ผมเชื่อเลยว่าเหล่าคนกรุงคงผ่านหูผ่านตา "สะพานเขียว" กันมาบ้างไม่มากก็น้อย โดยเฉพาะบรรดานักปั่น หรือสายถ่ายรูปนี่คงไม่พลาดกันแน่ ๆ
เพราะสพานแห่งนี้เป็นทางจักรยานลอยฟ้าแห่งแรกในกรุงเทพ ที่เป็นสะพานเชื่อมระหว่างสวนลุมพินีและสวนเบญจกิติที่มีมากว่า 20 ปีเลยนะ
แต่ด้วยอายุอานามและสภาพการใช้งานที่ผ่านมายาวนาน ทำให้สะพานเขียวก็เริ่มมีการเสื่อมโทรมลงไปตามกาลเวลา งานนี้ถึงเวลาที่ต้องการมาพลิกโฉมครั้งใหญ่แล้ว!!!!
ล่าสุดผมแอบไปเห็น ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่าได้ปักหมุดพื้นที่บริเวณนี้เพื่อพัฒนาเมืองในมิติใหม่ทั้งระบบ
ซึ่งสะพานเขียวจะเป็นหนึ่งในหลาย ๆ แห่งที่จะถูกเปลี่ยนโฉมใหม่ และกำลังเริ่มปรับตั้งแต่เดือนมีนาคมและคาดว่าจะแล้วเสร็จเปิดใช้งานในเดือนกันยายน 2565 นี้
วันนี้ผมเลยจะขอนำภาพมายั่วใจ ดูว่าเค้าจะปรับโฉมใหม่ยังไงบ้าง เผื่อเพื่อน ๆ จะเก็บไปคิด ไปจินตนาการมุมถ่ายรูปไว้รอระหว่างที่เค้าเวลาก่อสร้างกันเนอะ
โครงการปรับปรุงสะพานเขียว
สะพานเขียวเป็นสะพานคอนกรีตที่สร้างและเริ่มใช้มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2542 โดยตอนนี้จะทำการปรับปรุงใหม่ ฟื้นฟูสะพานคอนกรีตเก่าและพื้นที่เกี่ยวเนื่องริมคลองไผ่สิงโต
มีจุดเริ่มต้นจากถนนรัชดาภิเษก ลัดเลาะตามแนวรอยต่อระหว่างสวนเบญจกิติกับคลองไผ่สิงโต มาบรรจบกับสวนลุมพินีบริเวณแยกสารสินของถนนวิทยุ ความยาวรวมประมาณ 1.6 กิโลเมตร
โดยได้รับความร่วมมือจาก UddC-CEUS ร่วมกับ LRIC สตูดิโอใต้หล้า ATOM DESIGN, LANDSCAPE COLLABORATION, QBIC และ THAITHARM ที่อาสาช่วย กทม.ออกแบบปรับปรุง
โดยเป้าหมายเป็นการปรับปรุงสภาพแวดล้อมให้น่าใช้งานและเชื่อมโยงกับชุมชนโดยรอบมากขึ้น ด้วยภูมิสถาปัตยกรรมและแสงสว่าง ด้วยกระบวนการมีส่วนร่วมนั่นเองครับ
แลนด์มาร์กที่จะเชื่อมเมืองและเชื่อมโยงผู้คน
ความน่าสนใจในการปรับปรุงครั้งนี้ก็คือ เค้าไม่ได้ปรับปรุงเพื่อฟื้นฟูของเก่าให้ใช้งานได้เท่านั้น แต่ตั้งใจจะสร้าง แลนด์มาร์กที่จะเชื่อมเมืองและเชื่อมโยงผู้คนเข้าด้วยกัน!
นั่นก็คือ การเชื่อมโยงของถนนสายธุรกิจหลักของเมือง ได้แก่ ถนนรัชดาภิเษก และถนนวิทยุ ให้ผู้คนสามารถสัญจรติดต่ออย่างมีพลวัติ เชื่อมโยงเชิงนิเวศ
เล่าให้เห็นภาพหน่อยก็คือ เค้าจะเชื่อมระหว่างสวนสาธารณะขนาดใหญ่ทั้งสองแห่งให้เป็น Central Park เชื่อมโยงการสัญจรแบบเท่าเทียมด้วยการเดินเท้าและจักรยาน
ผลก็คือจะช่วยให้ผู้คนทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงได้แบบไร้รอยต่อจากโครงสร้างพื้นฐานของเมือง ใครผ่านไปผ่านมาก็ใช้ได้ ใช้ง่ายแบบไม่มีอะไรมากั้น 5555
นอกจากนี้ยังคิดออกแบบไกลไปให้ตัวสวน และสะพานนี้มีการเชื่อมต่อกับโครงการที่มีอยู่โดยรอบด้วย แถมยึดหลัก Universal Design เป็นมิตรกับผู้ใช้งานทุกคนด้วย
และสุดท้ายคือการเชื่อมโยงกับชุมชนพหุวัฒนธรรม ที่มีศูนย์กลางเป็นศาสนสถานและโรงเรียน ให้เกิดยกระดับคุณภาพชีวิต เศรษฐกิจและสังคมมากขึ้นไปอีก ปัง ปัง ปัง!!!
โฉมใหม่มาพร้อมสวนลอยน้ำ
มาดูเรื่องโฉมใหม่ที่เราจะได้ใช้งานกันบ้างดีกว่า เพราะความว๊าวซ่ามันอยู่ที่โฉมใหม่นี้ไม่ได้เป็นแค่สะพานที่มีสีเขียวตามชื่อเท่านั้น แต่จะมีสวนลอยน้ำด้วย!!!
ซึ่งเค้ายังบอกมาอีกด้วยว่าภายในสวนลอยน้ำนี้จะเลือกใช้พื้นที่มีความสามารถในการบำบัดน้ำเสีย พร้อมจัดวางทางจักรยานและลานกิจกรรมเหนือน้ำ
ตลอดจนทางเดินลอยน้ำที่ยืดหยุ่นไปตามระดับน้ำขึ้นลง จะว่าไปฟังดูแล้วก็เหมือนเป็นแหล่งเรียนรู้ใหม่ของเมืองก็ว่าได้นะ
มีสวนสะพานหรือสวนลอยฟ้าที่ผู้คนสามารถเดินเล่น พักผ่อน วิ่งออกกำลังกาย ขี่จักรยานจากสวนเบญจกิติไปยังสวนลุมพินีได้โดยยังรู้สึกเหมือนยังอยู่ในสวนเลย
ส่วนปัญหาที่เคยมีอย่างพวกจุดอับหรือจุดเสื่อมโทรมต่าง ๆ เค้าก็ไม่นิ่งนอนจะ จะทำการปรับปรุงใหม่ให้โปร่งโล่ง มีสุขภาวะ และปลอยภัยต่อการใช้งานมากขึ้นด้วย
ซึ่งจะเป็นพื้นที่ที่ชาวชุมชนสามารถใช้นั่งพักผ่อนและค้าขายได้ เป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตและส่งเสริมเศรษฐกิจสังคมของชุมชนไปในตัว
อดใจรอกันยาปีนี้ได้ใช้แน่นอน
นอกจากไฮไลท์ที่ผมเล่ามาทั้งหมดแล้วนั้น ความพิเศษที่จะข้ามไปไม่ได้ก็คือการปรับปรุงครั้งนี้จะช่วยเชื่อมถนนรัชดากับถนนวิทยุมากขึ้นด้วยนะ
โดยปรับปรุงพื้นที่สะพานลอยข้ามถนนรัชดา ทางพิเศษเฉลิมมหานคร และวิทยุ สู่ทางเข้าโครงการที่เป็นจุดหมายตาให้ผู้คนจดจำนั่นเอง
รวมไปถึง “ลานคนเมืองลอยฟ้า” ขนาดย่อม ที่ใช้ในการจัดกิจกรรมเทศกาลต่าง ๆ ออกแบบให้คลุมด้วยโครงสร้างกันแดดกันฝนที่โปร่งเบา มีรูปทรงเป็นที่จดจำของเมือง
และนี่ก็เป็นข้อมูลคร่าว ๆ ที่ทาง กทม. เค้าเผยมาเนอะ ใครที่อยากใช้งานก็อดใจรอกันหน่อยครับ คาดว่ากันยาปีนี้น่าจะได้ใช้บริการกันอย่างแน่นอน คิดมุมถ่ายรูปรอกันเล๊ยยยยยย!!!
Tag : สะพานเขียว | สวนลุมพินี | สวนเบญจกิติ
“ได้วิวแม่น้ำ สวยขนาดนี้เลยรึนี่?!“ เป็นความรู้สึกของผมตอนที่ขึ้นไปชั้น 38 วิวสวยแบบไม่มีอะไรมาบดบังเลย มีมุมที่เห็นสวนเบญจกิติด้วย
สำหรับผมแล้ว BTS สถานี "ห้าแยกลาดพร้าว" เป็น สถานี Interchange กับ MRT ที่ผมชอบที่สุด และมักจะเป็นทำเลที่ผมแนะนำ ให้คนมาอยู่อาศัยมากที่สุดอันดับต้นๆเลย
มีความท้าทายเล็กๆ กับการเปลี่ยนอดีต ’สถานทูตออสเตรเลีย‘ ให้กลายมาเป็น ‘Luxury Condo’ และ ’Mixed-Use’ ระดับ ’iconic’ ริม ’ถนนสาทร‘
'เกือบหลับ แต่กลับมาได้' จะมีโครงการไหนกันเชียวที่จะเหมาะกับคำนี้ ถ้าไม่ใช่ 'Hyde Riverbay Charoennakorn' (ไฮด์ ริเวอร์เบย์ เจริญนคร)
โครงการใหม่ของ Major ที่แน่มาก แกร่งมาก เพราะไม่หวั่นไหวกับการต้องถูกขนาบข้างโดย Sansiri แบบรั้วชนรั้วเลย!
'dcondo calm Ramkhamhaeng 40' (ดีคอนโด คาล์ม รามคําแหง 40) ก็เป็นอีกโครงการที่ผมบอกเลยว่า คุณจะลืมภาพจำของแบรนด์ดีคอนโดแบบเดิมๆ ไปแทบหมดสิ้น เพราะโครงการนี้ เค้าอยู่ใกล้รถไฟฟ้าถึง 2 สาย ทั้งสายสีส้มและสายสีเหลือง!!!
ไหนใครกำลังจะรีไฟแนนซ์กันบ้าง ใครกำลังผ่อนบ้านอยู่เพลิน ๆ นี่ห้ามลืมเด็ดเลยนะ เพราะหนี้บ้านพอพ้น 3 ปีแรก ดอกเบี้ยจะพุ่งขึ้นแบบก้าวกระโดดเลย
ขออวดว่าผมได้รีวิวหนังสือเล่มนี้ก่อนหนหน้านี้แล้วด้วยนะ อิอิ แต่ที่จริงผมไม่ได้ตั้งใจรีวิวหรอก แต่เป็นคนอ่านหนังสือแล้วชอบ ‘Short Note’ ประโยคดีๆ คมๆ เก็บไว้ แต่ปรากฏว่ามันโดนบาดเยอะมาก จนสามารถเอามาลงในเพจได้เลย
ช่วงนี้ผมชอบเข้าไปดูงานออกแบบของ Foster + Partners บ่อยสุดๆ คือรู้สึกได้เลยว่าเราอินกับสไตล์การออกแบบของเค้ามากๆ ซึ่งถ้าใครไม่รู้ว่าเค้าคือใคร Foster + Partners คือบริษัทที่ออกแบบ Apple Store ตรงเซ็นทรัลเวิลด์ นั่นแหละครับ น่าจะพออ๋อกันขึ้นมาบ้างเนอะ
ยุคนี้ใครเค้าเที่ยวต่างประเทศกัน คนรวยเค้าเที่ยวนอกโลกครับ!
Apple Store นี่ไม่ว่าจะไปเปิดสาขาที่ไหน ก็สามารถกลายเป็นแลนด์มาร์คของที่นั้นๆ ได้ตลอด ล่าสุดเค้าเพิ่งเปิดสาขาใหม่ที่ประเทศมาเลเซีย ไปหมาดๆ เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน ที่ผ่านมานี่เอง ซึ่งนี่เป็นสาขาแรกของมาเลเซีย
เดือน 7 กำลังจะผ่านพ้นอีกแล้วนะครับ ตอนนี้อากาศกำลังชุ่มฉ่ำแบบสุด ๆ ไปเลย ซึ่งหลายเดือนที่ผ่านมามีสัญญาณว่าดอกเบี้ยแบบคงที่เริ่มกลับมาแล้วนะ