นาทีนี้หากจะนึกถึงอสังหาฯ ที่เด่นเรื่องแนวราบ ผมว่าเช็คลิสต์ลำดับต้นๆ คงมีชื่อของ SC ASSET แว๊บเข้ามาในหัวกันอย่างแน่ๆ
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ต้องยอมรับจริงๆ ครับว่าตลาดแนวราบค่อนข้างโดดเด่นสวนทางกับคอนโด ที่ถึงแม้จะเผชิญกับสถานการณ์โควิด-19 แต่เชื่อไหมครับว่าบ้านกลับเป็นสินค้าที่ขายดี
จริงๆ ผมอ่านข้อมูลการวิเคราะห์ของหลายๆ กูรู ส่วนมากก็ลงความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่าเพราะความต้องการและพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไปจากเดิมเลยส่งผลให้บ้าน ตอบโจทย์กว่าคอนโด ซึ่งก็คงจะเป็นช่วงของคำว่า New Normal มันมาใหม่ๆ นั่นแหละครับ (แต่ตอนนี้คงไม่ New แล้วเนอะ อยู่กับมันมานานจัด555)
วกเข้าเรื่องเลยครับที่เกริ่นมาแบบนี้ ก็เพราะวันนี้จะพามาดูบ้านของ SC นี่แหละ จริงๆ แล้วผมได้มาร่วมงานแถลงข่าวเปิดตัวแนวราบใหม่ 25 โครงการ ซึ่งปีนี้ทาง SC เค้าเน้นพัฒนาบ้านในระดับราคามากกว่า 10 ล้าน
ซึ่งปีนี้เค้าชูธงดันแบรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด เต็มที่เลยฮะ เรียกได้ว่าเป็นแบรนด์เด็กปั้นของค่าย เพราะขายดีสุดๆ โดยวันนั้นเค้าก็แถลงข่าวในโครงการบ้านเลยฮะ นั่นก็คือโครงการ บางกอก บูเลอวาร์ด บางนา-ศรีนครินทร์
แถมวันนั้นทาง SC เค้ายังใจดีเปิดบ้านให้เราเข้าไปเยี่ยมชมกันอีกด้วย งานนี้ผมเลยถือโอกาส พาลูกเพจคอนโดติดดอย ไปเยี่ยมชมพร้อมๆ กันด้วยเลย
ก่อนอื่นมาทราบพิกัดโครงการก่อน โครงการนี้ตั้งอยู่บนถนนหนามแดง ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ซึ่งก็ใกล้ถนนเทพารักษ์ และทางด่วนกาญจนาภิเษก ด้วยจริงๆ แอบคิดว่าถ้าตั้งชื่อว่า บางกอก บูเลอวาร์ด บางนา-เทพารักษ์ ดูท่าจะเหมาะกว่าหน่อย 555 เพราะถนนหลักของทำเลคือ ถนนเทพารักษ์ 1.20 กม. เดินทางค่อนข้างสะดวก แต่อาจจะเจอปัญหารถติดได้ เพราะรถใหญ่วิ่งกันเยอะ
แถมทำเลรอบๆ ยังรายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบนะ ทั้งโรงพยาบาล อาทิ โรงพยาบาลศิครินทร์, โรงพยาบาลสินแพทย์ เทพารักษ์ รวมถึงสถานศึกษาก็มีเช่นกัน โรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์, โรงเรียนสารสาสน์ สุวรรณภูมิ เป็นต้น
จริงๆ ผมมองว่าทำเลมันก็ไม่เชิงชานเมืองจ๋าซะทีเดียวนะ อย่างที่บอกว่าใกล้ทางด่วนก็เลยเดินทางสะดวก เลยเชื่อมต่อแหล่งไลฟ์สไตล์ได้ง่ายๆ เลย ห้างสรรพสินค้าในรัศมีโครงการจะมีทั้ง เซ็นทรัล บางนา เมกาบางนา, มาร์เก็ตวิลเลจ สุวรรณภูมิ, แจส เออเบิร์น ศรีนครินทร์, โลตัส ศรีนครินทร์, สนามกอล์ฟ เมืองแก้ว, ตลาด เทพประทาน (หนามแดง)อาจจะไม่ได้ใกล้เว่อร์ แต่เดินทางไม่ลำบากครับ ถือว่ายังคงสะดวกแก่การมาช้อปปิ้งอยู่ฮะ
กลับเข้ามายังโครงการกันต่อ บางกอก บูเลอวาร์ด บางนา-ศรีนครินทร์ ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 43 ไร่ จำนวน 156 ยูนิต มีแบบบ้านให้เลือกจุใจมาก เพราะมีถึง 4 แบบ โดยจะมีพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 216-362 ตร.ม.
ความเด่นของโครงการคงหนีไม่พ้นคอนเซ็ปต์ Milton Abbas Village เป็นชื่อหมู่บ้านเล็กๆ ในเมือง Dorset ประเทศอังกฤษ แน่นอนครับว่าภายในโครงการจะได้สัมผัสกลิ่นอายสไตล์ผู้ดีอังกฤษสุดๆ
ทีนี้เรามาดูบ้านตัวอย่างทั้ง 4 หลังกันเลยครับ
บ้าน CAPTIVATE ขนาด 362 ตร.ม. บ้านหลังนี้เป็นแบบบ้านที่ใหญ่ที่สุดของโครงการเลย ตัวบ้านจะตกแต่งโดยเน้นสีเขียว เทา และสีครีมออกนวลๆ มีการใช้วัสดุที่มีความวิบวับ ดูแพ๊งแพง โดยเปิดประตูบานเลื่อนเข้าไปบริเวณแรกเราจะเจอกับ Living Room ซึ่งไม่ได้มีแค่โซนเดียวเพราะจัด Living Room ไว้หลายโซน เหมาะกับคนยุคนี้ที่ถึงแม้จะอยู่บ้านแต่ก็ต้องการมุมหรือพื้นที่ส่วนตัวมากขึ้น
บันไดทางขึ้นไปยังชั้นสองของตัวบ้านจะถูกจัดให้เป็นพื้นที่แห่งการพบปะของครอบครัวอย่างโต๊ะอาหาร และครัว ผมชอบที่ครัวเป็นครัวที่มีช่องทะลุมายังโต๊ะอาหาร คือยื่นอาหารเสิร์ฟจากครัวถึงโต๊ะอาหารได้จากตรงนี้ไปเลย
ตัวบ้านจัดสรรพื้นที่ได้ฉลาดสุดๆ เพราะมีช่องเก็บของเล็กๆ ก่อนขึ้นบันไดด้วย ชั้นบนจะมีห้องนอน 3 ห้องนอน ซึ่งห้อง Master Bedroom จะเป็นห้องที่มีระเบียง และ Walk in closet ค่อนข้างกว้าง เป็นห้องแต่งตัวที่ดูใหญ่พอสมควรเลย แต่ละห้องนี่ตกแต่งสวยงามมากๆ อ้อ ห้องอื่นๆ ที่แม้จะไม่ใช่ Master Bedroom ก็กว้างเหมือนกันครับ ชอบที่โครงการเน้นพื้นที่ และเลือกทำเฟอร์นิเจอร์ที่สามารถจัดเก็บของได้เยอะ เป็นการประหยัดพื้นที่ได้เยี่ยมมาก
บ้าน CLOUD 299 ตร.ม. หลังนี้เปิดประตูบ้านเลื่อนมาจะเจอกับโซน Living Room เช่นเดียวกัน แต่ว่าจะจัดให้โต๊ะอาหารอยู่ถัดไปจากโซนนั่งเล่นเลยนะ ผมชอบที่เค้าเนรมิตรห้องทำงานเอาไว้อยู่ใกล้ๆ กับโซนนั่งเล่นและครัวเลย ตอบโจทย์ชีวิตอยู่นะ
เอาจริงๆ ผมมองว่าเราสามารถปรับให้เป็นพื้นที่สำหรับให้เด็กๆ เรียนออนไลน์ก็เวิร์ค เพราะอยู่ใกล้ห้องนั่งเล่นนี่แหละ ใกล้สายตา สามารถมองดูลูกๆ เรียนออนไลน์ได้ ส่วนฝั่งซ้ายมือของห้องนั่งเล่นจะเป็นครัว ครัวขนาดไม่ใหญ่มากนะ แต่ก็พอดีกับการใช้ชีวิตแหละ
เดินขึ้นบันไมาข้างบน จะมีโซนสำหรับนั่งเล่นอีกหนึ่งโซนอยู่กึ่งกลางระหว่าง ห้องนอน 3 ห้อง ห้องนี้ Master Bedroom มีมุมแต่งตัวอลังการมาก แถมห้องนอนยังมีอ่างอาบน้ำอีกด้วย น่าจะถูกใจคุณผู้หญิง และคุณผู้ชายที่รักการแต่งตัวและดูแลตัวเองกันแน่นอน ส่วนห้องนอนเล็กอีกสองห้องก็จัดมาในสไตล์เดียวกับหลังแรกเลยครับ กว้าง และจัดสรรพื้นที่แบบเฉียบ
บ้าน CALM 232 ตร.ม. หลังนี้จะวางแปลนคล้ายๆ กับหลังที่สองเลย หลังนี้จะเน้นสีสันหน่อย มีสีส้มและสีน้ำเงินเป็นหลักเสริมให้บ้านสดใสมากๆ ผมชอบที่บ้านมีห้องแยก คือชั้นล่างอีกห้อง แล้วแต่ว่าเราจะเอาไปอแดปเป็นอะไร เป็นห้องนั่งสงบจิตสงบใจส่วนตัวก็ได้ หรือจะเป็นห้องสำหรับใช้เรียนพิเศษของลูกๆ ก็โอเค เพราะมีความไพรเวท แต่ยังอยู่ในสายตาเราอยู่
ขึ้นมายังชั้นบน ผมชอบไอเดียที่เค้าทำเป็นโซนนั่งเล่นอีกโซน อันนี้มีความญี่ปุ่นหน่อยๆ นั่งห้อยขาพูดคุยได้เลยครับ เก๋ๆ ห้องนอนข้างบนมี 3 ห้องเหมือนกัน แต่จะเป็นขนาดเล็กลงมาหน่อย แต่นั่นแหละครับ เค้าเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีช่องไว้จัดเก็บของได้มาก เลยทำให้ห้องดูกว้างแม้จะเป็นบ้านที่มีขนาดเล็กกว่าสองหลังแรก
บ้าน MILD 218 ตร.ม. บ้านหลังสุดท้าย ขนาดเล็กที่สุดในโครงการ บ้านหลังนี้น่ารักมากก มันมีความ Cozy เล็กๆ เพราะหลังนี้เค้ามาโทนสีที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น มีความไม้ๆ ผมชอบที่เค้าทำโซนนั่งทำงานช่องเป็นรูปครึ่งวงรี ทำให้บ้านดูมีอะไรๆ ดีฮะ555 โซนนี้สามารถปิดได้ด้วยหากต้องการความเป็นส่วนตัว
ห้องนอนทั้ง 3 ห้องของบ้านไซส์นี้ ก็จะย่อๆ ส่วนมาจากทั้งสามแบบด้านบน แต่ผมชอบมากเป็นพิเศษ ด้วยโทนสี และการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ อย่างห้องนอนเล็ก แม้พื้นที่มันจะจำกัดแต่เต้าใช้พวกเตียงที่มีลิ้นชักผนังที่มีช่องวางของ จึงทำให้ห้องนอนเหลือพื้นที่ให้เกลือกกลิ้งอยู่พอสมควรเลย
นอกจากบ้านจะมีให้เลือกถึง 4 แบบ 4 สไตล์ตามความต้องการแล้ว อีกหนึ่งจุดเด่นคือ facility ครับ โครงการมีให้ครบ อาทิ คลับเฮาส์, สวนส่วนกลาง, ฟิตเนส, สระว่ายน้ำ, ระบบรักษาความปลอดภัย 3 ระดับ (ผ่านเข้าออกอัตโนมัติ)
อ้อ ไปดูบ้านตัวอย่างมาแล้วแต่ลืมบอกว่าบ้านในโครงการ Bangkok Boulevard บางนา-ศรีนครินทร์ เค้าเป็นบ้านซีรี่ส์ LANAI Series ที่พัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตหลังจากสถานการณ์ Covid-19 ให้มีพื้นที่ที่อยู่สบายและสามารถสร้างความสุขภายในบ้านได้โดย LANAI (ลา-ไน) เกิดจากแนวความคิดของคำ 3 คำคือ space-space-space แรกหมายถึงพื้นที่ indoor หรือพื้นที่ภายในบ้าน space ที่สอง คือพื้นที่แบบ semi-outdoor ที่นอกตัวบ้านแต่ก็ยังมีหลังคาเหมือนกับพื้นที่ภายในบ้าน ได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติ เช่นเดียวกับพื้นที่ภายนอก และ space สุดท้าย คือพื้นที่ outdoor หรือพื้นที่ภายนอกบ้านนั่นเอง
นานๆ จะมีโอกาสได้มาดูแนวราบแบบนี้ เลยขอแชะภาพสวยๆ จากบ้านตัวอย่างมาให้ดูกันหน่อยครับ เอาเป็นว่าหากใครอยากมีบ้านสวยๆ พื้นที่ครบตอบโจทย์ทั้งในบ้านและนอกบ้านแบบนี้ สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ คลิก โลด
ส่วนอีก 25 โครงการใหม่ของ SC ในอนาคตจะเป็นโครงการอะไรบ้างงานนี้ยังต้องจับตามองอยู่ครับ ย้ำอีกที ใครที่มีแพลนอยากได้บ้านเดี่ยวดีๆ สักหลัง อย่าลืมชื่อ SC ASSET นะ!! เจ้านี้เค้ายืนหนึ่งเรื่องบ้านเดียวจริงๆ ไม่ได้โม้!!
Tag :
“ได้วิวแม่น้ำ สวยขนาดนี้เลยรึนี่?!“ เป็นความรู้สึกของผมตอนที่ขึ้นไปชั้น 38 วิวสวยแบบไม่มีอะไรมาบดบังเลย มีมุมที่เห็นสวนเบญจกิติด้วย
สำหรับผมแล้ว BTS สถานี "ห้าแยกลาดพร้าว" เป็น สถานี Interchange กับ MRT ที่ผมชอบที่สุด และมักจะเป็นทำเลที่ผมแนะนำ ให้คนมาอยู่อาศัยมากที่สุดอันดับต้นๆเลย
มีความท้าทายเล็กๆ กับการเปลี่ยนอดีต ’สถานทูตออสเตรเลีย‘ ให้กลายมาเป็น ‘Luxury Condo’ และ ’Mixed-Use’ ระดับ ’iconic’ ริม ’ถนนสาทร‘
'เกือบหลับ แต่กลับมาได้' จะมีโครงการไหนกันเชียวที่จะเหมาะกับคำนี้ ถ้าไม่ใช่ 'Hyde Riverbay Charoennakorn' (ไฮด์ ริเวอร์เบย์ เจริญนคร)
โครงการใหม่ของ Major ที่แน่มาก แกร่งมาก เพราะไม่หวั่นไหวกับการต้องถูกขนาบข้างโดย Sansiri แบบรั้วชนรั้วเลย!
'dcondo calm Ramkhamhaeng 40' (ดีคอนโด คาล์ม รามคําแหง 40) ก็เป็นอีกโครงการที่ผมบอกเลยว่า คุณจะลืมภาพจำของแบรนด์ดีคอนโดแบบเดิมๆ ไปแทบหมดสิ้น เพราะโครงการนี้ เค้าอยู่ใกล้รถไฟฟ้าถึง 2 สาย ทั้งสายสีส้มและสายสีเหลือง!!!
ไหนใครกำลังจะรีไฟแนนซ์กันบ้าง ใครกำลังผ่อนบ้านอยู่เพลิน ๆ นี่ห้ามลืมเด็ดเลยนะ เพราะหนี้บ้านพอพ้น 3 ปีแรก ดอกเบี้ยจะพุ่งขึ้นแบบก้าวกระโดดเลย
ขออวดว่าผมได้รีวิวหนังสือเล่มนี้ก่อนหนหน้านี้แล้วด้วยนะ อิอิ แต่ที่จริงผมไม่ได้ตั้งใจรีวิวหรอก แต่เป็นคนอ่านหนังสือแล้วชอบ ‘Short Note’ ประโยคดีๆ คมๆ เก็บไว้ แต่ปรากฏว่ามันโดนบาดเยอะมาก จนสามารถเอามาลงในเพจได้เลย
ช่วงนี้ผมชอบเข้าไปดูงานออกแบบของ Foster + Partners บ่อยสุดๆ คือรู้สึกได้เลยว่าเราอินกับสไตล์การออกแบบของเค้ามากๆ ซึ่งถ้าใครไม่รู้ว่าเค้าคือใคร Foster + Partners คือบริษัทที่ออกแบบ Apple Store ตรงเซ็นทรัลเวิลด์ นั่นแหละครับ น่าจะพออ๋อกันขึ้นมาบ้างเนอะ
ยุคนี้ใครเค้าเที่ยวต่างประเทศกัน คนรวยเค้าเที่ยวนอกโลกครับ!
Apple Store นี่ไม่ว่าจะไปเปิดสาขาที่ไหน ก็สามารถกลายเป็นแลนด์มาร์คของที่นั้นๆ ได้ตลอด ล่าสุดเค้าเพิ่งเปิดสาขาใหม่ที่ประเทศมาเลเซีย ไปหมาดๆ เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน ที่ผ่านมานี่เอง ซึ่งนี่เป็นสาขาแรกของมาเลเซีย
เดือน 7 กำลังจะผ่านพ้นอีกแล้วนะครับ ตอนนี้อากาศกำลังชุ่มฉ่ำแบบสุด ๆ ไปเลย ซึ่งหลายเดือนที่ผ่านมามีสัญญาณว่าดอกเบี้ยแบบคงที่เริ่มกลับมาแล้วนะ