วันนี้ขอพาชาวติดดอยหัวใจจิบลิไปขึ้น Cat Bus ตะลุยนิทรรศการที่กำลังมาแรงในช่วงนี้อย่าง "My Style, My Ghibli" กันครับ
ต้องบอกก่อนว่านี่ถือเป็นครั้งแรกของประเทศไทยกับนิทรรศการสุดยิ่งใหญ่โดย "Studio Ghibli" เจ้าของผลงานแอนิเมชันเรื่องดังในดวงใจของใครหลายๆ คน โดย "My Style, My Ghibli" เป็นนิทรรศการที่จัดร่วมกับแบรนด์เสื้อผ้าสายมินิมอลอย่าง "Uniqlo Thailand" นี่เอง
แน่นอนว่านอกจากจะมีบรรยากาศให้เราได้หวนนึกถึงฉาก บรรยากาศ และคาแรกเตอร์ต่างๆ ในแอนิเมชันเพื่อเฉลิมฉลองการเติบโตครบรอบ 10 ปีแล้ว ครั้งนี้เค้ายังมาพร้อมเสื้อยืดคอลเลคชัน UT ให้เหล่าสาวกได้ซื้อกลับไปใส่กันด้วยนะ
ว่าแต่ในงานนี้มีอะไร ทำไมเราถึงต้องห้ามพลาดที่จะแวะไปชมนิทรรศการ "My style, My Ghibli" เอาเป็นว่าผมขอคัดไฮไลท์เด็ดๆ ให้เราไปตามเก็บก่อนเข้างานแล้วกัน มาดู!!
1. แวะทักทายเพื่อนรักจาก My Neighbor Totoro
ใครแวะไปแล้วไม่ได้ถ่ายรูปกับรถบัสแมวเหมียวถือว่าไปไม่ถึงครับ จุดนี้นอกจากหุ่น Totoro แล้วก็ต้อง Cat Bus ขนาดเท่าตัวจริงนี่แหละที่ฮอทพอๆ กัน เหมือนเวลาที่เรานึกถึง Ghibli Museum ที่ญี่ปุ่นแล้วจะมีภาพของเจ้าสองตัวนี้ลอยเข้ามาก่อนนั่นแหละ
อันนี้เจ๋งตรงที่เราสามารถไปยืนร่วมเฟรมกับพวกเค้าได้ใกล้กว่าที่ญี่ปุ่นด้วยซ้ำ แถมการออกแบบพื้นที่ในนิทรรศการก็น่าสนใจ เพราะเค้าเน้นการออกแบบให้ "ไม่เท่ากัน" เราต้องก้มๆ เงยๆ แอบ explore พื้นที่ไปเรื่อยๆ เข้ากับคอนเซ็ปต์ "หลงไปในโลกจิบลิด้วยกัน" ของเค้ามากๆ ครับ
2. ภาพเขียนพู่กันโดย Toshio Suzuki
มุมที่ขลังมากน่าจะหนีไม่พ้นมุมนี้นะ 5555 เพราะเป็นห้องภาพที่ใช้แขวนภาพเขียนพู่กันจากคุณ Toshio Suzuki คนคนนี้เค้าเป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งสตูดิโอจิบลิ ตั้งแต่ปี 1985 และเป็นผู้ผลิตภาพยนตร์เกือบทั้งหมดตั้งแต่ช่วงปี 1989 เป็นต้นมา ตอนนี้นั่งแท่นเป็น CEO และโปรดิวเซอร์ของสตูดิโอจิบลิอยู่
ในห้องจัดแสดงนี้จะแขวนภาพจากฉากสำคัญๆ ในแอนิเมชันของสตูดิโอจิบลิเอาไว้หลายเรื่อง ทั้ง Spirited Away, Howls moving castle, Porco Rosso, และ Castle in the Sky ถ่ายทอดตัวหนังสือผ่านปลายพู่กันของ Suzuki ด้วยการประกอบวลีกับฉากน่าประทับใจ พร้อมแล้วที่จะดึงดูดทุกคนเข้าไปสู่โลกมหัศจรรย์ของจิบลิจ้า
3. นิทรรศการภาพถ่ายโดยคุณกานต์ญาดา
นิทรรศการในครั้งนี้นำเสนอภาพพิพิธภัณฑ์จิบลิและปักธงชัยของช่างภาพชาวไทยอย่างคุณกานต์ญาดา ที่ได้มีโอกาสสร้างสรรค์ผลงานถ่ายภาพในสตูดิโอจิบลิและยังเป็นเพื่อนของคุณ Suzuki ด้วย
สำหรับภาพถ่ายของคุณกานต์ญาดาเค้าจะนำเสนอออกมาในมุมมองที่ไม่เหมือนใครครับ แตกต่างจากช่างภาพอื่นกว่า 200 คนที่เคยถ่ายภาพภายในพิพิธภัณฑ์จิบลิด้วยนะ ในนิทรรศการก็มีคอลเลคชันภาพถ่ายรวมไปถึงบทกวีจากผลงานของเธอที่ตีพิมพ์ลงในเนปปุ "Neppu" นิตยสารรายเดือนของจิบลิมาให้เราได้ชมกันอีกต่างหาก
4. กิจกรรมตามล่าแสตมป์โทโทโร่และ Latte Art
เป็นกิจกรรมพิเศษสำหรับสมาชิก UNIQLO APPLICATION ครับ ให้เราได้รับของที่ระลึกจากงานนิทรรศการ เพียงแค่ลงทะเบียนแอปและสะสมแสตมป์โทโทโร่ครบทั้ง 5 จุดภายในเซ็นทรัลเวิลด์ ก็รับของที่ระลึกดีไซน์พิเศษจากจิบลิสตูดิโอไปได้เลยจ้า เข็มกลัดเค้าน่ารักนุ่มฟูมาก แต่เหมือนเห็นแวบๆ ว่าหมดไวจริงๆ ต้องรีบหน่อยละถ้าอยากสะสม
ถึงอย่างนั้นก็ยังมีกิจกรรมพิเศษอีกอย่างที่สาวกอย่าพลาดครับ นั่นคือ Latte Art พิเศษเฉพาะที่เซ็นทรัลเวิลด์เท่านั้น! เมื่อช้อป UT ghibli, UTme ghibli หรือกระเป๋าผ้า ghibli UTme ที่ร้านยูนิโคล่สาขาเซ็นทรัลเวิลด์และนิทรรศการจิบลิ ขั้นต่ำ 1,000 บาทต่อใบเสร็จ สามารถแลกรับลาเต้อาร์ตได้ 1 แก้วครับผมม
5. คอลเลคชันเสื้อ UT ghibli และ UTme ghibli ลายพิเศษ
มาแล้วก็อย่าลืมแวะช้อปเสื้อยืดเค้าล่ะ ใครเป็นแฟนตัวยงของ Studio Ghibli นั้น ห้ามพลาดเด็ดขาด! เพราะคอลเลคชั่นนี้มีภาพและกราฟิกจากแอนิเมชันเรื่องดังหลายเรื่องที่เรารัก ออกแบบมาหลากหลายสไตล์ มีทั้งของเด็กและผู้ใหญ่ ที่สำคัญคือเป็นเซ็ตเสื้อยืดพร้อมกระเป๋าผ้าด้วย น่าร้ากกก
นอกจากนี้ก็มีเสื้อลายพิเศษเฉพาะเราเท่านั้น เลือกทำได้ 3 แบบคือออกแบบเสื้อจาก Line Sticker คาแรกเตอร์จาก My Neighbor Totoro, ออกแบบเสื้อจากภาพถ่ายโดยคุณกานต์ญาดา และออกแบบเสื้อจากภาพถ่ายจากนิทรรศการที่ผู้เข้าชมงานถ่ายเอง เก๋มั้ยล่ะ!
นิทรรศการนี้คนสนใจไปกันเยอะครับ ตอนนี้ต้องเปิดแบบจองคิวเข้าแล้วเพราะคนไปกันเยอะมาก ส่วนใครที่สนใจอยากแวะไปชมไปช้อปไปแชะ เวลาและสถานที่ในการจัดนิทรรศการก็ตามด้านล่างเลยนะคร้าบบบ
เปิดให้เข้าชม: ระหว่างวันศุกร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2565 - วันอาทิตย์ที่ 27 มีนาคม 2565
สถานที่: เซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 1 โซน I
เวลา: 10.00 - 22.00 น. (เข้าชมรอบสุดท้ายเวลา 21.30 น.)
ค่าเข้าชม: ฟรี
Tag :
“ได้วิวแม่น้ำ สวยขนาดนี้เลยรึนี่?!“ เป็นความรู้สึกของผมตอนที่ขึ้นไปชั้น 38 วิวสวยแบบไม่มีอะไรมาบดบังเลย มีมุมที่เห็นสวนเบญจกิติด้วย
สำหรับผมแล้ว BTS สถานี "ห้าแยกลาดพร้าว" เป็น สถานี Interchange กับ MRT ที่ผมชอบที่สุด และมักจะเป็นทำเลที่ผมแนะนำ ให้คนมาอยู่อาศัยมากที่สุดอันดับต้นๆเลย
มีความท้าทายเล็กๆ กับการเปลี่ยนอดีต ’สถานทูตออสเตรเลีย‘ ให้กลายมาเป็น ‘Luxury Condo’ และ ’Mixed-Use’ ระดับ ’iconic’ ริม ’ถนนสาทร‘
'เกือบหลับ แต่กลับมาได้' จะมีโครงการไหนกันเชียวที่จะเหมาะกับคำนี้ ถ้าไม่ใช่ 'Hyde Riverbay Charoennakorn' (ไฮด์ ริเวอร์เบย์ เจริญนคร)
โครงการใหม่ของ Major ที่แน่มาก แกร่งมาก เพราะไม่หวั่นไหวกับการต้องถูกขนาบข้างโดย Sansiri แบบรั้วชนรั้วเลย!
'dcondo calm Ramkhamhaeng 40' (ดีคอนโด คาล์ม รามคําแหง 40) ก็เป็นอีกโครงการที่ผมบอกเลยว่า คุณจะลืมภาพจำของแบรนด์ดีคอนโดแบบเดิมๆ ไปแทบหมดสิ้น เพราะโครงการนี้ เค้าอยู่ใกล้รถไฟฟ้าถึง 2 สาย ทั้งสายสีส้มและสายสีเหลือง!!!
ไหนใครกำลังจะรีไฟแนนซ์กันบ้าง ใครกำลังผ่อนบ้านอยู่เพลิน ๆ นี่ห้ามลืมเด็ดเลยนะ เพราะหนี้บ้านพอพ้น 3 ปีแรก ดอกเบี้ยจะพุ่งขึ้นแบบก้าวกระโดดเลย
ขออวดว่าผมได้รีวิวหนังสือเล่มนี้ก่อนหนหน้านี้แล้วด้วยนะ อิอิ แต่ที่จริงผมไม่ได้ตั้งใจรีวิวหรอก แต่เป็นคนอ่านหนังสือแล้วชอบ ‘Short Note’ ประโยคดีๆ คมๆ เก็บไว้ แต่ปรากฏว่ามันโดนบาดเยอะมาก จนสามารถเอามาลงในเพจได้เลย
ช่วงนี้ผมชอบเข้าไปดูงานออกแบบของ Foster + Partners บ่อยสุดๆ คือรู้สึกได้เลยว่าเราอินกับสไตล์การออกแบบของเค้ามากๆ ซึ่งถ้าใครไม่รู้ว่าเค้าคือใคร Foster + Partners คือบริษัทที่ออกแบบ Apple Store ตรงเซ็นทรัลเวิลด์ นั่นแหละครับ น่าจะพออ๋อกันขึ้นมาบ้างเนอะ
ยุคนี้ใครเค้าเที่ยวต่างประเทศกัน คนรวยเค้าเที่ยวนอกโลกครับ!
Apple Store นี่ไม่ว่าจะไปเปิดสาขาที่ไหน ก็สามารถกลายเป็นแลนด์มาร์คของที่นั้นๆ ได้ตลอด ล่าสุดเค้าเพิ่งเปิดสาขาใหม่ที่ประเทศมาเลเซีย ไปหมาดๆ เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน ที่ผ่านมานี่เอง ซึ่งนี่เป็นสาขาแรกของมาเลเซีย
เดือน 7 กำลังจะผ่านพ้นอีกแล้วนะครับ ตอนนี้อากาศกำลังชุ่มฉ่ำแบบสุด ๆ ไปเลย ซึ่งหลายเดือนที่ผ่านมามีสัญญาณว่าดอกเบี้ยแบบคงที่เริ่มกลับมาแล้วนะ