ถ้าใครผ่านไปแถวซอยสุขุมวิท 10 จะพบว่าบริเวณปากซอยที่เคยเป็นที่ดินขนาด 6 ไร่ ตอนนี้ได้ล้อมรั้วและเริ่มทำการก่อสร้างอะไรบางอย่างบนที่ดินผืนนั้นแล้วครับ
ถ้าเหม่อๆ อยู่บนรถไฟฟ้านี่คิดว่าคงมีชะงักกันบ้าง เพราะพื้นที่ก็ถือว่ากว้างทีเดียว และตอนนี้ก็อยู่ระหว่างการปรับพื้นที่ครับ (แต่ช่วงนี้ฝนตกทุกวัน ไซต์มันเลยจะเลอะๆ หน่อย)
หากบอกชื่อไปผมคิดว่าคงมีหลายคนคุ้นหู เพราะที่ดินบริเวณนี้เราเคยรู้จักกันในชื่อ "สวนชูวิทย์" ในตำนาน นั่นเองครับ
ที่ดินตรงนี้เป็นสวนธารณะของคุณชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ตั้งอยู่บริเวณปากซอยสุขุมวิท 10 ก่อนหน้านี้เคยมีต้นไม้สูงหลายต้น ให้ร่มเงาของไม้ใหญ่ ถ้าจำไม่ผิดเคยทำเป็น market เล็กๆ ที่มีพวกบาร์เบียร์อะไรทำนองนี้อยู่พักนึงหรือยังไงนี่แหละ
แต่ที่คิดว่าคงจะจำกันได้คือก่อนหน้านี้เคยมีข่าวว่าแลนด์แอนด์เฮ้าส์เตรียมจะเช่าที่ดินของสวนชูวิทย์เป็นระยะเวลา 30 ปี แต่ไปๆ มาๆ ก็พับแผนไป ผ่านไปไม่นานที่ดินตรงนี้ก็ได้ทำการล้อมรั้วและปรับปรุงหน้าดินใหม่อีกหนเพื่อต้อนรับโปรเจ็คใหม่ที่กำลังจะมา
ผมไปมองๆ มา ถึงได้ทราบว่าที่ดินตรงนี้เตรียมที่จะทำเป็นโครงการมิกซ์ยูส ในชื่อ "10th Avenue" ครับ
ป้ายใหญ่ที่เห็นเลยคือ พัฒนาและบริหารการขายในนาม "DAVIS CORPORATION" ซึ่งก็อยู่ในในเครือกมลวิศิษฎ์นั่นแหละ แต่ไม่แน่ใจว่าร่วมทุนกับเจ้าไหนเพิ่มเติมเหมือนกัน
ความจริงที่ดินทำเลสุขุมวิทตอนต้นแนวรถไฟฟ้า BTS นี่มันร้อนฉ่าอยู่แล้ว เพราะถือได้ว่าเป็นที่ดินทำเลทองคำฝังเพชรหุ้มหยกอะไรประมาณนั้นก็ว่าได้ แล้วตอนนี้หาที่ทางในการพัฒนาโครงการได้ยากละ
ที่ดินของสวนชูวิทย์มันเลยถูกดีเวลลอปเปอร์หลายเจ้ามองกันเยอะ เพราะมันสามารถนำไปพัฒนาต่อได้โดยไม่ต้องใช้วิธีทุบตึกเก่าเพื่อขึ้นโปรเจ็คใหม่
แต่สรุปตอนนี้ก็คือตัวโครงการที่จะขึ้นในที่ดินระดับตำนานผืนนี้น่าจะคงที่แล้วล่ะครับว่าคือโครงการมิกซ์ยูส "10th Avenue" ตัวนี้นี่แหละ
สำหรับ "10th Avenue" ชื่อก็ง่ายๆ เลย มาจากความเป็นสุขุมวิทซอย 10 นะดูแล้ว
พื้นที่ไซต์เรียกได้ว่าเป็นแปลงที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของย่านสุขุมวิทตอนต้น เพราะมีเนื้อที่ 6.13 ไร่ หรือราวๆ 9,812 ตร.ม. พื้นที่รวมทั้งหมดคือ 117,750 ตร.ม. ความสูง 51ชั้น ไม่รวมชั้นใต้ดิน
แผนของเค้าคือเตรียมสร้างเป็นมิกซ์ยูสที่ด้านในมีสำนักงานเกรด A พื้นที่ค้าปลีก โรงแรมระดับ 5 ดาว 200 ห้อง พร้อมสระว่ายน้ำอินฟินิตี้ที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ กับจุดชมวิวที่น่าจะได้รับเสียงตอบรับจากชาวต่างชาติได้แน่ๆ
หลังสร้างเสร็จคงเป็นคอมเพล็กซ์ที่โดดเด่นมากใจกลางย่านธุรกิจและการพักผ่อนของกรุงเทพฯ ครับ เพราะมองเห็นเส้นขอบฟ้าเมืองกรุงและสวนเบญจกิตติได้ ซึ่งตัวหลังนี่พัฒนาให้เป็นป่าที่ใหญ่ที่สุดในใจกลางกรุงเทพฯ เป็นปอดของคนกรุง ถือว่าได้วิวเขียวและวิวเมืองที่ดีทีเดียว
ส่วนการเดินทางนั้นก็สะดวกไปตามเรื่องครับ เพราะอยู่ระหว่างสถานี BTS นานา, BTS อโศก และ MRT สุขุมวิท ตลอดแนวจะมี skywalk เชื่อมเข้าถึงอาคารด้วย แล้วระยะห่างระหว่างสถานีสองสถานีนี้ไม่ไกลกันเลย เดินยังไม่ทันเหนื่อยก็ถึงแล้ว
แต่เพราะว่ามันเป็นทำเลใจกลางเมือง แม้จะสะดวกในแง่ของคนใช้รถไฟฟ้า แต่ถ้าเป็นระยนต์นี่อาจต้องแลกมาด้วยปริมาณรถมหาศาลไปหน่อย เพราะช่วงเวลาเร่งด่วนตรงแยกอโศกนี่ทำคนหงุดหงิดมาแล้วไม่น้อย 5555
ความที่ตั้งอยู่บนถนนเส้นหลักเลยทำให้สามารถเดินทางไปได้หลายเส้นทาง ลัดเลาะไปตามซอยข้างเคียงได้ มีทางด่วนใกล้สุดคือทางด่วนศรีรัชมุ่งหน้าดอนเมืองกับทางด่วนศรีรัชฝั่งมุ่งหน้าอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิครับ
ส่วนความอุดมสมบูรณ์รอบๆ มันมีมากอยู่แล้ว ผมคิดว่าการที่มี "10th Avenue" เข้ามาเสริมทัพน่าจะช่วยทำให้ราคาที่ดินโซนนี้ขยับขึ้นไปอีกเยอะ
รอบๆ เองก็มีตึกสูงเยอะแยะมากมายเป็นทุนเดิมอยู่แล้วครับ ล้วนแล้วแต่เป็นสถานที่ที่บรรดาต่างชาติคุ้นเคยกันทั้งนั้น อย่างพวกโรงแรมชั้นนำระดับ 4-5ดาว ไฮแอทเอย โซฟิเทลเอย
แถมตรงนี้ยังสามารถเดินต่อไปทางโรบินสัน สุขุมวิท, เทอมินอล 21 ได้สบายอีกด้วยนะ หรือพวกร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อต่างๆ เรียกได้ว่าแถวนี้เยอะมากกก เพราะเป็นพื้นที่ที่มีคนต่างชาติเยอะ และคนทำงานก็แยะ เดินไปเจอแต่ของกินจริงๆ
คอนโดแบรนด์ดังทั้งหลายในย่านนี้ก็เป็นแบรนด์ที่เราคุ้นหน้าคุ้นตากันทั้งนั้นครับ ทั้งของแสนสิริหรือคุณพี่อนันดา ยิ่งเข้าซอยไปก็ยิ่งเจอเยอะ แต่ตัวใหม่ๆ อาจไม่ได้มากขนาดนั้นแล้วเพราะที่เหลือน้อยเต็มที
ผมเห็นว่าตอนนี้โครงการเริ่มก่อสร้างแล้วอย่างขันแข็งเลย ตามกำหนดเดิมของเค้าคือใช้เวลาสร้างประมาณ 4 ปีนับจากปี 2565 ออกแบบโดยเจ้าดังอย่าง Palmer & Turner ซึ่งดีไซน์โดยรวมดูทันสมัยดีนะ
แต่ถึงอย่างนั้นออกจะค่อนข้างเสียดายต้นไม้นิดหน่อย เพราะเดิมทีมันมีต้นไม้ใหญ่อยู่ด้านในไม่น้อยเลย แม้จากที่เห็นคือจะยังให้ความสำคัญกับพื้นที่สีเขียวในส่วนของด้านหน้าโครงการก็เถอะ แต่ต้นไม้เก่าที่เคยยืนต้นอยู่ตอนนี้ก็คือโบกมือบ๊ายบายไปหมดแล้ว
Tag :
“ได้วิวแม่น้ำ สวยขนาดนี้เลยรึนี่?!“ เป็นความรู้สึกของผมตอนที่ขึ้นไปชั้น 38 วิวสวยแบบไม่มีอะไรมาบดบังเลย มีมุมที่เห็นสวนเบญจกิติด้วย
สำหรับผมแล้ว BTS สถานี "ห้าแยกลาดพร้าว" เป็น สถานี Interchange กับ MRT ที่ผมชอบที่สุด และมักจะเป็นทำเลที่ผมแนะนำ ให้คนมาอยู่อาศัยมากที่สุดอันดับต้นๆเลย
มีความท้าทายเล็กๆ กับการเปลี่ยนอดีต ’สถานทูตออสเตรเลีย‘ ให้กลายมาเป็น ‘Luxury Condo’ และ ’Mixed-Use’ ระดับ ’iconic’ ริม ’ถนนสาทร‘
'เกือบหลับ แต่กลับมาได้' จะมีโครงการไหนกันเชียวที่จะเหมาะกับคำนี้ ถ้าไม่ใช่ 'Hyde Riverbay Charoennakorn' (ไฮด์ ริเวอร์เบย์ เจริญนคร)
โครงการใหม่ของ Major ที่แน่มาก แกร่งมาก เพราะไม่หวั่นไหวกับการต้องถูกขนาบข้างโดย Sansiri แบบรั้วชนรั้วเลย!
'dcondo calm Ramkhamhaeng 40' (ดีคอนโด คาล์ม รามคําแหง 40) ก็เป็นอีกโครงการที่ผมบอกเลยว่า คุณจะลืมภาพจำของแบรนด์ดีคอนโดแบบเดิมๆ ไปแทบหมดสิ้น เพราะโครงการนี้ เค้าอยู่ใกล้รถไฟฟ้าถึง 2 สาย ทั้งสายสีส้มและสายสีเหลือง!!!
ไหนใครกำลังจะรีไฟแนนซ์กันบ้าง ใครกำลังผ่อนบ้านอยู่เพลิน ๆ นี่ห้ามลืมเด็ดเลยนะ เพราะหนี้บ้านพอพ้น 3 ปีแรก ดอกเบี้ยจะพุ่งขึ้นแบบก้าวกระโดดเลย
ขออวดว่าผมได้รีวิวหนังสือเล่มนี้ก่อนหนหน้านี้แล้วด้วยนะ อิอิ แต่ที่จริงผมไม่ได้ตั้งใจรีวิวหรอก แต่เป็นคนอ่านหนังสือแล้วชอบ ‘Short Note’ ประโยคดีๆ คมๆ เก็บไว้ แต่ปรากฏว่ามันโดนบาดเยอะมาก จนสามารถเอามาลงในเพจได้เลย
ช่วงนี้ผมชอบเข้าไปดูงานออกแบบของ Foster + Partners บ่อยสุดๆ คือรู้สึกได้เลยว่าเราอินกับสไตล์การออกแบบของเค้ามากๆ ซึ่งถ้าใครไม่รู้ว่าเค้าคือใคร Foster + Partners คือบริษัทที่ออกแบบ Apple Store ตรงเซ็นทรัลเวิลด์ นั่นแหละครับ น่าจะพออ๋อกันขึ้นมาบ้างเนอะ
ยุคนี้ใครเค้าเที่ยวต่างประเทศกัน คนรวยเค้าเที่ยวนอกโลกครับ!
Apple Store นี่ไม่ว่าจะไปเปิดสาขาที่ไหน ก็สามารถกลายเป็นแลนด์มาร์คของที่นั้นๆ ได้ตลอด ล่าสุดเค้าเพิ่งเปิดสาขาใหม่ที่ประเทศมาเลเซีย ไปหมาดๆ เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน ที่ผ่านมานี่เอง ซึ่งนี่เป็นสาขาแรกของมาเลเซีย
เดือน 7 กำลังจะผ่านพ้นอีกแล้วนะครับ ตอนนี้อากาศกำลังชุ่มฉ่ำแบบสุด ๆ ไปเลย ซึ่งหลายเดือนที่ผ่านมามีสัญญาณว่าดอกเบี้ยแบบคงที่เริ่มกลับมาแล้วนะ