ไปค้างคืนในร้านหนังสือกับโฮสเทลไอเดียเก๋ "BOOK AND BED TOKYO"

ไปค้างคืนในร้านหนังสือกับโฮสเทลไอเดียเก๋ "BOOK AND BED TOKYO"

Home   /   ติดดอยลั้ลลา

โซน : 31 Jan 2022   17:21

BB_20220119_002

        หนอนหนังสือต้องไม่พลาดมาเช็คอินครับ เห็นแล้วอยากไปญี่ปุ่นขึ้นมาทันทีแต่ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสเมื่อไหร่น้อออ

        เวลาไปเที่ยวต่างประเทศทั้งทีถ้าไม่อยากพักที่โรงแรมแต่อยากจ่ายถูกลงมาอีกนิดแน่นอนว่าหลายๆ คนมักจะเลือกพักกันที่โฮสเทลใช่มั้ยล่ะ

        พูดถึงโฮสเทลแล้วผมคิดว่ามันมีเสน่ห์ในตัวมันเองมากๆ เลยนะ

        เพราะไม่ต้องไปดูที่ไหนไกล กระทั่งโฮสเทลในบ้านเราเองยังมีลูกเล่นใหม่ๆ ให้เพียบ บางที่ก็จัดเป็นธีมต่างๆ เพื่อดึงดูดแขกให้มาพัก เรียกได้ว่าบางครั้งไปนอนโฮสเทลไม่ได้อยากจ่ายถูกอะไรแต่ไปเอาบรรยากาศเสียมากกว่าก็มีเหมือนกัน

        ไม่ต้องพูดถึงที่ต่างประเทศครับเพราะนักท่องเที่ยวที่นั่นนิยมพักกันที่โฮสเทลเสียเยอะ ดังนั้นการใส่รายละเอียดหรือการหาจุดเด่นให้กับโฮสเทลของตัวเองนี่ก็ต้องบอกเลยว่าต่างฝ่ายต่างก็สรรหาจัดมากันเต็มที่

        หนึ่งในโฮสเทลที่ผมเอนเอียงใจให้คะแนนพิศวาสไปเป็นการส่วนตัวก็คือโฮสเทลที่ผมแอบนำมาแนะนำกันในวันนี้นี่แหละ

BB_20220119_003

        "BOOK AND BED TOKYO" เป็นโฮสเทลที่เป็นทั้ง "ร้านหนังสือและที่พัก" สวรรค์ของคนรักการอ่านโดยเฉพาะ เป็นหนึ่งในตัวอย่างของความคิดสร้างสรรค์ที่เลือกเจาะกลุ่มลูกค้าได้ดีมากๆ อีกที่หนึ่ง

        ที่แห่งนี้นอกจากจะได้มานอนพักแล้วเรายังสามารถดื่มด่ำไปกับหนังสือมากกว่า 4,000 เล่มที่เก็บเอาไว้ในห้องหนังสือขนาดใหญ่ มีทั้งภาษาญี่ปุ่นและภาษาอังกฤษ จัดไปเพื่อบริการแก่หนอนหนังสือทั้งหลายที่เข้ามาพักยังร้านหนังสือค้างคืนแห่งนี้โดยเฉพาะ

        แม้จะเรียกตัวเองว่าเป็นร้านหนังสือค้างคืนได้ แต่หนังสือในโฮสเทลไม่ได้ขายนะครับ ทุกเล่มที่มีนั้นมีไว้ให้บรรดาแขกหยิบยืมไปอ่านภายในโฮสเทลเท่านั้น ซึ่งหนังสือต่างๆ ก็ถูกคัดสรรมาเป็นอย่างดีจาก Shibuya Publishing & Bookseller รองรับหลายประเภทหลากสไตล์ ตั้งแต่นวนิยาย มังงะ สมุดภาพ ตำราปรัชญา หนังสือท่องเที่ยว นิตยสาร ฯลฯ

BB_20220119_006

        ในเรื่องของการออกแบบเองก็ได้ 2 สถาปนิกอย่าง Makoto Tanijiri และ Ai Yoshida แห่ง Suppose Design Office มาต่อยอดจินตนาการสานฝันให้คนรักหนังสือ ด้วยการนำเสนอรายละเอียดของแง่มุมเล็กๆ ในการใช้ชีวิตประจำวันของชาวญี่ปุ่น สรรค์สร้างออกมาเป็นงานสถาปัตยกรรมที่ทำให้คนรักหนังสือจมอยู่ที่นี่ไม่อยากแวะไปที่อื่น

        เห็นแล้วมันเหมาะมากๆ ครับที่จะใช้เวลาทั้งวันไปกับการอ่านหนังสือในพื้นที่ที่สุดจะ cozy ให้นอนอ่านอยู่ในนี้ทั้งวันก็ยังไหว

BB_20220119_009

        อ่านแล้วรู้สึกง่วงก็นอนพักได้เพราะที่โฮสเทลแห่งนี้มีห้องพักไว้คอยให้บริการกันมากถึง 55 เตียง ซึ่งพื้นที่ที่ใช้นอนก็อยู่ด้านในชั้นหนังสือนั่นแหละ!

        ทางนี้เค้าใช้ไอเดียในการแบ่งพื้นที่อ่านหนังสือกับพื้นที่สำหรับนอนเอาไว้ด้วยผ้าม่านครับ ซึ่งมีให้เลือกทั้งแบบห้องเดี่ยวและห้องคู่ แค่ปิดม่านก็ได้พื้นที่ส่วนตัวของเรากับหนังสือเล่มโปรดแล้ว

        ส่วนห้องอาบน้ำและห้องสุขานั้นจะตั้งอยู่ในพื้นที่ส่วนกลางที่แยกไว้ให้ตามเพศ มี Wi-Fi ให้บริการฟรี

BB_20220119_004

BB_20220119_005

        อย่าลืมว่าทางนี้มาพร้อมกับวิวแสงสีช่วงตอนกลางคืนอีกต่างหาก เพราะสถานที่ตั้งของโฮสเทลแห่งนี้อยู่ในย่าน Kabukicho ของชินจูกุ ล่าสุดยังเปิดเพิ่มอีกหนึ่งสาขาที่ Higashishinsaibashi ในโอซาก้า และเร็วๆ นี้เตรียมจะเปิดอีกแห่งที่เกียวโตด้วยนะ

        ส่วนใครที่แค่อยากไปอ่านหนังสือและอยากแวะไปถ่ายรูปชมบรรยากาศเฉยๆ ไม่ต้องการค้างคืนก็สามารถแวะไปได้เช่นกันครับ เพราะที่นี่เค้าพร้อมให้บริการทั้งลูกค้าค้างคืนและขาจรช่วงกลางวันเลย

        แค่อยากเข้าไปจิบชาหามุมสงบอ่านหนังสือก็ทำได้ หรือจะแวะไปเพื่อหาที่นั่งทำงานแบบ Telework ก็ยังเหมาะ เป็นทุกอย่างให้เธอแล้ว!

        ในส่วนของอัตราค่าบริการของ "BOOK AND BED TOKYO" นั้นมีหลากหลายระดับไล่ตามรูปแบบการรับบริการครับ

        ค่าใช้บริการโซฟาคิดเป็นจำนวน 700 เยน (ประมาณ 200 บาท) ส่วนค่าใช้บริการเตียงจะเริ่มต้นที่ 960 เยนต่อชั่วโมง (ประมาณ 280 บาท) หากอยากค้างคืนจะมีค่าใช้จ่ายตั้งแต่ราคา 3,000 เยนเป็นต้นไป (ประมาณ 900 บาท)  

BB_20220119_007

BB_20220119_008

        สามารถพูดได้ว่า "BOOK AND BED TOKYO" นั้นไม่ใช่โฮสเทลราคาถูกที่สุดแต่ในเรื่องของความสะดวกสบายนั้นก็อยู่ในอันดับต้นๆ เลยนะ เพราะเดินทางง่าย อยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟฟ้า จะเข้ามาพักผ่อนค้างคืน หาหนังสืออ่านไม่กี่ชั่วโมง หรือนั่งทำงานสักครึ่งวันก็ได้ทั้งนั้น

        ด้วยคอนเซ็ปต์แปลกใหม่ บรรยากาศอบอุ่นผ่อนคลายท่ามกลางหนังสือมากมายแบบนี้ ทำให้ "BOOK AND BED TOKYO" เป็นโฮสเทลที่มาแรงมากตั้งแต่เริ่มเปิดตัวใหม่ๆ เมื่อหลายปีก่อน แถมยอดจองยังเต็มไวอีกต่างหาก

        ตอนนี้เพราะสถานการณ์โควิด-19 ลูกค้าหลักอย่างชาวต่างชาติจึงลดลงไปบ้าง แต่ถึงอย่างนั้นจำนวนคนญี่ปุ่นที่เข้าไปใช้บริการระหว่างวันกลับยังมีอยู่มากครับ ก็คล้ายๆ กันกับบ้านเรานั่นแหละที่ไม่จำเป็นต้องทำงานในออฟฟิศแล้ว แต่ไปหาที่นั่งเหมาะๆ นั่งทำงานนอกบ้านเอาอะไรแบบนี้

        ถ้าได้ไปญี่ปุ่นเมื่อไหร่เห็นทีต้องแวะไปสักครั้งแล้วล่ะ เพราะนอกจากจะบรรยากาศดีมีหนังสือมากมายแล้วยังถูกใจคนหนุ่มสาวทั้งหลายที่กำลังมองหาสถานที่เก๋ๆ เอาไว้ผ่อนคลายและถ่ายภาพสวยๆ ของตัวเองอีกด้วยยนะ

BB_20220119_010

BB_20220119_011

 

Tag : japan |



ติดดอยแนะนำ

ติดดอยรีวิว

"LIFE พระราม 4 - อโศก" ส่วนกลางอลังการ+วิวโคตรโหด! ได้ทั้งวิวสวนเบญจกิติ และโค้งแม่น้ำบางกะเจ้า แบบเต็มตา แถมยังใกล้ MRT ศูนย์สิริกิติ์ 500 ม.

“ได้วิวแม่น้ำ สวยขนาดนี้เลยรึนี่?!“ เป็นความรู้สึกของผมตอนที่ขึ้นไปชั้น 38 วิวสวยแบบไม่มีอะไรมาบดบังเลย มีมุมที่เห็นสวนเบญจกิติด้วย

"Life พหลฯ-ลาดพร้าว" คอนโดพร้อมอยู่ วิวสวน 700 ไร่ ติดห้าง 2 Central!!

สำหรับผมแล้ว BTS สถานี "ห้าแยกลาดพร้าว" เป็น สถานี Interchange กับ MRT ที่ผมชอบที่สุด และมักจะเป็นทำเลที่ผมแนะนำ ให้คนมาอยู่อาศัยมากที่สุดอันดับต้นๆเลย

"SUPALAI ICON สาทร" ความท้าทายเล็กๆ กับการเปลี่ยนสถานทูตให้เป็น Luxury Condo

มีความท้าทายเล็กๆ กับการเปลี่ยนอดีต ’สถานทูตออสเตรเลีย‘ ให้กลายมาเป็น ‘Luxury Condo’ และ ’Mixed-Use’ ระดับ ’iconic’ ริม ’ถนนสาทร‘


ติดดอยโร้ดทู

Hyde Riverbay Charoennakorn (ไฮด์ ริเวอร์เบย์ เจริญนคร) อีกหนึ่งคอนโดสูงเพรียว ที่จะมายืนตระหง่านประดับเจริญนคร

'เกือบหลับ แต่กลับมาได้' จะมีโครงการไหนกันเชียวที่จะเหมาะกับคำนี้ ถ้าไม่ใช่ 'Hyde Riverbay Charoennakorn' (ไฮด์ ริเวอร์เบย์ เจริญนคร)

"MAVISTA Phromphong" โครงการใหม่ของ Major ที่แน่มาก แกร่งมาก เพราะไม่หวั่นไหวกับการต้องถูกขนาบข้างโดยรุ่นใหญ่!

โครงการใหม่ของ Major ที่แน่มาก แกร่งมาก เพราะไม่หวั่นไหวกับการต้องถูกขนาบข้างโดย Sansiri แบบรั้วชนรั้วเลย!

dcondo calm Ramkhamhaeng 40 (ดีคอนโด คาล์ม รามคําแหง 40) อีกหนึ่งคอนโดทำเลปังจาก "พี่สิบหมื่น" ใกล้รถไฟฟ้าถึง 2 สาย

'dcondo calm Ramkhamhaeng 40' (ดีคอนโด คาล์ม รามคําแหง 40) ก็เป็นอีกโครงการที่ผมบอกเลยว่า คุณจะลืมภาพจำของแบรนด์ดีคอนโดแบบเดิมๆ ไปแทบหมดสิ้น เพราะโครงการนี้ เค้าอยู่ใกล้รถไฟฟ้าถึง 2 สาย ทั้งสายสีส้มและสายสีเหลือง!!!


ติดดอยสไตล์

#ติดดอยรวมมาให้ "ดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้าน" กรกฎาคม 2567

ไหนใครกำลังจะรีไฟแนนซ์กันบ้าง ใครกำลังผ่อนบ้านอยู่เพลิน ๆ นี่ห้ามลืมเด็ดเลยนะ เพราะหนี้บ้านพอพ้น 3 ปีแรก ดอกเบี้ยจะพุ่งขึ้นแบบก้าวกระโดดเลย

"ชีวิตดีๆ ที่เลือกเองได้" การอ่านหนังสือดีๆ เหมือนได้ติดปีกบิน

ขออวดว่าผมได้รีวิวหนังสือเล่มนี้ก่อนหนหน้านี้แล้วด้วยนะ อิอิ แต่ที่จริงผมไม่ได้ตั้งใจรีวิวหรอก แต่เป็นคนอ่านหนังสือแล้วชอบ ‘Short Note’ ประโยคดีๆ คมๆ เก็บไว้ แต่ปรากฏว่ามันโดนบาดเยอะมาก จนสามารถเอามาลงในเพจได้เลย

ชวนดูสถานีรถไฟความเร็วสูงจากแคลิฟอร์เนีย ผ่านแนวคิดคมนาคมและธุรกิจชุมชนท้องถิ่น ต้องเป็นหนึ่งเดียว

ช่วงนี้ผมชอบเข้าไปดูงานออกแบบของ Foster + Partners บ่อยสุดๆ คือรู้สึกได้เลยว่าเราอินกับสไตล์การออกแบบของเค้ามากๆ ซึ่งถ้าใครไม่รู้ว่าเค้าคือใคร Foster + Partners คือบริษัทที่ออกแบบ Apple Store ตรงเซ็นทรัลเวิลด์ นั่นแหละครับ น่าจะพออ๋อกันขึ้นมาบ้างเนอะ

เปิดแล้ว!! "Apple Store สาขาแรกในมาเลเซีย" ชวนดูงานออกแบบสุดล้ำจาก Foster + Partners ที่โดดเด่นไม่แพ้สาขาไทย!!

Apple Store นี่ไม่ว่าจะไปเปิดสาขาที่ไหน ก็สามารถกลายเป็นแลนด์มาร์คของที่นั้นๆ ได้ตลอด ล่าสุดเค้าเพิ่งเปิดสาขาใหม่ที่ประเทศมาเลเซีย ไปหมาดๆ เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน ที่ผ่านมานี่เอง ซึ่งนี่เป็นสาขาแรกของมาเลเซีย

#ติดดอยรวมมาให้ ดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านกรกฎาคม 2567 มาแล้วค้า

เดือน 7 กำลังจะผ่านพ้นอีกแล้วนะครับ ตอนนี้อากาศกำลังชุ่มฉ่ำแบบสุด ๆ ไปเลย ซึ่งหลายเดือนที่ผ่านมามีสัญญาณว่าดอกเบี้ยแบบคงที่เริ่มกลับมาแล้วนะ


© 2018 CONDOTIDDOI

ME ESTATE CO.,LTD
92/21 HOLLYWOOD STREET CENTER
PHAYATHAI RD. RACHATEVEE
BANGKOK 10400 THAILAND

02-656-6776
condotiddoi@gmail.com

CONTACT US

CONDOTIDDOI

CONDOTIDDOI

CONDOTIDDOI

085-546-4694

info.condotiddoi@gmail.com

Copyright www.condotiddoi.com © 2018
web design & programming by www.smilephp.com