการครอบครองปรปักษ์มามันก็ไม่ได้ง่ายเหมือนอย่างที่คิดนะครับ เพราะอันที่จริงแล้วการจะได้กรรมสิทธิ์โดยแนวทางนี้มามันก็มีหลักเกณฑ์หลายอย่างตามกฎหมายอีกต่างหาก
อย่างเช่นการครอบครองทรัพย์สินของผู้อื่นครั้งนี้จะเป็นใครก็ได้ แต่ต้อง "ไม่ใช่" ที่ดินของผู้ครอบครองปรปักษ์เอง หากเป็นผู้เช่า ก็ไม่ถือว่าเป็นการครอบครองปรปักษ์นะครับ
หรือทรัพย์สินที่ครอบครองต้องเป็นทรัพย์ที่มีกรรมสิทธิ์ ต้องเป็นการครอบครองโดยความสงบ หรือก็คือครอบครองอยู่ได้โดยไม่ถูกไล่ถูกท้วง ที่สำคัญคือ "ต้องเป็นการครอบครองโดยเปิดเผย" ไม่ใช่ครอบครองแบบปิดบังอำพราง จงใจซ่อนเร้นอะไรแบบนี้
แต่ข้อควรระวังคือ ต่อให้เราที่เป็นเจ้าของที่ดินจะมีโฉนดอยู่ในมือก็อย่าได้วางใจไปเชียว เพราะบางทีเจอคนหัวแหลมเราก็จนแต้มเอาได้ง่ายๆ เช่น หากมีบุคคลจะเข้ามาครอบครองปรปักษ์ อยากจะจดทะเบียนการครอบครอง หลักฐานที่ต้องใช้แสดงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ จะมี...
ซึ่งไอ้เอกสารโฉนดที่ดินฉบับเจ้าของที่ดินเนี่ยต่อให้คนที่เข้ามาแย่งครอบครองจะไม่มี ตัวเจ้าพนักงานก็จะถือว่าโฉนดที่ดินสูญหายครับ จากนั้นก็จะออกใบแทนโฉนดที่ดินแล้วก็ดำเนินการจดทะเบียนตามควรแก่กรณีไป ซึ่งหากเป็นในกรณีนี้แล้ว ตัวโฉนดที่ดินที่เป็นตัวเดิมก็จะใช้ไม่ได้ละนะ
หากลองคิดภาพตามแล้วคล้ายว่าจะหละหลวมเหมือนกันเนอะ มันเลยมีหลายเสียงที่เค้าบอกว่าควรจะปรับปรุงกฏหมายนี้ได้แล้ว เพราะมันมีกรณีที่เกิดข้อพิพาทกันบ่อยๆ เหมือนกัน
สุดท้ายที่เราต้องคิดคือ แล้วจะมีแนวทางไหนที่จะช่วยป้องกันปัญหานี้ได้บ้างล่ะ?
1. หมั่นไปตรวจตราที่ดินเป็นประจำ อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อที่เราจะได้รู้ว่ามีใครที่ไหนมายุ่มย่ามกับที่ดินของเราหรือไม่ รวมถึงใช้หลักการถามไถ่ชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงว่ามีใครมาใช้ที่ดินลับหลังเราหรือเปล่าก็ได้เช่นกันครับ
2. ติดป้ายหรือล้อมรั้วกั้นที่ดินไว้ให้ชัดเจน เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของว่าที่ดินผืนนี้มีเจ้าของ มีกำหนดเขตแดนที่ชัดเจน
3. ตรวจสอบดูหลักหมุดให้อยู่ที่เดิมเสมอ สังเกตดูว่าหมุดมีการเคลื่อนย้ายหรือว่ามีตรงไหนชำรุดหรือไม่ ถ้าหากพบว่าหมุดหายหรือว่าถูกย้าย ให้รีบไปแจ้งความดำเนินคดีโดยเร็วเลย
4. ควรรังวัดที่ดินอย่างน้อยทุกๆ 5 ปี เพื่อตรวจสอบว่าที่ดินของเรานั้นมีเพิ่มหรือลดลงไปหรือไม่
5. มีธุรกรรมกับกรมที่ดินเป็นครั้งคราว เพื่อย้ำความเป็นเจ้าของที่ดินกับทางภาครัฐ จะยื่นเรื่องขอรังวัดที่ดินหรือยื่นเรื่องขอคัดสำเนาโฉนดที่ดินในฐานะเจ้าของที่ดินก็ได้ครับ แน่นอนว่าอย่าลืมใส่ใจการเสียภาษีตามกฏหมายกับทางกรมที่ดินหรือหน่วยงานราชการด้วยนะ
6. หากพบว่ามีผู้อื่นเข้ามาครอบครองหรืออยู่อาศัยในที่ดินของเราให้รีบทำการคัดค้านทันทีครับ เพื่อยืนยันให้เห็นถึงความไม่สมยอม โดยเราจะตัดสินใจให้อีกฝ่ายทำสัญญาเช่า จะซื้อจะขาย หรือจะขับไล่โต้แย้งอะไรก็ว่าไป แต่ขอให้ดำเนินการอย่างใจเย็นและอดทนนะครับเพราะยังไม่มีการพิพากษา ที่ดินก็ยังคงเป็นของเราอยู่ดี
มาถึงตรงนี้แล้วผมก็อยากจะบอกว่าไอ้เรื่องด้านบนมันก็แค่ส่วนหนึ่งของการครอบครองปรปักษ์เท่านั้นนะ เอาเข้าจริงถ้าให้ลงรายละเอียดลึกๆ แล้วอ่านวันสองวันก็ไม่มีทางจบ
นั่นก็เพราะว่าการครอบครองปรปักษ์เป็นกฎหมายที่มีมานาน แถมยังมีประเด็นข้อพิพาทอีกเพียบ จำเป็นต้องศึกษาในหลายๆ แง่มุมเลยล่ะ แต่ก็อยากให้ทุกคนวางใจไม่จำเป็นต้องกังวลอะไรขนาดนั้น เพราะหากเรากระตือรือร้นหมั่นไปตรวจตราที่ดินของตัวเองบ่อยๆ แสดงท่าทีไม่ยินยอมเมื่อพบว่ามีคนเข้ามาใช้ประโยชน์ในที่ดินโดยที่เราไม่ได้อนุญาตตั้งแต่แรกๆ ปัญหานี้ก็จะไม่เกิดขึ้นกับเราแน่นอนครับ
Tag :
มั่นใจว่าผมอยู่กับ "Ashton Residence 41" มาไม่น้อยกว่าใคร...
ตั้งแต่ผมเริ่มก้าวเท้าเข้ามาลงทุนคอนโด สามารถบอกได้เลยว่า ปีนี้ เป็น 1 ในปีที่ "ราคา" คอนโด ดีที่สุดแล้ว หลายๆเจ้า ขนคอนโดมาวางแผงขายลดราคา ทั้งเก่า และใหม่
ผมเชื่อว่า คนจำนวนมาก ยังต้องการให้มี สระว่ายน้ำ ฟิตเนส และถ้ามีศักยภาพทางการเงินที่มากพอ "NOWW MEGA" ก็อาจไม่ใช่โครงการที่คุณมองหา
"ONE ORIGIN SUKHUMVIT 68" ไลน์อัพแตกแตน สมความเป็นแดน ONE ORIGIN
'เฟล็กซี่ สำโรง-อินเตอร์เชนจ์' คอนโดใหม่ ใกล้รถไฟฟ้าสถานี Interchange ทั้ง BTS สายสุขุมวิท และ MRT สายสีเหลือง สถานีสำโรง POP สุดในย่าน Facilities จัดเต็ม 3 ชั้น
ออริจิ้น หรือที่ผมชอบไปเรียกเค้าว่าพี่อัศวินเนี้ย เค้าสมฐานะเจ้าอสังหาฯ ที่เปิดตัวคอนโดเยอะที่สุดในปี 2023 จริงๆ แหละ ไอเราก็เป็นเพจคอนโดซะด้วย ทีนี้ก็ว้าวุ่นเลย ตามเก็บทำเลมาเล่าให้ทุกคนอ่านกันต่อเนื่อง5555
นอกจากจะขยันออกโดนัทหน้าใหม่ทุกเทศกาลแล้ว เครื่องดื่มประจำเทศกาลเค้าก็ไม่น้อยหน้าเหมือนกันนะ!!
คริสปี้ ครีม ยกเอามู้ดของความสุขมาไว้บนโดนัทหน้าใหม่!! กับ “Krispy Kreme x elf Specialty Doughnuts” ต้อนรับเทศกาลแห่งความสุขถึง 4 หน้า 4 สไตล์
'น้องนมเย็น' หรือ รถไฟฟ้าสายสีชมพู โดยมีกำหนดให้ประชาชนได้ทดลองใช้ฟรี!! ตั้งแต่วันที่ 21 พ.ย. - 17 ธ.ค. 2566
อุตสาหกรรมภาพยนตร์เป็นหนึ่งในภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดตลอดช่วงโควิด-19 ครับ ตอนนั้นโรงภาพยนตร์ทั่วโลกต้องปิดตัวลงเป็นระยะเวลานาน การถ่ายทำก็หยุดชะงัก เรียกว่าพังกันไปเป็นหย่อมๆ
นี่คือร้านที่ดีที่สุดในทริปเซี่ยงไฮ้ ผมอยู่ 5 วัน กินร้านนี้ไป 2 วันติด! เอาแบบนี้ ถ้าพี่จีนจะทำบุฟเฟต์ขนาดนี้ จะมีใครไปสู้พี่เค้า เดี๋ยวจะบรรยายให้อ่านก่อนว่าเค้าทำอะไรให้บ้าง แล้วมาเดาราคากัน
ผมล่ะชอบจริงๆ เลยช่วงสิ้นปีเนี้ย ลมเย็นๆ บรรยากาศการเฉลิมฉลอง มีเทศกาลดีๆ ตามห้างร้านตกแต่งเข้าธีมกันอย่างสวยงามเลย