ที่ผ่านมากระแสหนังอินเดียมาแรงเพราะ "คังคุไบ" เข้ามาสร้างปรากฏการณ์ในบ้านเราจนหลายต่อหลายคนเริ่มมองหาหนังแดนภารตะมาดูต่อหลังจากอินกับเรื่องนี้ไป
อันที่จริงหนังอินเดียเค้ามีโปรดักชันอลังการอยู่แล้วนะ และเรื่องที่สร้างออกมาได้ดีก็มีอยู่เพียบ ส่วนหนึ่งเพราะคนบ้านเค้าชอบดูหนังครับ อย่างที่บอกกันว่าถ้าได้ไปอินเดียแล้วต้องลองไปดูหนังในโรงของอินเดีย แล้วจะเห็นปฏิกิริยาของคนอินเดียเวลาอยู่ในโรงว่าพวกเขามีรีแอคชั่นกันได้ขนาดไหน ยิ่งเรื่องไหนคนแสดงรีแอคชั่นมากยิ่งหมายความว่าเรื่องนั้นสนุก!
เอ้า สนุกเค้าสนุกเราอาจจะคนละแบบ แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับคืออินเดียสร้างหนังดีมานานแล้ว แต่คนไทยมักจะติดภาพจำของหนังสมัยก่อนของเค้ามากไปหน่อย
ยังไงวันนี้ผมเลยจะมาแนะนำหนังอินเดียหลากรสเอาไว้ดูยามว่างที่การันตีว่าดูแล้วจะไม่ผิดหวังครับ แต่ไอ้ครั้นจะมาพูดถึงหนังอย่าง 3 idiots, Slumdog Millionaire, Dangal อะไรแบบนี้มันก็ดูจำเจไปนิด เพราะผมคิดว่าใครๆ ก็น่าจะรู้จักกันอยู่แล้วล่ะ
เพราะงั้นเลยอยากจะแนะนำเรื่องที่มีกระแสแต่หลายคนอาจจะยังไม่ได้ลิ้มลองให้ได้ลองดูกันสักหน เพราะรับรองว่าถ้าได้ดูแล้วจะต้องติดใจแน่นอนครับ
Andhadhun
ขอพูดถึงเรื่องนี้ก่อนเลยเพราะผมชอบเป็นการส่วนตัวครับ 5555 เรื่องนี้พีคจัดๆ เหมาะกับคนที่ชอบดูหนังแบบพลิกไปพลิกมา คิดว่ามันเป็นแบบนี้สรุปเอ้ามันดันเป็นแบบนั้นไปซะได้อะไรทำนองนี้
หนังเรื่องนี้พูดถึงนักเปียโนตาบอดที่มีชีวิตธรรมดามาก ว่างๆ เล่นดนตรีอยู่ในห้องพัก บางครั้งก็ออกไปเดินข้างนอก ต่อมาได้ไปเล่นดนตรีในร้านอาหารแห่งหนึ่งและสร้างสีสันให้ร้านได้มากจนถูกอดีตดาราชายชื่อดังเชิญให้ไปเล่นเปียโนเซอร์ไพรส์แฟนสาวที่บ้าน แต่ปรากฏว่าพอไปถึงสถานที่แห่งนั้นดันเกิดเหตุฆาตกรรมขึ้น และพีคจุดที่หนึ่งคือคนตาบอดคนนี้แท้จริงแล้วแสร้งตาบอดมาโดยตลอด!
เพราะแบบนี้เขาเลยเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างแต่ต้องทำเป็นไม่รู้เพราะโกหกคนอื่นอยู่ว่าตัวเองตาบอด มันสนุกตรงที่คนร้ายก็สงสัยและพยายามหาทางทดสอบอยู่ตลอดว่าสรุปพระเอกตาบอดจริงหรือเปล่า แต่ประเด็นตาบอดไม่บอดนี่แค่น้ำจิ้มครับ เพราะในเรื่องยังมีจุดพีคโผล่มาอีกเพียบ พลิกไปพลิกมาเหมือนเวลาพลิกหมูกระทะเลย ใครชอบแนวนี้ต้องไม่พลาด
Bajrangi Bhaijaan
เรื่องนี้นานแล้วล่ะ แต่คิดว่าหลายคนที่ได้ดูก็น่าจะคิดตรงกันว่ามันใหม่เสมอในความทรงจำ เรื่องของชายชาวอินเดียที่ต้องพาเด็กหญิงใบ้ชาวปากีสถานวัย 6 ขวบไปตามหาพ่อแม่
เรื่องนี้นอกจากจะพูดถึงความสัมพันธ์ของสองประเทศที่ไม่ถูกกันอย่างอินเดียและปากีสถานแล้วยังน่ารักน้ำตาตกไหลรดหมอนอีกด้วยครับ สาวน้อยในเรื่องตามครอบครัวมาขอพรที่อินเดียเพราะหวังว่าลูกจะสามารถพูดได้ แต่น้องดันพลัดหลงกับครอบครัวบนรถไฟจนกระทั่งได้เจอกับพระเอก
ตัวหนังพาร์ทขำก็ขำจริง พาร์ทดราม่าก็ใส่มาไม่ยั้ง เรื่องนี้นอกจากจะได้ลุ้นให้ทั้งคู่ผ่านอุปสรรคการเดินทางทั้งหลายแล้วเรายังจะได้เรียนรู้วัฒนธรรมที่แตกต่างกันระหว่างสองประเทศไปด้วยครับ ใครชอบแนวหนังไร้พรมแดนนี่ต้องห้ามพลาดเลย
RRR
เรื่องนี้มาใหม่หมาดๆ เลยไม่อยากพลาดหยิบมาพูดถึงสักหน่อยเดี๋ยวจะหาว่าตกเทรนด์ อิอิ เพราะผมบอกเลยว่า RRR เป็นหนังแอคชั่นฟอร์มยักษ์ที่มันส์หยดติ๋ง ความอลังการงานสร้างตามสไตล์หนังอินเดียใส่มาทั้งเรื่องเลย
RRR หรือ Rise Roar Revolt มีไทม์ไลน์ในช่วงที่อังกฤษเข้ายึดครองอินเดียครับ และตัวเอกสองคนก็เป็นเพื่อนสนิทกันแต่ดันแตกต่างกันสุดขั้ว เพราะคนหนึ่งคือเจ้าหน้าที่รัฐ ส่วนอีกคนนั้นก็เป็นพวกอยากแหกกฏรัฐนี่สิ แต่ว่าทั้งคู่ก็อยู่ในช่วงที่ต้องต่อสู้เพื่ออิสรภาพของประชาชนในอินเดียร่วมกัน
เส้นเรื่องมันง่ายนะ แต่มันอิมแพ็คในหลายๆ อย่างตามแบบหนังทุนสูงลิบลิ่วนั่นแหละครับ มันก็จะมีหลายซีนที่ดูเว่อร์ๆ แหกทุกกฎฟิสิกส์ไปหน่อย แต่ในภาพรวมคือมันเอพิคมากเพราะความพิถีพิถันของการสร้างนี่แหละครับ หนังยาว 3 ชั่วโมงแต่ไม่น่าเบื่อเลยนะ
Drishyam
เอาใจคนชอบหนังแนวสืบสวนสอบสวนคดีฆาตกรรมบ้างดีกว่า เพราะเรื่องนี้ผมคิดว่าน่าติดตามตลอดเรื่อง มีกลิ่นอายหนังตะวันตกหน่อยๆ แถมยังเล่าเรื่องได้ดี มีความ portray ถึงระบบอำนาจนิยมและ abuse of power ของตำรวจด้วยครับ
หนังเรื่องนี้พูดถึงชายคนหนึ่งที่พยายามช่วยเหลือครอบครัวตัวเองจากอำนาจมืดของกฏหมาย หลังจากคนในครอบครัวของเขาพลั้งมือฆ่าชายหนุ่มที่ถ่ายวิดีโอแบล็กเมล์ผู้เป็นลูกสาว แต่เรื่องมันใหญ่ขึ้นเพราะชายหนุ่มคนนี้ดันเป็นลูกตำรวจยศใหญ่ พระเอกของเราเลยต้องปกป้องครอบครัวด้วยการพยายามอำพรางคดีโดยอาศัยความรู้มากมายที่ได้จากการดูหนังของเขา
เรื่องนี้ตัวละครเทาๆ เพราะต่างก็ทำเพื่อลูกตัวเองทั้งสองฝ่าย และมีเรื่องราวของเด็กสาวที่ก่อเหตุโดยไม่เจตนา การใช้อำนาจของตำรวจ การชิงไหวชิงพริบในเรื่อง มันน่าลุ้นตรงที่พระเอกจะทำยังไงในการกลบเกลื่อนร่องรอยคดีทั้งหมดนี่แหละ เรื่องนี้สนุกจนพี่จีนนำไปรีเมคเลยนะ
PK
บอกว่าไม่อยากแนะนำเรื่องที่จำเจแต่มันก็อดไม่ได้ เพราะ PK หรือปีเกนี่มันคือหนังที่ทำให้คนตาสว่างจริงๆ ครับ 5555 อดไม่ได้เลยต้องเอามาขายกันหน่อยสำหรับใครที่ได้ยินมานานแต่ยังไม่เคยดู เรื่องนี้ดูแล้วแบบว่าเบิกเนตรไม่น้อย
เนื้อเรื่องพูดถึงมนุษย์ต่างดาวที่เดินทางมายังโลกแต่กลับถูกขโมยรีโมทเรียกยานอวกาศไปหน้าตาเฉยทำให้เขากลับบ้านไม่ได้ มนุษย์ต่างดาวจึงต้องปรับตัวให้เข้ากับโลกใบใหม่ และเขาได้เรียนรู้ว่าขอพรกับพระเจ้าสิเดี๋ยวพระเจ้าจะช่วยเอง แต่ปัญหาคือทำยังไงปีเกก็ติดต่อพระเจ้าไม่ได้ หรือว่าสายนี้จะโทรผิด? พระเจ้ามีจริงมั้ยแล้วพระเจ้าเป็นใครกันแน่?
เนื้อหาในหนังโดยรวมคือการสอนให้เรารู้จักตั้งคำถามกับสิ่งที่เคารพบูชาอย่างศาสนากับพวกผู้นำนิกายทั้งหลายครับว่าบางครั้งมันก็ไม่สมเหตุสมผล แต่หนังฉลาดตรงที่เล่ามันออกมาโดยพยายามไม่ให้มันกระทบกระเทือนจิตใจคนที่เชื่อมั่นในศาสนามากเกินไปด้วยการใส่มุกตลกขบขันมากลบแทน ดังนั้นมันเลยไม่ได้ดูเครียด แต่เป็นการพยายามชักจูงให้เข้าใจและเริ่มตั้งคำถามกลับต่อสิ่งที่เชื่อมั่นมาตลอดอย่างเป็นเหตุเป็นผลมากกว่า ถึงได้บอกไงว่าเบิกเนตรของแท้
Tag :
มั่นใจว่าผมอยู่กับ "Ashton Residence 41" มาไม่น้อยกว่าใคร...
ตั้งแต่ผมเริ่มก้าวเท้าเข้ามาลงทุนคอนโด สามารถบอกได้เลยว่า ปีนี้ เป็น 1 ในปีที่ "ราคา" คอนโด ดีที่สุดแล้ว หลายๆเจ้า ขนคอนโดมาวางแผงขายลดราคา ทั้งเก่า และใหม่
ผมเชื่อว่า คนจำนวนมาก ยังต้องการให้มี สระว่ายน้ำ ฟิตเนส และถ้ามีศักยภาพทางการเงินที่มากพอ "NOWW MEGA" ก็อาจไม่ใช่โครงการที่คุณมองหา
"ONE ORIGIN SUKHUMVIT 68" ไลน์อัพแตกแตน สมความเป็นแดน ONE ORIGIN
'เฟล็กซี่ สำโรง-อินเตอร์เชนจ์' คอนโดใหม่ ใกล้รถไฟฟ้าสถานี Interchange ทั้ง BTS สายสุขุมวิท และ MRT สายสีเหลือง สถานีสำโรง POP สุดในย่าน Facilities จัดเต็ม 3 ชั้น
ออริจิ้น หรือที่ผมชอบไปเรียกเค้าว่าพี่อัศวินเนี้ย เค้าสมฐานะเจ้าอสังหาฯ ที่เปิดตัวคอนโดเยอะที่สุดในปี 2023 จริงๆ แหละ ไอเราก็เป็นเพจคอนโดซะด้วย ทีนี้ก็ว้าวุ่นเลย ตามเก็บทำเลมาเล่าให้ทุกคนอ่านกันต่อเนื่อง5555
แค่เห็นก็ใจสั่นแล้ว กล่องคิ้วท์อะไรเบอร์นี้!! “Krispy Kreme Greeting Holiday Gift” นำลวดลายเทศกาลคริสต์มาตกแต่งบนกล่องพรีเมียมสีสันสดใส จับคู่มากับเซตความอร่อยของโดนัทเนื้อนุ่มให้เลือกฟินถึง 2 สไตล์
นอกจากจะขยันออกโดนัทหน้าใหม่ทุกเทศกาลแล้ว เครื่องดื่มประจำเทศกาลเค้าก็ไม่น้อยหน้าเหมือนกันนะ!!
คริสปี้ ครีม ยกเอามู้ดของความสุขมาไว้บนโดนัทหน้าใหม่!! กับ “Krispy Kreme x elf Specialty Doughnuts” ต้อนรับเทศกาลแห่งความสุขถึง 4 หน้า 4 สไตล์
'น้องนมเย็น' หรือ รถไฟฟ้าสายสีชมพู โดยมีกำหนดให้ประชาชนได้ทดลองใช้ฟรี!! ตั้งแต่วันที่ 21 พ.ย. - 17 ธ.ค. 2566
อุตสาหกรรมภาพยนตร์เป็นหนึ่งในภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดตลอดช่วงโควิด-19 ครับ ตอนนั้นโรงภาพยนตร์ทั่วโลกต้องปิดตัวลงเป็นระยะเวลานาน การถ่ายทำก็หยุดชะงัก เรียกว่าพังกันไปเป็นหย่อมๆ
นี่คือร้านที่ดีที่สุดในทริปเซี่ยงไฮ้ ผมอยู่ 5 วัน กินร้านนี้ไป 2 วันติด! เอาแบบนี้ ถ้าพี่จีนจะทำบุฟเฟต์ขนาดนี้ จะมีใครไปสู้พี่เค้า เดี๋ยวจะบรรยายให้อ่านก่อนว่าเค้าทำอะไรให้บ้าง แล้วมาเดาราคากัน