เรียกว่าหมดยุคการขอสเตทเมนต์แบบกระดาษกันแล้วเมื่อตอนนี้เราสามารถขอรายการเดินบัญชีได้ง่ายๆ ผ่านมือถือของเราเอง!

        เรื่องนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ทางธนาคารแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย และสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ ได้ร่วมกันเปิดรูปแบบการขอสเตทเม้นต์เพื่อใช้สมัครสินเชื่อได้ง่ายขึ้นครับ เรียกกันง่ายๆ ว่า "dStatement" นี่แหละ

        การเข้ามาของ "dStatement" หรือสเตทเมนต์ในรูปแบบของดิจิทัลมันเลยทำให้การกู้เงินด่วน ขอสินเชื่อเงินด่วน ยืมเงินออนไลน์ หรือทำธุรกรรมออนไลน์ ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปแล้ว

        มานั่งรอกระดาษปึกหนึ่งลำบากจะตาย ในยุคนี้สมัยนี้สมควรทำอะไรได้ง่ายๆ ผ่านมือถือ เพราะงั้นการเข้ามาของ "dStatement" มันเลยตอบโจทย์การทำธุรกรรมทางการเงินของยุคนี้มากยังไงล่ะ

        ว่าแต่ dStatement คืออะไร มีวิธีการใช้อย่างไร และที่สำคัญคือมีธนาคารไหนให้บริการกันบ้าง เดี๋ยวเรามาดูกันเลยดีกว่าครับ!

        dStatement คืออะไร

        สำหรับบริการ dStatement หรือ Digital Bank Statement นั้นถ้าให้อธิบายง่ายๆ ก็คือบริการรับส่งข้อมูลรายการเคลื่อนไหวบัญชีเงินฝากในรูปแบบดิจิทัลโดยตรงระหว่างสถาบันการเงินนั่นเองครับ

        ใครอยากจะขอรายการเดินบัญชีหรือก็คือสเตทเมนต์ก็ทำได้ง่าย สามารถขอได้จากธนาคาร A ไปยังธนาคาร B ที่ต้องการขอสินเชื่อได้แบบสะดวกสบายผ่านช่องทาง Mobile Banking หรือช่องทางอื่นๆ ตามที่สถาบันการเงินแต่ละแห่งกำหนด

        หรือก็คือเดิมทีเราต้องเดินทางไปยังสาขาของธนาคารเพื่อขอข้อมูลในส่วนนี้ แต่ว่าตอนนี้ไม่ต้องทำแบบนั้นแล้วเพราะสเตทเมนต์กระดาษไม่นับว่าจำเป็นอีกต่อไป แต่สามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยปลายนิ้ว

        ขั้นตอนการใช้บริการ dStatement

        คนที่สามารถใช้บริการ dStatement ได้นั้นต้องเป็นผู้ที่มีบัญชีเงินฝากประเภทบัญชีออมทรัพย์หรือบัญชีกระแสรายวันอยู่กับสาขาส่งครับ ส่วนบัญชีประเภทอื่นๆ นั้นจะขึ้นอยู่กับความพร้อมของธนาคารที่ใช้บริการอยู่ และที่สำคัญคือต้องมี Mobile Banking Application ของธนาคารสาขาส่งที่มีบัญชีเงินฝากอยู่ด้วยนะ

        ส่วนขั้นตอนการขอก็ตามนี้เลย

• สมัครขอสินเชื่อผ่าน Mobile Banking ของธนาคาร B
• เลือกธนาคาร A ที่เรามีบัญชีเงินฝากอยู่ เป็นผู้ส่ง dStatement สามารถเลือกได้สูงสุด 3 ธนาคาร
• รอรับการแจ้งเตือนผ่านทาง Mobile Banking ของธนาคาร A
• เลือกบัญชีเงินฝากของธนาคาร A ที่ต้องการให้ส่งข้อมูล สามารถเลือกได้สูงสุด 5 บัญชี
• ตรวจสอบความถูกต้องแล้วกดยืนยัน จากนั้นก็ชำระค่าธรรมเนียมตามที่ธนาคารกำหนด

        แค่นี้เองครับ ง่ายมากๆ จริงมั้ย จิ้มนิ้วไม่กี่หนก็เสร็จเรียบร้อย พอจบกระบวนการนี้ทางธนาคาร A เค้าก็จะส่ง dStatement ให้กับธนาคาร B ซึ่งแน่นอนว่าเราสามารถตรวจสอบสถานะการขอสินเชื่อผ่านทาง Mobile Banking ของธนาคาร B ได้ด้วย

        ใครอยากดูแบบละเอียดให้เห็นภาพ ก็สามารถคลิกดูขั้นตอนการใช้บริการ dStatement จากวิดีโอสาธิตของธปท. ได้ด้านล่างเลยนะ

        ลืมบอกไปว่าค่าบริการ dStatement ของธนาคารผู้ส่ง dStatement แต่ละแห่งสามารถกำหนดอัตราค่าทำเนียมได้เองนะครับ มีเพดานค่าทำเนียมสูงสุดอยู่ที่ 75 บาท/ครั้ง/1 บัญชี ส่วนธนาคารผู้รับ dStatement นั้นจะไม่มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียม dStatement กับลูกค้าจ้า

        ธนาคารที่ให้บริการ dStatement

        มาถึงหัวข้อที่เราน่าจะอยากรู้กันว่าตอนนี้มีธนาคารไหนที่ให้บริการ dStatement กันบ้าง ซึ่งในระยะแรกของการให้บริการ dStatement นั้น จะเริ่มใช้สำหรับการสมัครขอสินเชื่อผ่านช่องทางดิจิทัล ตั้งแต่วันที่ 24 มกราคม 2565 เป็นต้นไปเลยครับ

        นำร่องที่ 6 ธนาคาร และจะทยอยเปิดให้บริการเพิ่มเติมอีก 5 ธนาคาร ภายในช่วงครึ่งแรกของปี 2565

        รายชื่อธนาคารที่เริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 24 มกราคม 2565 เป็นต้นไป ก็มีตามนี้

• ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)
• ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
• ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)
• ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)
• ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน)
• ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)

        ส่วนธนาคารที่จะเริ่มทยอยให้บริการเพิ่มเติมในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 ก็ตามนี้เลยครับ

• ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน)
• ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน)
• ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
• ธนาคารออมสิน
• ธนาคารอาคารสงเคราะห์

        แค่เฉพาะในช่วงแรกเองก็คือว่าให้บริการกับครอบคลุมทุกธนาคารแล้วนะ แต่ต้องบอกตรงนี้ว่าบริการ dStatement นั้น แม้ว่าจะให้บริการผ่านระบบดิจิทัล 100% แต่ทางนี้เค้าก็มีเวลาทำการนะเออ โดยแต่ละธนาคารที่ให้บริการ dStatement ก็จะมีเวลาทำการที่แตกต่างกันไป เช็กข้อมูลก่อนได้นะคร้าบบบ

        เราน่าจะเห็นเค้าลางของการที่บ้านเราค่อยๆ ปรับตัวเข้าสู่สังคม Non-Bank กันแล้วแหละเนอะ ยิ่งไปกว่านั้นคือเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการเข้าถึงบริการ รวมถึงการลดต้นทุนทั้งลูกค้า ธนาคาร และยกระดับประเทศไปสู่ Digital Economy ได้เหมือนกัน

        ทั้งสะดวก ทั้งรวดเร็ว แถมยังตรงความต้องการของเรามากขึ้นแบบนี้ ผมคิดว่าหลังจากนี้น่าจะมีบริการทางการเงินดิจิทัลในส่วนอื่นๆ เพิ่มเติมเสริมทัพกันมากกว่าเดิมแน่นอนครับ