ทันทีที่เรามาถึงรีสอร์ต เป็นเวลาช่วงโพล้เพล้ แสงหมด ทำให้รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย ต้องยอมรับว่าภายนอกอาจจะดู Vintage ไปหน่อย (หรือเก่าน่ะแหละ)
แต่พอพนักงานสอดคีย์การ์ดและเปิดประตูห้องพักให้เห็น ความเบิกบานก็แทรกเข้ามาฉับพลัน แอบคิดในใจว่า ‘ห้องดูใหม่กว่าข้างนอกเยอะเลย’ อย่างเช่นห้องน้ำก็มีหน้าต่างที่สามารถเปิดออกแล้วมองทะลุภายในห้องออกไปชมวิวทะเลด้านนอกได้เลย!
และจากความเหนื่อยล้าในการเดินทาง พวกผมจึงตอบรับคำเชิญ Dinner ของทางรีสอร์ต ในสนนราคาคนละ 350 บาท ซึ่งผลก็คือ เกินคาด อร่อย จุก คุ้มค่า (ตามที่ผมรีวิวไปแล้ววันก่อน) จนต้องถามพนักงานซ้ำว่า ‘คนละ 350 บาท จริงๆ เหรอครับ?’ ของดีๆ ทั้งนั้น!!
อันที่จริงผมเริ่มเห็นเค้ารางความสวยงามของวิวที่น่าจะ ‘สตั๊นท์’ แล้ว แต่ด้วยความมืดทำให้ยังเสพได้ไม่เต็มที่ คิดว่าพรุ่งนี้เช้าจะกลับลงมาแก้แค้นวิวอีกที
รุ่งขึ้นเวลาดีตี 6 จึงรีบรุดขึ้นจากเตียง เพื่อมาเสพบรรยากาศ ‘วิวหลักล้าน’ บอกได้เลยว่าวิวที่นี่ไม่ต่างจากที่พักระดับ 5 ดาวที่อื่นเลย
‘ทางซ้ายเห็นพังงา ทางขวาเห็นกระบี่’ พนักงานผู้กระตือรือร้นตลอดเวลาอธิบายถึงสิ่งที่ผมกำลัง ‘สตั๊นท์’ อยู่ต่อหน้าต่อตา
แสงตะวันที่สาดสะท้อนภาพเข้ามาหานัยต์ตาผม ทำให้ความรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยเมื่อคืนหายออกไปจากใจจนหมดสิ้น Landscape ของรีสอร์ตช่างสวยงาม วางตำแหน่งได้เหมาะสม ความเขียวของต้นไม้และสีฟ้าของท้องทะเลตัดกันได้อย่างลงตัว รวมกับวิวหลักล้าน ทำให้ผมเข้าใจแล้วว่าทำไมที่นี่ถึงตั้งชื่อว่า ‘Supalai Scenic Bay Resort & Spa Phuket’
จากการพูดคุยกับพนักงานของที่นี่ถึงทำให้รู้ว่าช่วงปกติ ‘นักท่องเที่ยว’ ต่างชาติเต็มตลอด ซึ่งผมก็ไม่แปลกใจเลย เพราะวิวแบบนี้ แต่ราคาย่อมเยาว์ เพราะวิวมันเกินราคาไปเยอะมาก อาหารอร่อยเกินคุ้ม นักท่องเที่ยวหลายคนเป็นลูกค้าประจำ กลับมาพักที่นี่ทุกปี
ห้องพักที่นี่มีหลายแบบ ขึ้นกับวิวห้อง แบบห้อง แต่บอกได้เลยว่า ‘ราคาเกินคุ้มทุกแบบ’ (กดดูรูปสวยๆ ได้เลย) ใครจะมาเที่ยวภูเก็ต ผมขอแนะนำที่นี่เป็นทางเลือกที่พักที่ ‘วิวหลักล้าน’ เป็นอีกทางเลือกหนึ่งได้เลย
เอาล่ะ ขอตัวไปปลุกคุณบีให้มาชมวิวสวยๆ พร้อมกินอาหารเช้าอร่อยๆ ก่อนดีกว่า เดี๋ยวจะพลาดช่วงเวลาอันสวยงามไป
Tag :
“ได้วิวแม่น้ำ สวยขนาดนี้เลยรึนี่?!“ เป็นความรู้สึกของผมตอนที่ขึ้นไปชั้น 38 วิวสวยแบบไม่มีอะไรมาบดบังเลย มีมุมที่เห็นสวนเบญจกิติด้วย
สำหรับผมแล้ว BTS สถานี "ห้าแยกลาดพร้าว" เป็น สถานี Interchange กับ MRT ที่ผมชอบที่สุด และมักจะเป็นทำเลที่ผมแนะนำ ให้คนมาอยู่อาศัยมากที่สุดอันดับต้นๆเลย
มีความท้าทายเล็กๆ กับการเปลี่ยนอดีต ’สถานทูตออสเตรเลีย‘ ให้กลายมาเป็น ‘Luxury Condo’ และ ’Mixed-Use’ ระดับ ’iconic’ ริม ’ถนนสาทร‘
'เกือบหลับ แต่กลับมาได้' จะมีโครงการไหนกันเชียวที่จะเหมาะกับคำนี้ ถ้าไม่ใช่ 'Hyde Riverbay Charoennakorn' (ไฮด์ ริเวอร์เบย์ เจริญนคร)
โครงการใหม่ของ Major ที่แน่มาก แกร่งมาก เพราะไม่หวั่นไหวกับการต้องถูกขนาบข้างโดย Sansiri แบบรั้วชนรั้วเลย!
'dcondo calm Ramkhamhaeng 40' (ดีคอนโด คาล์ม รามคําแหง 40) ก็เป็นอีกโครงการที่ผมบอกเลยว่า คุณจะลืมภาพจำของแบรนด์ดีคอนโดแบบเดิมๆ ไปแทบหมดสิ้น เพราะโครงการนี้ เค้าอยู่ใกล้รถไฟฟ้าถึง 2 สาย ทั้งสายสีส้มและสายสีเหลือง!!!
ไหนใครกำลังจะรีไฟแนนซ์กันบ้าง ใครกำลังผ่อนบ้านอยู่เพลิน ๆ นี่ห้ามลืมเด็ดเลยนะ เพราะหนี้บ้านพอพ้น 3 ปีแรก ดอกเบี้ยจะพุ่งขึ้นแบบก้าวกระโดดเลย
ขออวดว่าผมได้รีวิวหนังสือเล่มนี้ก่อนหนหน้านี้แล้วด้วยนะ อิอิ แต่ที่จริงผมไม่ได้ตั้งใจรีวิวหรอก แต่เป็นคนอ่านหนังสือแล้วชอบ ‘Short Note’ ประโยคดีๆ คมๆ เก็บไว้ แต่ปรากฏว่ามันโดนบาดเยอะมาก จนสามารถเอามาลงในเพจได้เลย
ช่วงนี้ผมชอบเข้าไปดูงานออกแบบของ Foster + Partners บ่อยสุดๆ คือรู้สึกได้เลยว่าเราอินกับสไตล์การออกแบบของเค้ามากๆ ซึ่งถ้าใครไม่รู้ว่าเค้าคือใคร Foster + Partners คือบริษัทที่ออกแบบ Apple Store ตรงเซ็นทรัลเวิลด์ นั่นแหละครับ น่าจะพออ๋อกันขึ้นมาบ้างเนอะ
ยุคนี้ใครเค้าเที่ยวต่างประเทศกัน คนรวยเค้าเที่ยวนอกโลกครับ!
Apple Store นี่ไม่ว่าจะไปเปิดสาขาที่ไหน ก็สามารถกลายเป็นแลนด์มาร์คของที่นั้นๆ ได้ตลอด ล่าสุดเค้าเพิ่งเปิดสาขาใหม่ที่ประเทศมาเลเซีย ไปหมาดๆ เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน ที่ผ่านมานี่เอง ซึ่งนี่เป็นสาขาแรกของมาเลเซีย
เดือน 7 กำลังจะผ่านพ้นอีกแล้วนะครับ ตอนนี้อากาศกำลังชุ่มฉ่ำแบบสุด ๆ ไปเลย ซึ่งหลายเดือนที่ผ่านมามีสัญญาณว่าดอกเบี้ยแบบคงที่เริ่มกลับมาแล้วนะ