ถึงเวลาศึกษากายวิภาคของโปเกม่อนแล้วล่ะครับ
เพราะญี่ปุ่นก็ยังคงเป็นญี่ปุ่น ไม่ว่าจะทำอะไรก็ดูเป็นญี่ปุ๊นนนญี่ปุ่น ดังนั้นผมจึงไม่แปลกใจเท่าไหร่ตอนที่คุณพี่เค้าประกาศว่า "เอาล่ะ เรามาศึกษาฟอสซิลโปเกม่อนกันดีกว่า!"
และเพราะญี่ปุนมีอะไรที่ตื่นเต้นมาให้เราเห็นกันตลอด แถมยังใส่ใจสุดๆ เกี่ยวกับเรื่องการประชาสัมพันธ์ด้านความรู้ควบรวมไปกับความสนุกสนานเพลิดเพลิน การจะทำโปรเจ็คต์ฟอสซิลโปเกม่อนขึ้นมาจึงไม่ใช่เรื่องที่แปลกใหม่อะไรเลยจริงๆ
อนิเมะที่ดังสุดๆ แถมยังถูกพัฒนาเป็นเกมจนคนทั่วโลกติดกันงอมแงมอย่างโปเกม่อนก็เป็นหนึ่งในโปรเจ็คต์สำคัญที่ญี่ปุ่นทำให้เรารู้ว่า "สนุกไปด้วย ได้ความรู้ไปด้วย" นั้นทำได้จริง
นิทรรศการ Pokémon Fossil Museum ความจริงก็จัดมาตั้งแต่ปีที่แล้วแล้วล่ะ แต่ว่าเค้าจัดเป็นช่วงฤดูกาลไป สำหรับใครที่พลาดเมื่อปีก่อนไป ตอนนี้อีเว้นท์ของปีนี้ก็เวียนมาถึงกันอีกรอบแล้วนะ
เพราะงั้นใครที่อยู่ญี่ปุ่น แถมยังเป็นสาวกโปเกม่อนก็ห้ามพลาดเลยจ้า
โดย Pokémon Fossil Museum นั้นเค้าได้มีการจำลองฟอสซิลและกระดูกของโปเกม่อนดึกดำบรรพ์ให้แฟนๆ ได้เข้าไปชมกันครับ ให้เราได้สวมบทเป็นนักขุดค้น ไปทำรวจฟอสซิลโปเกม่อนและสิ่งมีชีวิตดึกดำบรรพ์ทั้งหลายในพิพิธภัณฑ์
นิทรรศการนี้เป็นความร่วมมือกันของ Pokemon กับ National Museum of Nature and Science Ueno ที่โตเกียว จำลองเอาฟอสซิลของบรรดาโปเกม่อนที่เราคุ้นตา มาวางเทียบกับฟอสซิลของสัตว์ดึกดำบรรพ์ที่เคยมีอยู่จริงกันแบบชัดๆ
ตัวอย่างเช่นโปเกม่อน Kabuto และ Kabutops เป็นโปเกม่อนที่เกิดขึ้นมาจากการฟื้นตัวของซากฟอสซิล แล้วก็มีต้นแบบมาจาก Trilobite ที่เป็นกลุ่มของสัตว์ทะลขาปล้อง มีอายุกว่า 521 ล้านปี
Aerodactyl เองก็เป็นโปเกม่อนที่มีต้นแบบมาจาก Pteranodon สกุลหนึ่งของเทอโรซอร์ รวมถึงสัตว์เลื้อยคลานที่บินได้
หรือเจ้า Omanyte หรือ Omnite Pokemon ก็มีต้นแบบมาจากฟอสซิลหอย Ammonite ฟอสซิลของสัตว์ประเภทนอติลอยด์ที่มีอยู่หลายชนิด สูญพันธุ์ไปพร้อมกับไดโนเสาร์เมื่อ 65 ล้านปีก่อน
แน่นอนว่าเป้าหมายของนิทรรศการนี้ก็คือต้องการให้เราได้ความรู้ควบคู่ไปกับความสนุกสนานนั่นแหละครับ แต่พอมาคิดว่าเราจะได้เห็นถึงความแตกต่างกันระหว่างฟอสซิลของจริงกับฟอสซิลในโลกของโปเกม่อนแล้วก็รู้สึกว่านี่เป็นไอเดียที่ดีจริงๆ เลย
เพราะก็ไม่ใช่แค่เด็กๆ ที่จะได้เรียนรู้เกี่ยวกับซากดึกดำบรรพ์ แต่กระทั่งผู้ใหญ่อย่างเราบางครั้งยังรู้สึกสงสัยเกี่ยวกับสปีชีส์ทั้งหลายของสิ่งมีชีวิตในยุคก่อนเลยนี่นา
ดังนั้นผมจึงคิดว่านี่เป็นนิทรรศการที่เราสามารถเอนจอยไปด้วยกันได้ไม่ว่าจะผู้ใหญ่หรือเด็กๆ ครับ
เรื่องสินค้าที่ระลึกก็แน่นอนว่าต้องมีอยู่แล้ว ทางนี้ได้มีการออกแบบสินค้าสุดพิเศษที่มีเฉพาะในงานนิทรรศการนี้หลายชิ้นเลย ไฮไลท์น่าจะเป็นเจ้าปิกาจูในชุดนักสำรวจนี่แหละ
งานนี้จัดระหว่างวันที่ 15 มีนาคม - 19 มิถุนายน 2565 ที่พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาและวิทยาศาสตร์แห่งชาติ ตั้งแต่เวลา 09:00 - 17:00 น. (เข้าได้ถึงเวลา 16.30 น.) ปิดทำการในวันจันทร์ (หากวันจันทร์เป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์ พิพิธภัณฑ์จะเปิดในวันนั้นและปิดให้บริการในวันอังคารถัดไปครับผม)
และเมื่องานที่อุเอโนะ โตเกียว สิ้นสุดลงในวันที่ 19 มิถุนายนแล้ว เค้าจะย้ายไปจัดที่พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติโทโยฮาชิในจังหวัดไอจิ ระหว่างวันที่ 16 กรกฎาคม – 6 พฤศจิกายน และจะปิดท้ายกันที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะประจำจังหวัดโออิตะ ในเมืองโออิตะ ตั้งแต่วันที่ 10 ธันวาคม 2565 - 24 มกราคม 2566 ยังไปได้ยาวๆ เล้ยยย
Tag :
“ได้วิวแม่น้ำ สวยขนาดนี้เลยรึนี่?!“ เป็นความรู้สึกของผมตอนที่ขึ้นไปชั้น 38 วิวสวยแบบไม่มีอะไรมาบดบังเลย มีมุมที่เห็นสวนเบญจกิติด้วย
สำหรับผมแล้ว BTS สถานี "ห้าแยกลาดพร้าว" เป็น สถานี Interchange กับ MRT ที่ผมชอบที่สุด และมักจะเป็นทำเลที่ผมแนะนำ ให้คนมาอยู่อาศัยมากที่สุดอันดับต้นๆเลย
มีความท้าทายเล็กๆ กับการเปลี่ยนอดีต ’สถานทูตออสเตรเลีย‘ ให้กลายมาเป็น ‘Luxury Condo’ และ ’Mixed-Use’ ระดับ ’iconic’ ริม ’ถนนสาทร‘
'เกือบหลับ แต่กลับมาได้' จะมีโครงการไหนกันเชียวที่จะเหมาะกับคำนี้ ถ้าไม่ใช่ 'Hyde Riverbay Charoennakorn' (ไฮด์ ริเวอร์เบย์ เจริญนคร)
โครงการใหม่ของ Major ที่แน่มาก แกร่งมาก เพราะไม่หวั่นไหวกับการต้องถูกขนาบข้างโดย Sansiri แบบรั้วชนรั้วเลย!
'dcondo calm Ramkhamhaeng 40' (ดีคอนโด คาล์ม รามคําแหง 40) ก็เป็นอีกโครงการที่ผมบอกเลยว่า คุณจะลืมภาพจำของแบรนด์ดีคอนโดแบบเดิมๆ ไปแทบหมดสิ้น เพราะโครงการนี้ เค้าอยู่ใกล้รถไฟฟ้าถึง 2 สาย ทั้งสายสีส้มและสายสีเหลือง!!!
ไหนใครกำลังจะรีไฟแนนซ์กันบ้าง ใครกำลังผ่อนบ้านอยู่เพลิน ๆ นี่ห้ามลืมเด็ดเลยนะ เพราะหนี้บ้านพอพ้น 3 ปีแรก ดอกเบี้ยจะพุ่งขึ้นแบบก้าวกระโดดเลย
ขออวดว่าผมได้รีวิวหนังสือเล่มนี้ก่อนหนหน้านี้แล้วด้วยนะ อิอิ แต่ที่จริงผมไม่ได้ตั้งใจรีวิวหรอก แต่เป็นคนอ่านหนังสือแล้วชอบ ‘Short Note’ ประโยคดีๆ คมๆ เก็บไว้ แต่ปรากฏว่ามันโดนบาดเยอะมาก จนสามารถเอามาลงในเพจได้เลย
ช่วงนี้ผมชอบเข้าไปดูงานออกแบบของ Foster + Partners บ่อยสุดๆ คือรู้สึกได้เลยว่าเราอินกับสไตล์การออกแบบของเค้ามากๆ ซึ่งถ้าใครไม่รู้ว่าเค้าคือใคร Foster + Partners คือบริษัทที่ออกแบบ Apple Store ตรงเซ็นทรัลเวิลด์ นั่นแหละครับ น่าจะพออ๋อกันขึ้นมาบ้างเนอะ
ยุคนี้ใครเค้าเที่ยวต่างประเทศกัน คนรวยเค้าเที่ยวนอกโลกครับ!
Apple Store นี่ไม่ว่าจะไปเปิดสาขาที่ไหน ก็สามารถกลายเป็นแลนด์มาร์คของที่นั้นๆ ได้ตลอด ล่าสุดเค้าเพิ่งเปิดสาขาใหม่ที่ประเทศมาเลเซีย ไปหมาดๆ เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน ที่ผ่านมานี่เอง ซึ่งนี่เป็นสาขาแรกของมาเลเซีย
เดือน 7 กำลังจะผ่านพ้นอีกแล้วนะครับ ตอนนี้อากาศกำลังชุ่มฉ่ำแบบสุด ๆ ไปเลย ซึ่งหลายเดือนที่ผ่านมามีสัญญาณว่าดอกเบี้ยแบบคงที่เริ่มกลับมาแล้วนะ