“Livist Resort Phetchabun” รีสอร์ทที่ฉีกกฎสระว่ายน้ำกลางแจ้งด้วยประติมากรรมคอนกรีต การันตีรางวัลสถาปัตยกรรมดีเด่น

        พอดีหลายวันก่อนไม่ได้ไปเที่ยวไหน หยุดยาวทั้งทีแต่ต้องนั่งสกรอลล์นิ้วเลื่อนหน้าจอมือถืออยู่ที่บ้าน แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้รู้สึกเบื่ออะไรเพราะใจเราเที่ยวทิพย์ได้ แหะๆ

        แล้วตอนนั้นดันไปเห็นโพสต์ประกาศรางวัลใหญ่ของโลกสถาปัตยกรรมของประเทศไทยกันไป นั่นคือรางวัล "ASA ARCHITECTURAL DESIGN AWARDS 2022" หรือ "รางวัลสถาปัตยกรรมดีเด่น ประจำปี 2565" โดย สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์

        ผมก็ชอบดูอะไรสวยๆ งามๆ กับไอเดียของบรรดาสถาปนิกบ้านเราเป็นทุนเดิมอยู่แล้วอ่ะเนอะ เลยรู้สึกว่าน่าสนใจ พอเลื่อนดูแต่ละรางวัลไปก็พบว่าหลายๆ ผลงานของแต่ละสาขานั้นมีความคุ้นหน้าคุ้นตากันมากทีเดียว

        และผลงานเหล่านั้นก็เคยเป็นกระแสในโลกออนไลน์กันอยู่มากครับ เรียกได้ว่า "สมมง"

        พอเลื่อนไปจนเห็นรางวัลประเภทอาคารขนาดเล็ก รางวัลเหรียญเงิน ผมก็รู้สึกว่าเฮ้ย อันนี้น่าสนใจ

        มันคือสระว่ายน้ำของ "ลิวิสท์ รีสอร์ท (Livist Resort)" รีสอร์ทในจังหวัดเพชรบูรณ์ ผลงานโดย POAR ที่ก็ฝากฝีไม้ลายมือไว้เยอะเหมือนกัน แล้วผลงานนี้ก็เป็นที่สะดุดตาทีเดียวเชียว เห็นแวบแรกยังเผลอนึกว่าสระว่ายน้ำคอนโดฯ โครงการใหญ่ๆ ในกรุงเทพฯ ซะอีกแน่ะ

        ผมยังจำได้ว่าภาพสระว่ายน้ำที่ถูกโอบล้อมด้วยคอนกรีตรูปทรงพีระมิดกลับหัวของ Livist Resort ถูกโพสต์ลงในโลกออนไลน์แล้วได้กระแสตอบรับดีมากแค่ไหนในช่วงที่เค้าเปิดตัวใหม่ๆ ตอนนั้นก็รู้สึกว่าน่าสนใจแล้วนะ ตอนนี้มาได้รางวัลการันตีความสำเร็จแล้วเลยอดใจไม่ไหว อยากแชร์ให้กับคนที่ยังไม่รู้จักเค้าได้ทำความรู้จักกันสักหน่อยครับ

        เท้าความก่อนว่า "Livist Resort Phetchabun" เป็นรีสอร์ตขนาด 76 ห้อง ออกแบบโดย POAR Architects โดยที่ตัวโครงการนั้นตั้งอยู่ห่างจากสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังอย่าง "เขาค้อ" เพียงแค่ 30 นาทีเท่านั้น

        และคำว่า Livist (ลิวิสต์) ก็มาจากชื่อ "Livistona Speciosa" ซึ่งเป็นชื่อวิทยาศาสตร์ของต้นค้อ ทีมสถาปนิกเลยนำชื่อนี้มาตีความในการถ่ายทอดผลงานออกมา โดยถอดเส้นสายจากระนาบแนวนอนมาขมวดรวมไปกับลักษณะพื้นที่ของที่ตั้งโครงการนั่นก็คือที่ราบเชิงเขา

        ทำให้ตัวอาคารที่ได้มามีหน้าตาแบบอาคารแนวยาวทอดขนานไปกับแนวเขา มีความยาวถึง 99 เมตร หันหน้าเข้าสู่วิวเขาค้อที่มองเห็นได้แบบ 270 องศา ฉ่ำๆ กันไปเลยยย

        ด้วยทำเลดี๊ดีแบบนี้ตัวโครงการจึงเหมาะมากที่จะทำหน้าที่เป็นสถานที่พักผ่อนและทำหน้าที่ของการสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวที่ดีที่ไม่ใช่แค่การมาดูทะเลหมอกยามเช้า เพราะอะไร? ใช่ครับ เพราะการว่ายน้ำในสระว่ายน้ำกลางแจ้งของโครงการนี่แหละ

        สิ่งที่เป็นไอคอนิกของโครงการก็คือสระว่ายน้ำ แวบแรกเราจะสงสัยว่ามันคืออะไร สระว่ายน้ำ? กระถางต้นไม้ขนาดยักษ์? เกาะลอยฟ้า? หรือแท่งเอเลเม้นท์แบบในหนัง The Fifth Element กันนะ? (อันหลังไม่ใช่ละ 5555)

        แน่นอนว่ามันคือสระว่ายน้ำครับ แต่มันก็เป็นสระว่ายน้ำที่มาพร้อมประโยชน์ที่หลากหลายและสะท้อนให้เห็นว่าสถาปนิกบ้านเรานั้นมีไอเดียดีๆ สต๊อกอยู่ในหัวมากแค่ไหนนั่นเอง

        ถ้าใครเคยไปเพชรบูรณ์จะพบว่าอากาศในโซนจังหวัดที่ถูกเรียกว่า "เหนือตอนล่าง กลางตอนบน" นั้นมีความร้อนแห้งแค่ไหน และการที่ทีมเลือกใช้พื้นที่แบบเปิดโล่งมันทำให้ลมสามารถโกรกเข้ามาได้ดี คนที่พักอาศัยเลยรู้สึกเย็นสบายได้ตลอดทั้งวัน

        ปัญหาเรื่องลมหมดไปแล้ว ต่อมาคือปัญหาในเรื่องของ "แสงแดด"

        ทำยังไงให้แสงแดดไม่รบกวนผู้เข้าพัก ทำยังไงไม่ให้เรารู้สึกว่าร้อนจังไม่อยากลงไปว่ายน้ำเลย คำตอบคือการเลือกใช้วงกลมนำมาสร้างเป็นจานของตัวสระ จากนั้นก็ไล่ระดับความลึกลงไปยังส่วนกลางสระโดยไม่มีสเต็ป

        ได้จานมาแล้ว ต่อมาส่วนสำคัญก็คือพีระมิดกลับหัว

        เจ้าพีระมิด 3D ขนาดใหญ่ทั้งหลายนั่นสร้างมาจากการหล่อคอนกรีตที่วางตำแหน่งเอาไว้กลางสระครับ และเราจะเห็นได้ว่าระดับความลึกของตัวสระนั้นมันจะค่อยๆ ลดลง

        สิ่งนี้ทำให้ระดับความสูงของพีระมิดค่อยๆ เปลี่ยนไปด้วย ถือเป็นการสร้างประสบการณ์แบบใหม่ในการเข้าถึง space ต่างๆ ผ่านพีระมิด

        ที่น่าสนใจคือตัวพีระมิดกลับหัวถูกวางหน้าที่ให้เป็น multi-functional architecture ตีความถึงการเป็นรากต้นไม้

        ด้านบนได้ปลูกต้นแปรงล้างขวดซึ่งเป็นไม้ไม่ผลัดใบเอาไว้ พอว่ายไปกลางสระเราจะเจอพื้นที่แปลกๆ  ที่เกิดจากการเรียงมุมของพีระมิดกลับหัว คล้ายกันกับหลังคาหน้าจั่วที่นอกจากจะทำให้รู้สึกอยาก explore พื้นที่แล้ว ยังทำให้รู้สึกอบอุ่นเหมือนอยู่บ้านอีกต่างหาก

        แต่ประโยชน์ของมันไม่ใช่แค่การทำให้สเปซพวกนี้เป็นที่จดจำของรีสอร์ทนะ เพราะต้นไม้ที่อยู่ด้านบนก็มีหน้าที่ของมันคือนอกจากจะสร้างความร่มรื่น ทำให้ภาพรวมของสระดูโล่งโปร่งแล้ว มันยังทำหน้าที่ในการพรางสายตาด้วยครับ

        บ่อยครั้งเวลาที่คนลงเล่นสระว่ายน้ำจะรู้สึกว่าตัวเองเล่นน้ำได้อย่างไม่มีความเป็นส่วนตัวสักเท่าไหร่ตามประสาคนไทยขี้อาย แต่สระว่ายน้ำของรีสอร์ทนี้สามารถทำให้เรารู้สึกเป็นส่วนตัวเวลาว่ายน้ำ แถมยังว่ายได้ตั้งแต่ 9 โมง – 4 โมงเย็น เรียกว่าต่อให้อยู่ในช่วงที่ร้อนที่สุดของวันก็ยังลงว่ายน้ำเล่นในสระได้แบบสบายๆ 

        นอกจากนี้พีระมิดกลับหัวและต้นไม้ด้านบนยังทำให้พื้นที่ของสระเป็นส่วนตัวอีกต่างหาก เพราะรูปแบบการออกแบบของตัวสระมันทำให้คนที่อยู่ในโซนห้องพักหรือว่าบริเวณใกล้เคียงกันนั้นมองเห็นกิจกรรมของฝั่งนี้ได้อย่างไม่โจ่งแจ้งเกินไปครับผม

        เอาเข้าจริงพื้นที่ในส่วนของสระว่ายน้ำมันไม่ได้ใหญ่อะไรมากมาย แต่เพราะเป็นพื้นที่เล็กๆ นี่แหละ เวลาที่โครงการตั้งใจลงดีเทลไปในส่วนนี้มันเลยทำให้รู้สึกประทับใจ

        นอกจากจะสร้างให้สระว่ายน้ำในพื้นที่ส่วนนี้เป็นไอคอนิกของโครงการแล้วยังคำนึงถึงการใช้งานได้จริง เพราะเวลาเราไปดูทะเลหมอกเราก็ได้ดูกันอยู่แค่ไม่กี่ชั่วโมงในช่วงเช้าจริงมั้ยล่ะครับ หลังจากนั้นไปก็ไม่รู้ว่าจะทำกิจกรรมอะไรได้แล้ว

        แต่การมีสระว่ายน้ำรูปทรงแปลกตาเข้ามาแถมยังสามารถว่ายได้ทั้งวันโดยที่ไม่รู้สึกร้อนนี่มันก็ช่วยฆ่าเวลาได้ดีจริงๆ ไม่แปลกใจที่จะคว้ารางวัลในการประกาศรางวัลครั้งใหญ่ของโลกสถาปัตยกรรมบ้านเราไปได้เนอะ

        รู้สึกว่าไอเดียดีๆ แบบนี้เอามาปรับใช้กับโครงการคอนโดฯ ก็คงจะเข้ากันดีไม่หยอก เพราะเวลาผมไปดูคอนโดฯ ช่วงบ่ายๆ ทีไรคือร้อนลมแทบจับทุกทีเลย