ช่วงนี้เห็นคนบ่นเรื่องค่าไฟกันเยอะว่าทำไมมัน 'แพงขึ้น' ทั้ง ๆ ที่ส่วนใหญ่ก็ใช้ไฟเท่าเดิม ไม่ได้ร้อนจนเปิดแอร์ทั้งวัน หรือน้ำท่วมจนเปิดเครื่องสูบน้ำทั้งคืนซะหน่อย 555
ซึ่งความจริงที่ค่าไฟมันขึ้นก็เพราะ กกพ. เค้าประกาศปรับ ‘ค่า Ft’ ของงวดเดือนกันยายน-ธันวาคม ปี 2565 ขึ้นเป็น 93.43 สตางค์/หน่วย จากเดิม 24.77 สตางค์/หน่วย
มองเป็นหน่วยสตางค์ดูเหมือนจะน้อยใช่มั้ยครับ แต่ถ้าดูดี ๆ มันเพิ่มขึ้นจากเดิมเกือบ 4 เท่าเลยนะ ตีกลม ๆ ว่าจากเดิมจ่ายค่า Ft หน่วยละสลึงแต่จะกลายเป็นหน่วยละบาท!!!
พอนำไปบวกกับค่าบริการส่วนอื่น ๆ ที่เพิ่มเติมเข้ามา ไม่ว่าจะค่าพลังงานไฟฟ้า ค่าบริการ ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7 เปอร์เซ็นต์ ก็ยิ่งส่งผลให้ค่าไฟไม่เท่าเดิม
ดังนั้นไม่ว่าแต่ละครัวเรือนจะใช้ไฟฟ้าในปริมาณเท่าเดิมหรือน้อยลง พอค่า Ft ขึ้นสูงขึ้น พวกเราก็อาจต้องแบกรับค่าไฟฟ้าที่เพิ่มมากขึ้นอยู่ดี
ก็เข้าใจและว่าถ้าทางการเค้ากำหนดให้ขึ้น เราชาวบ้านก็ต้องยอมรับสภาพกันไป แต่ในใจมันก็แอบสงสัยว่าจริง ๆ แล้วค่า Ft นี่มันคืออะไรกันนะ
ค่าftตัวร้ายพาค่าไฟเพิ่ม
มารู้จักวายรายตัวนี้กันครับ ‘ค่า Ft’ หรือ ‘ค่าไฟฟ้าผันแปร’ แต่แรกเดิมทีย่อมาจาก ‘Float time’ ใช้อธิบายการลอยค่าของต้นทุนการผลิตไฟฟ้าที่ไม่สามารถควบคุมได้
ซึ่งต้นทุนการผลิตไฟฟ้านั้นก็มีหลายปัจจัยมากกว่าที่เราคิดนะครับ ไม่ว่าจะเป็นราคาเชื้อเพลิง, อัตราเงินเฟ้อ และอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ฯลฯ
แต่หลังจากเดือนตุลาคม ปี 2548 เป็นต้นมา ได้มีการเปลี่ยนแปลงปัจจัยที่ใช้ในการคำนวณสูตร Ft ให้คงเหลือเพียงต้นทุนค่าเชื้อเพลิงที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้า
และค่าซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตเอกชนและประเทศเพื่อนบ้านที่ กฟผ. ไม่สามารถควบคุมได้ ทำให้ปัจจุบันค่า Ft ย่อมาจากคำว่า ‘Fuel Adjustment Charge (at the given time)’ แทนครับ
เพราะงั้นการที่ภาวะเศรษฐกิจผันแปร ต้นทุนการผลิตไฟฟ้าเพิ่ม ก็อาจทำให้ค่าไฟฟ้าที่ต้องซื้อจากเอกชนเพิ่มไปด้วย กกพ. เลยต้องเพิ่มค่า Ft เพื่อมาชดเชยในส่วนนี้
คอยสร้างความสมดุลให้กับผู้ใช้ไฟฟ้า และผลตอบแทนที่เหมาะสมของของผู้ประกอบการผลิตไฟฟ้า ส่งผลให้ค่า Ft มีการปรับปรุงตามสถานการณ์ทุก ๆ 4 เดือน
ค่า Ft ปรับขึ้นเกือบ 4 เท่า
อ่านดูแล้วก็พอเข้าใจการปรับค่า Ft ได้อยู่ แต่ที่สงสัยก็คือทำไมครั้งนี้มันปรับขึ้นเยอะจัง จาก 24.77 สตางค์/หน่วย เป็น 93.43 สตางค์/หน่วย
บวกลบดูแล้วจะเห็นได้ว่าซึ่งขยับขึ้นถึง 68.66 สตางค์/หน่วย คิดเป็น 377 เปอร์เซ็นต์ หรือเกือบ 4 เท่า ทั้งที่ปกติเพิ่มแค่ 10 – 20 สตางค์/หน่วย
ซึ่งทาง กกพ. เค้าก็บอกนะว่าที่ต้องปรับก็เพราะต้นทุนการผลิตมันเพิ่มขึ้นจริง ๆ เชื้อเพลิงที่ใช้ผลิตในไฟฟ้าในประเทศก็ลดลง
พอจะนำเขาเชื้อเพลิงจากเพื่อนบ้านและช่องทางอื่น ๆ ก็มีราคาแพงขึ้น เพราะต้นทุนในการผลิตเค้าก็เพิ่มขึ้นเหมือนกัน (น่าจะเพราะสงครามด้วยส่วนหนึ่ง)
เห็นว่าจริง ๆ แล้วต้นทุนมันสูงขึ้นมาตั้งแต่ต้นปีละ แต่เค้าก็ยังตรึงค่า Ft ในช่วงเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม ไว้ที่ 24.77 สตางค์/หน่วย
พอถึงเวลาปรับรอบไหมบวกกับการแบกรับต้นทุนต่อไปไม่ไหว รอบนี้เลยมีการปรับค่า Ft แบบก้าวกระโดดที่พาเราสดุ้งกันทั้งเมืองกรุงนี่เองครับ
ยิ่งใช้น้อยยิ่งลดเยอะเพราะรัฐช่วย
พอเห็นว่าค่าไฟก้าวกระโดดแบบตั้งตัวไม่ทันกันทั้งเมืองแบบนี้ ทางรัฐก็เลยต้องออกมาตรการมาช่วยเชื่อให้เรามีเวลาปรับตัวกันอีสักหน่อยครับ
โดยจะมุุ่งเน้นนโยบายช่วยเหลือไปที่ผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัย ที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 500 หน่วยต่อเดือน ในรอบค่าไปประจำเดือนกันยายน-ธันวาคม โดยแบ่งเป็น 4 กรณี ดังนี้
เห็นแบบนี้แล้วก็พอจะคลายใจกันไปได้อยู่เนอะ ทีนี้ก็มาหนักใจตรงที่ต้องมาใช้ไฟให้ไม่เกินโควต้าเพื่อที่จะได้ส่วนลดเยอะ ๆ นี่แหละ 5555
ส่วนตัวแล้วผมว่าก็เป็นการฝึกให้พวกเราใช้ไฟฟ้ากันอย่างประหยัดดีนะ เพราะถ้าเราฝึกควบคุมใช้น้อยตั้งแต่ตอนนี้ก็น่าจะชินไปถึงอนาคตด้วย
ใครจะไปรู้ล่ะเนอะ... รอบการปรับค่า Ft ครั้งหน้าอาจจะเพิ่มขึ้นหรือลดลงก็ได้ แล้วนโยบายรัฐที่ช่วยลดค่า Ft นี้ก็ไม่รู้จะมีในรอบหน้าด้วยหรือเปล่า
เอาเป็นว่าถ้าเราใช้น้อยอยู่แล้ว และใช้น้อยอย่างนี้ต่อไปเรื่อย ๆ ถ้าอนาคตมีการปรับเปลี่ยนค่าไฟไปจากเดิม เราก็น่าจะสบายตัวไม่สดุ้งเมื่อเห็นบิลค่าไฟมากันอย่างแน่นอนครับ อิอิ
SOURCES :
ผมคิดว่าทำเล ‘พัฒนาการ’ = ‘ทองหล่อ-เอกมัย แบบ eco’ อ่านเสร็จอย่าเพิ่งด่ากัน ขออธิบาย
ทุกครั้ง หลังไปดูโครงการของ "Assetwise" แถวมหาวิทยาลัย สิ่งหนึ่ง ที่เหมือนผมได้รับกลับมาคือ "พลังชีวิต"
หลังจากที่ "Flexi สาทร-เจริญนคร เฟส 1" มีผลตอบรับที่ดีมาพอสมควร ตอนนี้ ทาง "Sena Development" ก็ได้ฤกษ์ เตรียมปล่อย "Flexi สาทร-เจริญนคร เฟส 2" มาให้ได้จับจองกันแล้วนะครับ
มีใครรอรถไฟฟ้าสายสีส้มกันอยู่บ้างเอ่ย? ล่าสุดมีโครงการใหม่แกะกล่องจากออริจิ้นฯ ราคาน่ารักน่าคบหา ใกล้รถไฟฟ้าสายสีส้ม งานนี้แอบกระซิบว่าถ้าคุณเป็นทาสหมา ทาสแมว ต้องหยุดอ่านโดยด่วน กับ "Origin Place รามคำแหง 153"
รถไฟฟ้าสายสีชมพู เป็นหนึ่งในสายที่หลายคนคงตั้งตารอมากที่สุด ด้วยความที่สายสีชมพูใกล้เปิดให้บริการเต็มแก่เลยเริ่มมี 'คอนโด' ผุดขึ้นมาเป็นระยะๆ ตัวผมแอบไปดูทำเลโครงการใหม่มาหนึ่งตัวด้วยแหละ ฮิฮิ โครงการนี้ไม่ใช่ของใครอื่นไกลเป็น 'พี่แอล' (LPN) ของเรานี่แหละ คอนโด 'พาร์ค 168 นพรัตน์-รามอินทรา' แบรนด์คอนโดที่มาพร้อมเลขนำโชค
หลังจากเมื่อปีกลายออริจิ้นขึ้นแท่นเจ้าอสังหาฯ ที่เปิดตัวโครงการคอนโดเยอะที่สุด ปีนี้ผมแอบคิดว่าพี่อัศวินคงเพลาๆ ลงแล้วแหละ แต่เปล่าเลย ล่าสุดแง้มโครงการใหม่ปักหมุดย่าน 'ปิ่นเกล้า' มาอีกหนึ่งโครงการที่รอเปิดตัวอย่างโครงการ 'The Origin Pinklao' (ดิ ออริจิ้น ปิ่นเกล้า) คอนโดเลี้ยงสัตว์ได้ เอาใจทาส Gen Z
เป็นโปรเจกต์แลนด์มาร์กใหม่จากทาง "โรงแรมนารายณ์" ที่เห็นรูปแล้วต้องอุทานออกมาเลยว่า "นี่มันบ้าไปแล้ว!"
ช่วงนี้เพื่อนผมหลายคนเพิ่งเสียภาษาที่ดินกันไป แต่ก็มีอีกหลายคนเลยที่ทักมาสอบถามว่าอยากจะหาที่ดินใหม่ไปครอบครอง
ใคร ๆ ก็มักอยากจะมี Passive Income กันเป็นธรรมดาอยู่แล้ว ซึ่งหนึ่งในรูปแบบการลงทุนที่ได้รับความนิยม และมีความปลอดภัยสูงนั่นก็คือการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์นั่นเอง
เมื่อวันก่อนเห็นหลายๆ น้องๆ ว่าที่เฟรชชี่หลายคนลุ้นผล TCAS กันจนเกร็งเลย ยังไงก็ยินดีกับน้องๆ เด็ก 66 ทุกคนด้วยนะครับ ส่วนใครที่พลาดรอบนี้ก็ไม่เป็นไรนะ!! พอขึ้นมหาลัยแล้ว มันก็ได้ทำอะไรใหม่ๆ เยอะเนอะ อย่างเช่นการไปใช้ชีวิตเป็นเด็กหอกันครั้งแรก!! วันนี้เลยขอบิ้วอารมณ์ว่าที่เฟรชชี่ที่กำลังจะได้ไปอยู่หอทั้งหลาย ด้วยการมัดรวมหอพักสุดเจ๋งทั่วโลกต้อนรับเปิดเทอมใหม่!!
ได้ข่าวคราวมาสักพักแล้วว่า สตรีมมิงยักษ์ใหญ่ "Netflix" จะยกเลิกการหารบัญชี และก่อนหน้านี้ก็มีการทดสอบไปในบางประเทศแล้ว ล่าสุดพี่ไทยก็ไม่รอด
ครั้งแรกที่เห็นภาพโครงการนี้ออกมา ผมคิดในใจว่า 'แล้วจะรอดจากยุงหรอ' โครงการนี้มาจากประเทศจีนครับ ชื่อว่า "Liuzhou Forest City" จากประเทศจีนครับ แต่ก่อนหน้านี้ผมเคยเห็นอาคาร 'ป่าแนวตั้ง' แบบนี้มาก่อนแล้วกับโครงการ 'Qiyi City Forest Garden' ซึ่งอันนี้เค้านี้สร้างเสร็จ มีการเข้าอยู่ไปแล้วและพบปัญหาแบบที่ผมบอกเลย คือ 'ยุง'