ตอนที่คุณพราวเธอบอกว่าโครงการ "VEHHA" คอนโดลักชัวรี่ตัวใหม่ในหัวหินของเธอเป็นคอนโดที่สูงที่สุดในหัวหิน ผมก็คือว้าวเลยครับ เพราะด้วยพื้นที่ที่เค้าเลือกสามารถทำให้ตัวตึกสูงได้ถึง 31 ชั้น!
เรียกว่าคัมแบ็คคราวนี้ "พราว เรียล เอสเตท" ไม่ลืมที่จะเล่นใหญ่ไฟกระพริบ ชนิดที่เคลมว่าจะไม่มีใครมาบัง seaview ของเค้าแน่นอน
ตอนที่มีโอกาสได้ไปดูห้องตัวอย่างโครงการ "VEHHA" หรือ "เวหา" ผมบอกเลยว่าค่อนข้างประทับใจ หลักๆ คือการออกแบบโครงสร้างในห้องที่มันดูคิดเผื่อคนชอบโซนติดทะเลเอาไว้จริงๆ กับอีกอย่างคือทางพราวยังไม่ทิ้งซิกเนเจอร์เดิมของตัวเองไป แบบที่มองดูก็จะรู้ว่า นี่แหละ โครงการของพราว
แต่ก่อนจะเล่าถึงตรงนั้น มาพูดถึงที่มาที่ไปเค้าก่อนดีกว่า
ถ้าพูดถึง "พราว" ทางนี้เค้าประหนึ่งเจ้าใหญ่ในหัวหินอยู่แล้วล่ะ เพราะคลุกคลีกับโซนนี้มานาน แต่ส่วนใหญ่แล้วจะเน้นไปทางโรงแรมกับสวนน้ำทั้งหลายมากกว่า
"InterContinental Residences Hua Hin" จึงเป็นโครงการคอนโดมิเนียมโครงการแรกของทางพราว เปิดตัวไปเมื่อสัก 3 ปีที่แล้วเห็นจะได้ ซึ่งไม่ต้องบอกก็รู้ว่าประสบความสำเร็จมาก ด้วยความที่เค้าคร่ำหวอดในวงการโรงแรมมานาน ดังนั้นรูปแบบโครงการคอนโดมิเนียมจึงเหมือนการยกโรงแรมมาไว้ในมือเรา
ต่อจากนั้นก็มาเป็นโครงการล่าสุด คือน้อง "เวหา" โครงการที่ได้ทำเลดีเยี่ยมแถมด้วยสิทธิพิเศษเหนือใครในประเทศหัวหิน
ตอนที่เดินทางมามีสิ่งหนึ่งที่ผมสังเกตได้คือ ถนนแถวพระราม 2 สร้างกันเกือบเสร็จแล้ว
เพราะอย่างนั้นรถจึงไม่ถือว่าติดอะไรครับ การจะเดินทางมาหัวหินเลยค่อนข้างสะดวกมาก และถนนพระราม 2 กำลังขยายเพิ่มเป็น 14 เลน ซึ่งตอนนี้เสร็จแล้ว 8 เลน ทางด่วนยกระดับคู่ขนานมอเตอร์เวย์นครปฐมและชะอำก็มีแผนเสร็จสิ้นในปี 2568 เพราะอย่างนั้นการที่คนกรุงเทพฯ จะแวะไปพักผ่อนที่หัวหินมันจึงไม่ใช่เรื่องลำบากอะไรแล้ว
ในเรื่องของเมกะโปรเจ็คต์ย่านนี้เองก็นับว่าน่าสนใจจริงๆ ครับ และหัวหินนั้นด้วยความที่เป็นเมืองคลาสสิกนี่ยังไงก็อยู่ยงคงกระพันอยู่แล้ว การมีเส้นทางเดินทางที่สะดวกสบายหลายเส้นทางเข้ามารองรับเลยเป็นการเพิ่มศักยภาพในพื้นที่ได้ดีกว่าเดิม
อย่างสนามบินหัวหินก็เตรียมยกระดับเป็นสนามบินนานาชาติหัวหินแล้วนะ เดือนกรกฎาคมนี้ก็มีการเพิ่มไฟล์ทบินตรงจากภูเก็ต และนำเส้นทางบินจากเชียงใหม่กับกัวลาลัมเปอร์กลับมาอีกครั้งด้วย
ไหนจะโปรเจ็คต์สำคัญอย่างการขยายรันเวย์หัวหินอีก นึกภาพว่าสมุยรับไฟลท์อินเตอร์ได้ยังไง หัวหินก็สามารถทำได้แบบนั้นแหละครับ สิงหาน่าจะเห็นภาพแล้ว ซึ่งความที่มันมีไฟลท์อินเตอร์มาเสริมแบบนี้ ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า หัวหินน่าจะกลายเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ดังกว่าเดิมแน่ๆ
ส่วนรถไฟก็มาแรงไม่แพ้กันนะ เป็นรถไฟทางคู่ กรุงเทพ-ชุมพร เปิดให้ใช้บริการ 2-3 เดือนที่จะถึงนี้แล้ว ซึ่งการเดินทางโดยรถไฟนี่จากปกติ 5 ชั่วโมง ก็จะเหลือเพียง 2-3 ชั่วโมงเท่านั้น แต่รถไฟความเร็วสูงก็อาจจะต้องรอหน่อย ยังไงก็ตามโครงการเค้าใกล้กับสถานีรถไฟครับ เรียกว่าอยู่ด้านหลังเลยแหละ เก๋จริงๆ
นอกจากนี้จุดแกร่งอีกจุดคือบ้านเรามีสัญญาณดีด้านการท่องเที่ยวและกำลังซื้อทั้งจากในประเทศและต่างประเทศ
ตลาดที่พักอาศัยยอดขายส่วนใหญ่ของบ้านประเภท Resort Home ก็ค่อยๆ ฟื้นฟูกลับมา และในช่วงโควิดระบาดหนักๆ นั้นหัวหินได้รับผลกระทบน้อยสุดนะ อย่างคนกรุงเทพฯ เอง ก่อนช่วงโควิดถ้าซื้อคอนโดหัวหินไว้จะไม่ค่อยกลับมาอยู่กันหรอกครับ แต่พอช่วงโควิดระบาดก็มาอยู่ครั้งละ 2-3 เดือน ไหนจะชาวต่างชาติที่ต้องการบ้านสำหรับช่วงเกษียณอายุอีก
ตลาดหัวหินไม่ค่อยมีซัพพลายใหม่ๆ เข้ามา อาจเพราะที่ดินมันเริ่มหมดแล้ว แต่ว่าดีมานด์ยังมากอยู่ ซัพพลายที่ค้างนั้นส่วนใหญ่คือชะอำ ที่เห็น seaview จะก็มีไม่ค่อยมาก มันเลยค่อนข้าง healthy กับรีสอร์ตโลเคชั่น
อีกจุดที่น่าสนใจคือโครงการเค้าสูงมาก
น่าจะทราบกันดีว่าทุกๆ โครงการโดยเฉพาะในหัวหินนั้น ด้วยกฏของทางเทศบาลหรือผังเมืองที่กำหนดไว้ทำให้ขึ้นโครงการได้แค่ 23 เมตร ดังนั้นห้องที่เป็น Direct Seaview เห็นทะเลตรงๆ แบบไม่เอียงมันเลยจะแรร์มาก
แต่น้องเวหาเป็นโพรดักส์ที่เห็น seaview การันตี seaview ทุกห้อง มีห้องที่ได้ direct seaview อีกต่างหาก มันสำคัญตรงนี้แหละครับ เพราะคนไทยชอบ seaview 5555
นอกจากนี้น้องเวหายังสวมมงกุฎคล้องสายสะพายว่าเป็นคอนโดลักชัวรี่ที่สูงที่สุดในหัวหิน ด้วยความสูงทั้งหมด 31 ชั้น และเคลมไว้ว่าในอนาคตไม่มีใครมาบังวิวแน่ๆ เพราะช่วงหน้าโครงการเค้าสามารถขึ้นตึกได้ไม่เกิน 23 เมตรเท่านั้นครับ
โครงการนี้เป็นรูปแบบ 1 อาคาร 364 ยูนิต เคลมได้อีกอย่างว่า Floor Plan โดดเด่นมากเพราะเป็นแบบ Single Corridor มองเห็นวิวทะเลทุกห้องแบบพาโนรามาและสวนน้ำวานา นาวา หัวหิน
ความสูงของเพดานประมาณ 2.7 เมตรในส่วนพื้นที่ทั่วไปของห้องแบบ Typical และประมาณ 6.10 เมตร ในส่วนพื้นที่ช่องเปิดของห้อง Duplex
โครงการมีห้องพักให้เลือก 7 แบบ Fully Furnish แต่งครบ จบทุกห้อง คือ 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 28-30 ตารางเมตร, 1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอย 42-46 ตารางเมตร, 1 Bedroom Plus Corner พื้นที่ใช้สอย 44-45 ตารางเมตร, 2 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 56-109 ตารางเมตร, 2 Bedroom Jacuzzi พื้นที่ใช้สอย 103 ตารางเมตร, Penthouse พื้นที่ใช้สอย 148-153 ตารางเมตร และ Penthouse Duplex พื้นที่ใช้สอย 101-349 ตารางเมตร
และด้วยความเป็นคอนโด seaview ดังนั้นพอเปิดประตูห้องหรือระเบียงก็จะเจอลมทะเลพัดเข้าหาแน่นอน
ห้องตัวอย่างที่มีให้ชมมีกันอยู่สองไทป์คือ 1 Bedroom Plus 45 ตารางเมตร และ 1 Bedroom 28 ตารางเมตร โดย Sales Gallery จะอยู่ที่ชั้น 25 โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ รีสอร์ท วานา นาวา
ต้องบอกก่อนว่าเค้าทำห้องตรงนี้ได้น่าสนใจคือในพื้นที่ส่วนระเบียงมันคือส่วนหนึ่งของห้องครับ โครงการจะให้ประตูกระจกรอบตัวแบบเปิดปิดได้มา ทีนี้จากพื้นที่ระเบียงธรรมดาๆ ก็จะกลายเป็นห้องหนึ่งห้องได้เลย
ซึ่งส่วนนี้เราสามารถติดแอร์ได้ เช้ามาเปิดประตูกระจกรับลมที่ระเบียง พอบ่ายก็ปิดแล้วเปลี่ยนเป็นเปิดแอร์ กลายเป็นห้องห้องหนึ่งไป เรียกว่าใช้งานได้ทุกตารางเมตรในห้องกันเลยทีเดียว
แต่ชอบการตกแต่งห้องตัวอย่างของเค้าคือติดพัดลมเพดานเอาไว้ตรงส่วนนี้ครับ มันดูเป็นหัวหินมากๆ ยังไงไม่รู้ 5555
แล้วก็ห้องน้ำจะได้เป็น sexy shower เห็นวิวทะเล นอนแช่อาบน้ำชมวิวได้ ส่วนเตียงเป็น day bed ใช้นอนอ่านหนังสือชมวิวไปเรื่อยในวันหยุดก็เหมาะดี
ผมคิดว่าห้อง 1 Bedroom Plus มีซิกเนเจอร์ของความเป็นพราวมากๆ เลย ดูแล้วคิดถึงตอนไปชมห้องตัวอย่างโครงการ "InterContinental Residences Hua Hin" หน่อยๆ
ส่วนห้อง 28 ตารางเมตรก็มีเซ็ตอัพคล้ายกันครับ แต่ในห้องจะไม่มีครัวกับเครื่องซักผ้านะ
เค้าให้เหตุผลว่าปกติคนส่วนใหญ่มาพักหัวหินก็อยู่กันคืนสองคืน ซึ่งในจำนวนวันที่น้อยนิดพวกนี้ก็ไม่ได้มาทำอาหารหรือซักผ้าอยู่แล้ว
เพราะฉะนั้นพอพื้นที่ห้องมันเล็กลงมา และการใช้งานไม่ได้เน้นการอยู่อาศัยระยะยาว ดังนั้นจึงคืนพื้นที่ทุกการใช้งานไป กลายเป็นเพนทรีเล็กๆ ไม่มีครัวใหญ่กับเครื่องซักผ้า ซึ่งคนที่อยู่ห้องไทป์นี้สามารถไปใช้งานที่ส่วนกลางแทนได้ ดังนั้นจึงเป็นห้องที่เหมาะกับครอบครัวเล็กๆ ครับ
พอพูดมาถึงส่วนกลาง รู้สึกว่าจะให้มาเกือบๆ 3000 ตร.ม. เทียบเป็นที่ดินก็เกือบ 2 ไร่ เน้นพื้นที่สีเขียว ด้านล่างเป็นล็อบบี้ เข้ามาจะเห็นวิวสวนน้ำ วิวทะเลเทียม จากนั้นก็จะแทรกส่วนกลางไว้ในแต่ละชั้น โดยแบ่งเป็น category ต่างๆ
อย่างสระน้ำว่ายให้มา 30 เมตร วิวเค้าคือฝั่งนึงเป็นสวนน้ำ ฝั่งนึงเป็นทะเล ฝั่งนึงพระอาทิตย์ขึ้น อีกฝั่งก็พระอาทิตย์ตก
มี nature lab ให้เด็กๆ ปลูกต้นไม้ จะทำอาหารก็เดินมาเด็ดใบกะเพราได้ มีห้องสมุด เกมส์รูม Co-Kitchen สำหรับห้องเล็กที่ไม่มีครัวก็มาใช้ที่นี่ได้
มี Sky meditation, yoga deck และมี kids club ด้วยในตัวโครงการ แต่น่าสนใจตรงที่ลูกบ้านสามารถเดินมาใช้ kids club ในโรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ รีสอร์ท วานา นาวา ก็ได้เหมือนกัน เรียกว่ามีให้ใช้ได้ 2 ที่เลย
โครงการนี้เป็น affordable luxury ครับ เพราะราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 3.29 ล้านบาทเท่านั้น แต่ทุกห้องได้ seaview หมดเลย
ทางพราววางกลุ่มเป้าหมายของ “เวหา” ไว้เป็นกลุ่มครอบครัวตั้งแต่คู่ที่เพิ่งแต่งงานไปจนถึงครอบครัวขนาดใหญ่ รวมถึงชาวต่างชาติที่เกษียณอายุการทำงานและอยากเข้ามาอยู่ในเมืองไทยในราคาที่จับต้องได้เฉลี่ยประมาณ 135,000 บาท/ตร.ม.
เค้าอ้างอิงจากไนท์แฟรงค์ฯ ว่า ราคาเสนอขายเฉลี่ยคอนโดฯ วิวทะเลมีแนวโน้มเติบโตขึ้นมากกว่าห้องไม่ติดทะเล อย่างตอนนี้ห้องไม่ติดวิวทะเลมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 70,700 บาท/ตร.ม. ห้องวิวทะเลราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 141,670 บาท/ตร.ม. และตลอดเวลา 5 ปีที่ผ่านมา กลุ่มที่พักอาศัยไม่มีวิวทะเลจะอยู่ที่ราคาต่ำกว่า 100,000 บาท/ตร.ม. กลุ่มที่พักอาศัยระดับลักชัวรี่ติดชายหาดมีราคาประมาณ 130,000 บาท/ตร.ม. หรือสูงกว่าและกลุ่ม Super Rare Item ที่หันหน้าเข้าหาวิวทะเลโดยตรงมีราคาเฉลี่ยสูงมากกว่า 275,000 บาท/ตร.ม.
เพราะฉะนั้นราคาขายของ “เวหา” จึงถือว่ามีความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับทำเลที่ตั้ง
นอกจากนี้พราวยังมีหลายธุรกิจในหัวหิน เพราะงั้นลูกบ้านโครงการเลยสามารถใช้สิทธิประโยชน์ในโรงแรมของเค้าได้ครับ อย่างน้องเวหาก็มาพร้อมสิทธิพิเศษเข้าสวนน้ำ วานา นาวา หัวหิน ฟรี 5 ปี และการบริการโรงแรมแบบเหนือระดับ รวมถึงโปรแกรม “พราว พริวิเลจ” ด้วย
กำหนดการเริ่มก่อสร้างช่วงไตรมาส 1/2566 และแพลนจะแล้วเสร็จประมาณไตรมาส 3/2568 ซึ่งพอถึงตอนนั้นเมื่อไหร่ พวกเมกะโปรเจ็คต์ต่างๆ ในหัวหินรวมถึงพื้นที่ข้างเคียงก็น่าจะพร้อมเสร็จสรรพ เรียกว่าเติบโตไปพร้อมกันก็ได้ครับ
Tag :
นี่คือคอนโดที่ใกล้ "ลานชมเมืองภูเก็ต" บนเขารังมากที่สุด ทำให้คุณเห็นวิวเมืองภูเก็ตสวยๆตัดภูเขา ทะเล และท้องฟ้า ได้อย่างเต็มตา
ไม่อยากจะเชื่อว่า คอนโดที่มีค่าตัวเริ่มระดับ 7 หมื่นกลางๆ/ตร.ม. จะให้ สุขภัณฑ์อัตโนมัติ WASHLET (แบบที่ใช้ที่ญี่ปุ่นอ่ะ)
นอกจากทำเลติดถนนพระรามสี่อันโดดเด่นแล้ว ความน่าสนใจของ "The Crown Residences" แห่งนี้ ก็คือ "วิว" ที่หาได้ยากกกมว๊ากกกนี่ละ
เจ้าพ่อทำเลริมถนนเพชรเกษมนี่จะเป็นใครไปไม่ได้แล้วนอกจาก "ชัยพัฒนาที่ดิน"
"Asakan Elysium Phahol 59 Station" (อัสสกาญจน์ อีลิเซียม พหลฯ 59) จาก ASAKAN DEVELOPMENT คอนโดใกล้รถไฟฟ้าสถานีพหลโยธิน 59 เพียง 50 ม. เท่านั้น!!
'So Origin Sukhumvit 105' (โซ ออริจิ้น สุขุมวิท 105) ถ้ารู้สึกว่าชื่อมันฟังดูแล้วคุ้นๆ หูจังแหะ ใช่ครับ มันคือตัวเดียวกับ 'โซ ออริจิ้น ลาซาล' นั่นแหละ เปลี่ยนตัวห้อยท้ายนิดหน่อย (แต่ส่วนตัวแอบชอบชื่อเก่ามากกว่า)
ไหนใครกำลังจะรีไฟแนนซ์กันบ้าง ใครกำลังผ่อนบ้านอยู่เพลิน ๆ นี่ห้ามลืมเด็ดเลยนะ เพราะหนี้บ้านพอพ้น 3 ปีแรก ดอกเบี้ยจะพุ่งขึ้นแบบก้าวกระโดดเลย
วันเพ็ญเดือนสิบสอง น้ำก็นองเต็มตลิ่ง...
ใกล้รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน MRT พระราม 9 ประมาณ 420 ม. เป็นรถไฟฟ้าสายสำคัญวิ่งเป็น Loop เชื่อมกับรถไฟฟ้าสายอื่นมากมาย จะไปไหนก็ง่ายดาย
‘ภูมิสถาปนิค‘ ท่านหนึ่งบอกกับผมว่า “Lanscape โครงการนี้สวยที่สุดเท่าที่เคยเจอมา ไม่มีที่ไหนใกล้เคียงความเป็น ‘สวนแบบ Classic’ ที่เป็น ‘quite luxury’ ได้เท่านี้แล้ว“
เฮ้ย! เนื้อที่ดีมันเป็นแบบนี้นี่เอง 5555
นูเทลล่า ทำมาจากถั่วเฮเซลนัท และ ช็อคโกแล็ต ช็อคโกแล็ตมาจากต้นโกโก้ ถั่ว และ โกโก้ = พืช พืช = ผัก กินผัก = ผอม โอเค กินเมนูนี้ได้แบบไม่รู้สึกผิดแล้ว 5555