"ESTAR" ปรับตัวฝ่าปัจจัยลบอย่างต่อเนื่องเลยครับ สำหรับปีนี้จะเน้นรุกไปที่มิกซ์ยูส-คอมมูนิตี้มอลล์ เสริมรายได้ระยะยาวเพิ่มความแข็งแกร่งเปิดแผนธุรกิจปีเสือ 

        โดยวางแผนไว้ว่าจะผุด 4 โครงการใหม่ มูลค่า 3,000 ล้านภายในปีนี้ แบ่งเป็นคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯชั้นใน และแนวราบในจังหวัดระยอง

        นอกจากนี้ยังประเมินด้วยว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2565 ยังต้องเผชิญปัจจัยลบ การแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ และผลกระทบจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวส่งผลต่อรายได้และกำลังซื้อของลูกค้า ภาวะหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง การเพิ่มขึ้นของหนี้เสีย (NPL) ทำให้การปล่อยสินเชื่อยังคุมเข้ม

        ราคาวัสดุก่อสร้างปรับตัวสูงขึ้น ตลอดจนกำลังซื้อจากนักลงทุนต่างชาติยังไม่กลับมา แต่ท่ามกลางปัจจัยลบยังมีปัจจัยบวก จากนโยบายภาครัฐที่ช่วยกระตุ้นตลาดอสังหาฯ เช่น การผ่อนคลายมาตรการ LTV การลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนอง 

        ปริมาณบ้านคงค้างที่ลดลงจากการชะลอตัวในการเปิดการขายโครงการใหม่ในปีที่ผ่านมา แต่เชื่อมั่นว่ากำลังซื้อที่อยู่อาศัยอย่างแท้จริงยังคงมีอยู่ในตลาดสำหรับบ้านแนวราบและคอนโดมิเนียมในระดับราคากลาง-ล่างครับผม