ช่วงนี้ผมเริ่มเห็นวงการก่อสร้างบ้านเราเริ่มกลับมาคึกคักกันมากขึ้น เป็นนิมิตหมายอันดีว่าวงการอสังหาก็มีแนวโน้มจะเริ่มฟื้นตัวตามไปด้วยเนอะ
สิ่งที่น่าประหลาดใจอีกอย่างก็คือเดี๋ยวนี้บ้านสไตล์ไทยนิยม (ไม่ใช่บ้านทรงไทยนะ) เริ่มไม่ค่อยได้รับความนิยมเท่าไหร่ คนเริ่มมองหารูปแบบที่แตกต่างออกไปมากขึ้น
ที่โดดเด่นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ก็จะมี Industial Loft และ Modern Loft ด้วยความสวยงามที่ไม่ต้องเยอะ เรียบง่าย แต่โชว์ความเท่ของวัสดุนั่นเอง!
รวมถึง Nordic Style ก็เช่นกัน ถือเป็นอีกสไตล์ที่มาแรงไม่แพ้กัน เพราะมีจุดเด่นผสมผสานระหว่างรูปทรงธรรมชาติ สีธรรมชาติ เพื่อสร้างความอบอุ่น สะอาดตา และผ่อนคลาย
และจากสไตล์ใหม่ ๆ ที่เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นนี้เอง ทำให้โครงสร้างรูปแบบคอนกรีตเสริมเหล็ก (ค.ส.ล.) ที่คนไทยนิยมนั้นเริ่มไม่ตอบโจทย์เท่าไหร่
ไม่ใช่ว่าทำไม่ได้นะ แต่บ้านสไตล์ใหม่ ๆ เหล่านี้ จะมีบางส่วนดึงเอาจุดเด่น และสัจจะของวัสดุออกมาโชว์กันให้เห็น ๆ กันไปเลย ต่างจาก ค.ส.ล. ที่มักจะซ่อนโครงสร้างให้ดูเรียบร้อยนั่นเองครับ
แล้วเค้าใช้โครงสร้างอะไรกันล่ะ?
“โครงสร้างเหล็ก” เป็นหนึ่งในโครงสร้างที่ตอบโจทย์บ้านสไตล์นี้มากเลยล่ะ เพราะปัจจุบันมีทางเลือกที่สามารถใช้เหล็กรูปพรรณสร้างบ้านได้เกือบทั้งหลัง
โดยนำมาเชื่อมต่อกันเป็นเสา คาน โครงรับพื้น โครงหลังคา และโครงผนัง ซึ่งมีให้เลือกหลายรูปร่างหน้าตัด เช่น เหล็ก H-Beam เหล็กท่อ เหล็กรูปตัวซี เหล็กตัวซีรางน้ำ เหล็กฉาก เป็นต้น
ซึ่งจุดเด่นของเหล็กคือ เป็นวัสดุสำเร็จรูปที่ผลิตจากโรงงานมาอยู่แล้ว จึงได้มาตรฐานดีกว่าปูนหรือไม้ อีกทั้งยังประหยัดเวลาการก่อสร้างได้ดีกว่างานคอนกรีตเสริมเหล็กเท่าตัวเลยทีเดียว
และสำหรับการก่อสร้างในไทยโดยใช้โครงสร้างเหล็กนั้น หลายคนอาจจะยังไม่คุ้นชินที่จะโชว์โครงสร้างออกมาให้เห็น กลัวคนมาเห็นแล้วจะคิดว่าบ้านยังไม่เสร็จกันใช่มั้ยล่ะ 5555
วันนี้ผมเลยจะมาเสนอ ไอเดียจุดเด่น ๆ ที่เราสามารถโชว์โครงสร้างเหล็กของเราออกมาได้ แม้จะไม่ใช้โครงสร้างเหล็กทั้งหลังก็ตาม จะมีจุดไหนบ้างไปดูกันเลยครับ
ใช้เป็นโครงสร้างและเสาของตัวบ้าน
"โครงสร้างอาคาร" ไม่ว่าจะเป็นบ้านเป็นตึกหรืออาคารอะไรก็ตาม ถ้าเปรียบกับร่างกายของมนุษย์ เสาและคานก็คือส่วนที่เป็น "โครงกระดูก" นั่นเองครับ
ซึ่งส่วนนี้แหละที่จะเป็นความมั่นคงแข็งแรง เป็นตัวยึดส่วนต่าง ๆ ของบ้านไว้ด้วยกัน ดังนั้นในปัจจุบันเราจะเห็นอาคารใหม่ ๆ เลือกใช้เหล็ก H-Beam มาทำ เสา-คาน กันมากขึ้น
สาเหตุก็เพราะโครงสร้างเหล็กจะมีขนาดเล็กและบางกว่าโครงสร้าง ค.ส.ล. จึงทำให้น้ำหนักโดยรวมเบาลง และทำให้ระบบของฐานรากของอาคารมีขนาดเล็กกว่า และประหยัดกว่า
หรือพูดง่าย ๆ หน่อยก็คือโครงสร้างเหล็กจะมีขนาดเล็กกว่า ทำให้อาคารดูเบา สบายมากกว่า เพราะไม่ต้องก่อฉาบเหมือน ค.ส.ล. นั่นเองครับ
ซึ่งการโชว์โครงสร้างเหล็กภายในบ้านนั้นก็มีข้อดีมากกว่าความสวยงามนะ เพราะอย่าลืมว่าเหล็กเองแม้จะเป็นวัสดุที่แข็งแรง ทนทาน
แต่น้องเองก็ไม่ทนไฟและง่ายต่อการกัดกร่อนตามอายุการใช้งาน การที่โชว์โครงเหล็กจึงเป็นอีกทางนึงที่ช่วยให้เราสามารถดูแลรักษาได้ง่ายขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นการห่อหุ้มวัสดุทนไฟ การทาสีกันสนิม การซ่อมแซม หรือการให้ผู้เชี่ยวชาญเข้ามาตรวจสอบโครงสร้างเมื่อถึงรอบระยะเวลาของอาคารใหญ่ ๆ ก็ตาม
จะว่าไปก็ถือเป็นข้อดี 2 ต่อเลยนะเนี่ย เราสามารถใชว์โครงสร้างสวย ๆ พร้อมกับดูแลรักษาโครงสร้างเหล็กได้ง่าย ๆ ไปพร้อม ๆ กันเลย
ใช้ทำส่วนของคานบันได
อีกจุดที่อาคารสมัยใหม่นิยมใช้โครงสร้างเหล็กก็คือ 'บันได' แปลกแต่จริงนะ หลายคนชอบคิดว่าบันไดเหล็กคงแข็งแรงไม่เทียบเท่าคอนกรีต เพราะดีไซน์ที่ดูเบาบาง
แต่ความจริงไม่เป็นแบบนั้นนะ จริง ๆ แล้วบันไดเหล็กมีประสิทธิการรับน้ำหนักได้ดีไม่แพ้โครงสร้างอื่น ๆ และสามารถออกแบบร่วมกับวัสดุต่าง ๆ ได้อย่างกลมกล่อมด้วย
เพราะการใช้บันไดเหล็กนั้นเราสามารถดีไซน์ได้หลากหลายกว่า ไม่ว่าจะเป็นแม่บันไดเดี่ยว, แม่บันไดคู่, บันไดยื่นลอย หรือแม้แต่บันไดวนก็ตาม
บันไดวนเดี๋ยวนี้เป็นที่นิยมมากนะ ตามคาเฟ่ ตามบ้านที่มีชั้นลอย ใช้กันเยอะเลยเพราะมีเส้นสายโค้งแบบอิสระและปรับดีไซน์ได้อย่างหลากหลาย
ซึ่งไม่ว่าจะเป็นบันไดเหล็กดีไซน์ไหนก็ตาม แม่บันไดที่เลือกใช้สามารถใช้เหล็กเอชบีม (H-Beam) หรือรางน้ำ (C-Channel) แล้วแต่ว่าต้องการดีไซน์ที่เน้นโชว์เส้นสายของเหล็ก หรือเน้นความเรียบเท่ของโครงสร้าง
ส่วนขั้นบันไดสามารถเลือกใช้เป็นเหล็กคัทบีม, เหล็ก C-Channel มายึดติดกับลูกนอนไม้ หรือจะใช้เป็นเหล็กตะแกรงเพิ่มความอินดัสเทรียลมากขึ้นก็ดูเท่ไปอีกแบบ
ส่วนตัวแล้วผมว่า 'บันไดเหล็ก' ถือเป็นอีกส่วนที่ช่วยเติมเสน่ห์ให้กับอาคารได้เยอะเลย เพราะบันไดเองเป็น Space ใหญ่ที่อยู่ในบ้าน
ถ้าเราดีไซน์ให้ดูโปร่งเบาไร้เสา ไม่มีกำแพงทึบตันมาตีกรอบซ่อนไว้ เราก็สามารถนำออกมาโชว์ให้เห็นได้อย่างสวยงามไปอีกแบบครับ
ส่วนเชิงชายและขอบประตูหน้าต่าง
หากเพื่อน ๆ คนไหนชอบบ้านสไตล์โมเดิร์นที่เน้นรายละเอียดแบบอุตสาหกรรม บ้านที่มี "เชิงชายและขอบประตูหน้าต่าง" เป็นเหล็กน่าจะเป็นภาพจำที่ใครหลาย ๆ คนคุ้นตากันอย่างแน่นอน
โดยดีไซน์แบบนี้เราสามารถเลือกใช้ชายคาจบด้วย เหล็กรางแบบ C-Channel หรือจะใช้เป็นเหล็ก H-Beam เลยก็ยังได้ครับ
ชายคาแบบนี้มีข้อดีคือ มีความเรียบร้อยมากเพราะใช้วัสดุอุตสาหกรรมจากโรงงานที่รีดเหล็กออกมา เมื่อมาประกอบเข้าเป็นเชิงชายจะสามารถตรึงให้จันทันแข็งแรงมาก
ที่สำคัญคือ ดีไซน์ที่ได้จะมีความงามแบบเรียบเท่ รับกับบ้านที่ต้องการภาพลักษณ์สมัยใหม่ หากต้องการเส้นที่เรียบบางก็สามารถปรับเป็นเชิงชายแบบเหล็กแผ่นเรียบก็ย่อมได้
โดยวิธีการจบงานของการใช้เชิงชายเหล็กก็คือ การเน้นไปยังการเชื่อมด้านหลังเชิงชายเข้ากับจันทันเพื่อความเนี๊ยบ และการออกแบบส่วนจบมุมเพื่อความเรียบร้อยให้เข้ากับสไตล์บ้าน
ซึ่งเดี๋ยวนี้เชิงชายเหล็กเป็นดีไซน์ที่ได้รับความนิยมมาก จะเห็นได้ว่ามี 'วัสดุทดแทนงานเหล็กตกแต่ง' ออกมาสำหรับคนที่ไม่ได้ใช้โครงสร้างเหล็กจริง ๆ ด้วย
แต่ถ้าใครเลือกใช้เป็นโครงสร้างเหล็กอยู่แล้วการดีไซน์แบบนี้ก็ไม่ใช่เรื่องยากที่ต้องมาตกแต่งภายหลัง เพราะเป็นโครงสร้างหลักของอาคารเราอยู่แล้ว
ข้อดีคือบางอาคารยังสามารถใช้เหล็กนี้เองมาทำเป็นขอบประตูหน้าต่างของอาคารได้ด้วย ช่วยให้ตัวอาคารดูเบาสบายและให้ลุคที่ดู Industrial หน่อย ๆ สวยงามยิ่งขึ้นครับ
ใช้แทนการใช้ไม้ระแนง
ต้องยอมรับกันจริง ๆ แหละว่าเมืองไทยเป็นเมืองร้อน ไม่ว่าจะเดือนไหน ฤดูไหน แดดเมืองไทยก็ร้อนแรงไม่เคยเปลี่ยน 5555
ทางแก้ของใครที่อยากมีพื้นที่ใช้สอยนอกบ้าน แต่ไม่อยากเจอกับแดดโดยตรงก็คือการทำ "ระแนง" เพื่อช่วยในการบังแดดนั่นเอง
ซึ่งการทำระแนงกันแดดนั้นมีข้อดีตรงที่ผนังหรือหลังคาส่วนนั้นจะไม่ได้ปิดทึบไปซะหมด ช่วยอากาศยังคงไหลเวียนได้ดี รับแสง รับลมได้อย่างแฮปปี้ครับ
หรือแม้แต่บางบ้านที่มีสวนกลางบ้าน หรือมีระเบียงปลูกต้นไม้สวย ๆ การทำระแนงเป็นหลังคาส่วนนั้นก็ยังช่วยเพิ่มบรรยากาศดี ๆ เวลาฝนตกลงมาอีกด้วยนะ
แต่อย่าลืมครับว่า "ระแนง" เป็นส่วนของบ้านที่ต้องอยู่ตากแดด ตากฝน ดังนั้นถ้าใช้วัสดุเป็นไม้ก็อาจจะทำให้เกิดการเสื่อมสภาพได้อย่างรวดเร็ว
เดี๋ยวนี้เราจึงมักจะเห็นมีการดีไซน์ระแนงโดยใช้ "เหล็ก" กันมากขึ้น มีให้เลือกใช้ทั้งแบบที่ทาสี หรือแบบที่เป็นลายไม้เลยก็มีนะ
ที่สำคัญอีกอย่างคือ การเลือกใช้เหล็กมาทำเป็นระแนงตกแต่งบ้านนั้นมีราคาถูกกว่าไม้ ติดตั้งก็ง่าย รวมถึงยังดูแลรักษาได้ง่ายกว่าด้วย
อีกทั้งขนาดของชิ้นระแนงเอง สามารถทำให้เล็กและบางลงได้เท่าความหนาของเหล็กเลย ซึ่งอาจทำให้งานออกแบบมีดีเทลที่น่าสนใจ รูปแบบการติดตั้งก็ค่อนข้างยืดหยุ่นได้มาก ๆ ครับ
โครงสร้างเหล็ก โชว์ได้!!!
จะเห็นได้ว่า “เหล็ก” มีความน่าสนใจ เราสามารถนำมาประยุกต์กับการออกแบบได้หลากหลาย และในขณะเดียวกัน ก็มีคุณสมบัติต่างๆ ที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างครอบคลุมด้วย
อย่างที่ผมยกตัวอย่างมาให้ดูกันในบทความนี้ นอกจากเราจะใช้เหล็กมาเป็นโครงสร้างหลักของอาคารได้แล้ว เรายังดีไซน์ให้โครงสร้างเหล็กสามารถโชว์ได้อย่างสวยงามอีกด้วย
เอาเป็นว่าใครที่กำลังวางแผนจะสร้างบ้าน หรือตกแต่งต่อเติมบ้านกันอยู่ ผมก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์และสร้างไอเดียแปลกใหม่ให้กับเพื่อน ๆ ได้นะครับ
ถ้ารู้สึกยังไม่จุใจ หรือไม่รู้ว่าจะเลือกใช้เหล็กชนิดไหนมาเป็นโครงสร้าง มาตกแต่งบ้านดี ก็สามารถทักไปถามที่ Siam Yamato Steel (SYS) ได้เช่นเคยครับ
บอกตามตรงว่าดีไซน์บ้าน ดีไซน์อาคารที่สวยนั้นมันช่วยสบายตา แต่การเลือกใช้เหล็กที่มีคุณภาพจากผู้ผลิตที่มีประสบการณ์นั้นมันช่วยให้สบายใจจริง ๆ
ท้ายนี้... ถ้าใครมีภาพแรงบันดาลใจจากโครงสร้างเหล็กสวย ๆ หรือที่บ้านเองก็ใช้โครงสร้างเหล็กอยู่ ก็ลองมาร่วมแบ่งบันไอเดียให้เพื่อน ๆ ดูกันได้นะ รอดูอยู่น้าาาาา ^^
Tag : โครงสร้างเหล็ก | Siam Yamato Steel | SYS
"LIFE สาทร - นราธิวาส 22"...นี่น่าจะเป็น คอนโด LIFE ที่มีคนสนใจมากที่สุดในปี 2025
"KAVALON" พัฒนาโดย "เจ้าพ่อแคมปัสคอนโด" แห่งยุคอย่าง AssetWise ซึ่งนี่ก็เป็นโครงการที่ 6 แล้ว ในโซน ม.กรุงเทพ รังสิต
สิ่งหนึ่งที่ผมตั้งตารอเวลาไปงานแถลงข่าวต้นปีของ AssetWise ก็คือ "ชื่อ" ของโครงการใหม่ๆในปีนั้นนั่นละครับ ยอมรับเลยว่า เป็น Dev ที่ตั้งชื่อโครงการได้แปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร ไพเราะเสนาะหู ช่างสรรหาจริงๆ 555
ในที่สุดที่ดินตรงหัวมุมพญาไท ต้นซอยรางน้ำ ที่ล้อมรั้วกันที่ไว้นานน๊านนานแล้วก็ลุ้นกันอยู่เป็นปีว่าจะขึ้นโปรเจกต์อะไร สรุปวันนี้ก็ได้ออกหัวออกก้อยแล้วในที่สุดครับ
นาทีนี้จะมีทำเลไหนร้อนแรงเท่า 'พระราม 4' ตั้งแต่การมาของอภิมหาโปรเจกต์ใหญ่อย่าง One Bangkok ก็ดูเหมือนว่า ย่านที่ปังอยู่แล้วตรงนี้ จะยิ่งทวีคูณความปังสุดเข้าไปอีกระดับ
AP ที่เตรียมตัวปักหมุดใกล้ BTS ไปหมาดๆ แต่ต้องบอกว่าปีนี้ AP มาเพื่อบุกย่านอุดมสุข ของแทร่!!
เหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา แม้ว่าจุดศูนย์กลางจะอยู่ที่ประเทศเมียนมาร์ แต่แผ่นดินไหวครั้งนี้ กลับรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนได้ถึงกรุงเทพมหานคร ที่อยู่ห่างจากจุดศูนย์กลางไกลนับพันกิโลเมตร
เมื่อคนซาก็ได้เวลาไปกิน "CHICHA San Chen" ชานมไต้หวันฉบับออริจิ้นเทียบเท่ามิชลิน 3 ดาว!
วันก่อนไปเจอคาเฟ่หนึ่งมาครับ ชื่อร้านว่า Second Cafe Wanglang ไม่ใกล้ไม่ไกล อยู่ตรอกวัดระฆัง ตรงวังหลังนี่เอง
เปิดประสบการณ์ "Pavilion Luncheon Experience" เซ็ตอาหารไทยเบาๆ 4 ที่จากโรงแรม Dusit Thani Bangkok
ใครจะไปอินช่วงเทศกาลเท่า 'คริสปี้ ครีม' ล่าสุดเข้าเดือนเมษายน ก็ส่งโดนัทและเครื่องดื่มแบบไทยๆ 4 รสชาติ ต้อนรับเทศกาลสงกรานต์ กับ Thai Sweet Selection
แผ่นดินไหวที่ผ่านมา.. บ้านหรือคอนโดเพื่อน ๆ ได้รับผลกระทบมากน้อยกันแค่ไหน?