เชื่อว่าหลายๆคน คงได้เริ่มรู้จักกับคอนโดใหม่ Notting Hill จตุจักร ที่ทาง Origin ได้พยายามเร่งคลอดก่อนกำหนดกันแล้วนะครับ
ก็เพราะปรากฎการณ์ 1 Day Sold Out ของทาง Knightbridge prime สาทร นี่ละครับ
ทำให้ทาง Origin เลยคลอดโครงการใหม่ออกมาเร็วขึ้น
สงสัยกลัวเซลว่างงานใช่ไหมครับ 555
ทันทีที่ผมได้ลงข่าวโครงการนี้ ปรากฎว่า
มีคนสอบถามกันเข้ามามากทีเดียว
อยู่ที่ไหน อย่างไร ราคาเท่าไหร่?
เอาเป็นว่า มาอ่านกันในนี้ละกันนะครับ พิมพ์ตอบกันเมื่อยนิ้วทีเดียว
จนภรรยาแอบถาม "คุยกะใคร กิ๊กเหรอ?" 555
เกือบต้องนอนนอกห้องแล้วเชียว
กลับมาเข้าเรื่องกันดีกว่า
โดยปกติแล้ว ผมจะชอบการออกแบบของทาง Origin นะ
ชอบมาตั้งแต่สมัยโครงการแรกๆของเขาแล้ว
ดูมันมีการออกแบบฟังก์ชั่นห้องแปลกดี ดูน่าใช้งาน
ตัวตึกโครงการ ก็จัดว่าหล่ออยู่
ซึ่งก็เป็นแบบนี้มาแทบทุกโครงการ
กับโครงการ Notting Hill จตุจักร เองก็เช่นกัน
Notting Hill จตุจักร เป็นโครงการ Low rise 8 ชั้น 156 ยูนิตเท่านั้น บนเนื้อที่ 1 ไร่นิดๆ
ที่จอดรถประมาณ 50 % รวมซ้อนคันแล้ว
ก็ถือว่าไม่น้อยนะครับ เมื่อเทียบกับคอนโดในระดับใกล้เคียงกัน
ต้องจัดสรรกันให้ดีหน่อย เวลาใช้งานจริง
ผมสังเกตว่า เมื่อช่วง 2-4 ปีที่แล้ว ที่จอดรถเริ่มลดลงเรื่อยๆ จนไปแตะหลัก 2-30 % กันแล้ว
การใช้งานจริงค่อนข้างเหนื่อยเลยละ ต่อให้ใกล้รถไฟฟ้ามากก็เถอะ
แต่มาในช่วง 1-2 ปีนี้ ที่จอดรถก็เริ่มกลับมาอยู่แถวๆ 40% กัน
ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีสำหรับพวกเราละเนอะ
ที่ตั้งของโครงการ จะอยู่ในซอยพหลโยธิน 18 นะครับ
เดินเข้าซอยไป 100 ม.นิดๆ
ด้านหลังโครงการ อยู่ติดกับโครงการ M จตุจักรเลย
ตอนเลือกห้องก็คงต้องดูนิดหนึ่ง
เรื่องวิวก็คงโดนบังค่อนข้างแน่ ก็ชดเชยด้วยการเอาสระว่ายน้ำมาเป็นวิวแทน
เป็นธรรมเนียมไปแล้วละครับ กับการเอาสระมาอยู่ฝั่งที่อาจจะเรียกได้ว่า วิวแย่ที่สุด
เป็นกันแทบทุกโครงการ
ซอยนี้สามารถทะลุไปออก วิภาวดีรังสิต ได้ด้วยนะครับ
ทางด่วนก็ไม่ไกล ทะลุไปออกวิภาวดีก็ขึ้นได้
ถ้าเข้าโซนเมือง ก็สามารถไปขึ้นทางด่วนพิเศษศรีรัชตรง ถ.กำแพงเพชร ได้
เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับคนที่ใช้รถส่วนตัว
ระยะห่างจากรถไฟฟ้า
ที่ใกล้ที่สุดก็เป็น MRT สถานีกำแพงเพชรครับ ประมาณ 400 ม.
ระยะถือว่าไม่ไกลเท่าไร พอเดินได้ แต่อาจจะลำบากนิดหน่อยตรงต้องข้ามถนน
นอกจาก MRT แล้ว โครงการยังใกล้ BTS ด้วย
โดยห่างจาก BTS สถานีสะพานควาย ประมาณ 500 ม. และห่างจาก สถานีหมอชิต ที่ประมาณ 600 ม.
เป็นระยะที่ยังพอเดินได้ทั้งคู่ครับ
ชอบตรงไหนไปตรงนั้น
สำหรับเรื่องของปากท้อง
หากินง่ายอยู่แล้วครับ เดินไปสะพานควายหรือจตุจักร ก็มีแหล่งกินแหล่งช้อปสบายๆ
7-eleven ก็อยู่แถวๆสถานีรถไฟฟ้า กลับบ้านก็แวะซื้อได้เลย
ของกินในซอย ก็พอมีอยู่บ้างครับ
การหาซื้อของใช้ ก็ไม่ลำบาก มีห้างและมอลล์เล็กๆแทรกตัวอยู่เป็นระยะ
ไม่ว่าจะเป็น Central ลาดพร้าว , Lotus , Union mall และอื่นๆอีก
ถือว่ามีความสะดวกในการใช้ชีวิตประจำวันไม่น้อยเลย
ในเรื่องของทำเลโดยรวม เชื่อว่าหลายคนคงจะพอทราบอยู่บ้างนะครับว่าเป็นอย่างไร
ผมคงไม่เขียนถึงมาก จะพาลเบื่อกันซะ
โซนสะพานควาย จตุจักร
เดิมที ก็จัดว่าเป็นโซนที่มีคนหนาแน่นอยู่แล้ว ไม่ว่าทั้งอยู่อาศัยและทำงาน
มอลล์เล็กๆก็มีแทรกตัวเป็นระยะ
รถติดไม่แพ้ที่อื่นเลยละ
แล้วยิ่งในอนาคต จะมีความเจริญยิ่งขึ้นไปอีก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการเป็นสถานีกลางบางซื่อที่ไปได้ทุกภาค จากรถไฟความเร็วสูง
อีกทั้งรถไฟฟ้าหลากสี ที่พยายามมาเชื่อมที่นี่
ทำให้มีความคาดหวังกับที่นี่กันค่อนข้างมากครับ
ซึ่งก็คงต้องมารอดูกัน ว่าจะ"ปัง"แค่ไหน
กลับมาที่ตัวโครงการกันต่อ
โครงการ Notting Hill จตุจักร มียูนิตทั้งหมด 156 ยูนิต
แบบที่มีเยอะที่สุดคือ ห้อง 1 Bed plus ขนาด 34-34.9 ตร.ม. 107 ยูนิต
ที่นี่ไม่มีแบบ studio นะครับ
โดยนอกจากแบบ 1 Bed plus แล้วก็มีแบบ 1 Bed ขนาด 24.5-26 ตร.ม. 14 ยูนิต
1 Bed ขนาด 30-33 ตร.ม. 21 ยูนิต และแบบ 2 Bed ขนาด 45.5-52.4 ตร.ม. 14 ยูนิตครับ
สาเหตุที่ 1 Bed plus มีจำนวนเยอะที่สุด
เพราะกลุ่มเป้าหมายแถวนั้น มีกำลังซื้อประมาณนี้เยอะ
ไม่ว่าจะเป็นพนักงานออฟฟิศ หรือ พ่อค้าแม่ขาย ตามห้าง มอลล์ ตลาด
ผมว่า ขนาด 34-35 ตร.ม. ในยุคนี้สามารถอยู่กันได้สบาย 1-2 คน
อาจจะเป็นครอบครัวที่มีลูกสัก 1 คนก็ยังได้
เพราะห้องแบบ 1 Bed Plus จะมีห้องเล็ก 1 ห้องไว้ให้เราเอาไปดัดแปลงได้ตามใจชอบอยู่แล้ว
ผมค่อนข้างชอบห้องแบบนี้นะ มันอเนกประสงค์ดี
และด้วยราคาค่าตัวราวๆ 3-4 ล้านบาท ถือว่าเป็นระดับที่จับต้องได้ครับ
ผมจึงมีความรู้สึกว่า ที่นี่น่าจะขายดี เพราะขายของตรงกับตลาด
แต่ถึงขนาดหมดเลยอย่างรวดเร็วไหม? ผมยังไม่แน่ใจ
ในแง่ของการลงทุน
คงไม่ต้องไปเปรียบเทียบอะไรมาก ที่ใกล้ๆตัวเลยก็คือ M จตุจักร และ Life พหล 18
เอาที่ M กันก่อน
M เปิดขายไปได้เกือบ 2 ปี ราคาเปิดเริ่มต้นประมาณ 130k บาท/ตร.ม.
ห้องขนาด 35 ตร.ม. จะอยู่แถวๆ 5 ล้านบาท
ผมว่าออกจะแพงไปหน่อย ราคาแบบนี้พอกับไปซื้อรีเซลคอนโดติดรถไฟฟ้าเลยแหะ
จึงไม่แปลกใจเท่าไร ที่ยอดขายจะไปแบบเรื่อยๆ
ส่วน Life นั้นสร้างเสร็จมาระยะแล้ว ถ้าผมจำไม่ผิด ไม่น่าต่ำกว่า 6-7 ปี
เป็น Low rise เหมือนกัน น่าจะเอามาเปรียบได้ดี
ราคานั้นมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทุกวันนี้ราคาก็ขึ้นมาราวๆ 50% ตกปีละ 6-8%
ถือว่าใช้ได้อยู่
อัตราค่าเช่าจะอยู่ที่ 13-15,000 สำหรับห้องขนาด 30-40 ตร.ม.
ใครมีมือแรกอยู่ ก็ถือว่ามีเรทค่าเช่าที่ใช้ได้
ราคาขายต่อตอนนี้ จะอยู่ที่ประมาณ 9 หมื่นบาท/ตร.ม.
เพราะฉะนั้น ในแง่ราคา ผมถือว่า Notting Hill จตุจักร ตั้งราคามาได้ดี
ตั้งราคามาต่อกับ Life เลย คนมี Life น่าจะเครียดได้เลยนะ
ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการประมาณ 115K/ตร.ม.
ห่างจาก M แค่ไม่กี่เมตร แต่ราคาต่างกัน ร่วม 30k/ตร.ม.
ผมว่าต่างกันเยอะนะ ถึงแม้ M จะดูหรูหรากว่าก็เถอะ
มาลองดูการปล่อยเช่า
Life สามารถปล่อยได้ที่ 13-15,000 /เดือน
จึงสามารถคาดได้ว่า Notting Hill ก็น่าจะได้ค่าเช่าที่ไม่น้อยไปกว่า
สมมติว่า ห้องขนาด 34 ตร.ม. ราคา 3.6 ล้านบาท
การที่จะได้ค่าเช่าประมาณ 18,000 บาท/เดือน สำหรับยิลด์ 6 % อาจจะเป็นเรื่องที่ลำบากหน่อย
เพราะฉะนั้น ผมคาดว่า ยิล์ที่ได้น่าจะอยู่ที่ประมาณ 5% ครับ
ก็ปกติของคอนโดสมัยนี้นะ
ถ้ารับได้กับผลตอบแทนประมาณนี้ ก็สามารถซื้อมาปล่อยเช่าได้ครับ
สรปตามสไตล์คอนโดติดดอย
สำหรับการอยู่เอง เหมาะกับคนที่ทำงานแถวนั้นมากครับ ด้วยราคาที่ถือว่าจับต้องได้ และมีความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตประจำวันอยู่พอควร ใกล้กับรถไฟฟ้าหลายสายด้วย
สำหรับการเล่นสั้น ช่วงนี้การทำกำไรระยะสั้น ผมว่าเสี่ยงแทบทุกโครงการ จึงไม่อยากแนะเท่าไร แต่ด้วยราคาที่ไม่แพงเท่าไร ก็พอเล่นได้ครับ แต่คุณต้องเป็นคนที่ขายเป็นเท่านั้นนะ
สำหรับการปล่อยเช่า สำหรับค่าเช่าระดับ 18,000 บาท เหนื่อยหน่อย แต่ผมว่าพอมีโอกาสไปถึงได้นะ การหาคนเช่าไม่ยาก แต่ผลตอบแทนอาจจะไม่สูงนัก Yield 4-5% ถ้ารับได้ ก็จัดไป
สำหรับการเล่นระยะยาว ทำเลตรงนี้ ผมว่าราคาไปได้เรื่อยนะๆ ถ้าคุณไม่รีบร้อนจะขาย ผมว่าสามารถทำกำไรเป็นที่น่าพอใจได้เหมือนกันครับ
Notting Hill จตุจักร เป็นคอนโดที่ทำเลใช้ได้ ราคาสมเหตุสมผล เหมาะกับซื้ออยู่เอง ผลตอบแทนจากการปล่อยเช่าต้องยอมรับยิลด์ที่น้อยหน่อย หาคนเช่าไม่ใช่ปัญหา ไม่เหมาะกับเล่นสั้นเท่าไร เก็บยาวมีเป๋าตุงได้ครับ
สำหรับผู่ที่สนใจ คลิกลงทะเบียนที่ลิงค์ข้างล่างได้เลยจ้า
นึกถึงลงทุนคอนโด นึกถึงคอนโดติดดอย ^0^