ดีดี พร็อพเพอร์ตี้ ออกมาเผยครับว่า อสังหาฯ ในช่วงไตรมาส 2 ปี 2565 มีแนวโน้มลดลงต่อเนื่องจากช่วงต้นปี ซึ่งเป็นผลกระทบมาจากสภาพเศรษฐกิจที่ยังคงชะลอตัว 

        ทำให้กำลังซื้อของผู้บริโภคยังคงไม่ฟื้นตัว จึงชะลอการซื้อบ้านหรือใช้เวลาในการตัดสินใจนานขึ้น ส่งผลให้ผู้ประกอบการอสังหาฯ ยังคงต้องตรึงราคาไว้เพื่อจูงใจผู้ซื้อบ้าน

        จากรายงานล่าสุดพบว่า ดัชนีราคาที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ อยู่ที่ 83 จุด หรือลดลง 1% เทียบไตรมาสต่อไตรมาส โดยดัชนีราคายังคงต่ำกว่าปี 2561 ซึ่งเป็นปีฐาน อยู่ถึง 17% แสดงให้เห็นว่าแนวโน้มราคายังคงไม่ฟื้นตัวดีเท่ากับช่วงก่อนโควิด-19

        เมื่อหากพิจารณาตามรูปแบบที่อยู่อาศัย พบว่า ราคาคอนโดฯ "ทรงตัว" จากไตรมาสก่อน และลดลงถึง 6% ในรอบปี  จากการที่ผู้บริโภคยังให้ความสนใจโครงการแนวราบมากกว่า สวนทางกับราคาบ้านเดี่ยวที่เพิ่มขึ้นถึง 5% เทียบไตรมาสต่อไตรมาสหรือเพิ่มขึ้นถึง19% เมื่อเทียบปีต่อปี ส่วนราคาทาวน์เฮ้าส์ เพิ่มขึ้น 2%

        ขณะที่ซัพพลายแนวราบเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 233 จุด จาก 229 จุด หรือเพิ่มขึ้น 2% เทียบไตรมาสต่อไตรมาสหรือเพิ่มขึ้น 13% เมื่อเทียบปีต่อปี โดยบ้านเดี่ยวเพิ่มขึ้นมากที่สุดอยู่ที่ 11%เทียบไตรมาสต่อไตรมาสหรือเพิ่มขึ้นถึง 40% เทียบปีต่อปี ทาวน์เฮ้าส์เพิ่มขึ้น 6% เทียบไตรมาสต่อไตรมาสหรือเพิ่มขึ้นถึง 25% เทียบปีต่อปี และคอนโดฯ ทรงตัวจากไตรมาสก่อน เพิ่มขึ้น 11% ปีต่อปี

        สะท้อนให้เห็นว่าผู้ประกอบการ และผู้บริโภคที่มีสินค้าแนวราบอยู่ในมือนำสินค้าออกมาขายมากขึ้น เพื่อตอบรับกับผู้ซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง ซึ่งมีแนวโน้มความต้องการสินค้าแนวราบที่เพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมาครับผม