ผมเชื่อว่าเราทุกคนต่างเคยได้ยินกันมาแล้วว่า “สักวันน้ำจะท่วมโลก” ถ้าท่วมจริงแล้วเราจะอยู่ยังไงกันดีล่ะ?
คำถามนั้นเราต่างหาคำตอบกันมาตลอดครับ เช่นเดียวกับ ‘MAST’ สตูสถาปัตยกรรมแห่งหนึ่งในเดนมาร์กที่มองเห็นว่าเราสามารถอาศัยอยู่บนน้ำได้!!
เลยเป็นที่มีของโปรเจกต์ “Land on Water” หรือระบบสิ่งปลูกสร้างที่ลอยอยู่บนผิวน้ำ ที่มีความยืดหยุ่นสูง เคลื่อนย้ายปรับเปลี่ยนขยับขยายได้
และที่พิเศษกว่านั้นคือเป็นระบบที่ช่วยสร้างความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมในอนาคตด้วย หมายความว่าไม่จำเป็นต้องรอน้ำท่วมจริงก็สามารถใช้ระบบนี้ได้
ระบบสิ่งปลูกสร้างลอยน้ำ
ถ้ามองย้อนกลับมาดูวิถีชีวิตบ้านเรา จะเห็นได้ว่าแต่เดิมก็มีการใช้ชีวิตอยู่บนน้ำมาบ้าง ไม่ว่าจะเป็นเรือ เป็นแพ เช่นเดียวกันครับ ฝั่งต่างชาิเค้าก็มีรูปแบบคล้าย ๆ กัน
แต่เค้านำมาต่อยอดด้วยการผสมผสานกับแรงบันดาลใจจากเกเบียน (Gabion) ซึ่งเป็นวิะีหนึ่งในอุตสากรรมการต่อสร้าง ที่มีลักษณะเป็นโครงตาข่ายที่ช่วยสร้างฐานรากที่แข็งแรงและต้นทุนต่ำ
ซึ่ง MAST ก็นำไอเดียนี้มาปรับใช้กับวัสดุพลาสติกเสริมแรงที่หาได้ในท้องถิ่น เช่น ทุ่นจากอุตสาหกรรมประมง ขวดหรือภาชนะพลาสติกเก่า และอื่นๆ มารีไซเคิลสร้างเป็น ‘ฐาน’
โดยออกแบบให้เป็นชิ้นส่วนที่สามารถต่อขยายได้ในรูปแบบโมดูลาร์ (Modular) คือสามารถเชื่อมต่อฐานลอยน้ำได้อย่างไม่จำกัด คิดง่าย ๆ ก็เหมือนฐานเลโก้หรือจิ๊กซอว์นั่นแหละ 555
ซึ่งพอได้ฐานที่มั่นคงแข็งแรง ทีนี้จะปรับเปลี่ยนต่อเติมรับน้ำหนักพื้นที่ได้ตามสิ่งปลูกสร้างด้านบน จะสร้างบ้านเรือน สำนักงาน อาคาร หรือสวนสาธารณะก็ออกแบบได้ตามความต้องการ
และมื่อจิ๊กซอว์ที่เป็นอาคารหลากหลายประเภทได้มาต่อกัน ก็จะกลายเป็นชุมชนเมืองที่เราสามารถอยู่อาศัยได้แบบปกติเหมือนอยู่บนพื้นดินเลย
ถึงเวลาเยียวยาสิ่วแวดล้อม
สิ่งที่ผมประทับใจอีกอย่างก็คือ Land on Water เค้าไม่ได้คิดแค่ว่าจะสร้างที่ดินใหม่ขึ้นมาเพื่อนทดแทนผืนดินที่เสียไปเท่านั้น แต่เค้ายังส่งเสริมความหลากหลายทางชีวภาพเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมด้วย
โดยระหว่างลอยอยู่ในน้ำ ฐานที่ออกแบบมาจะกลายเป็นที่อยู่อาศัยและแหล่งหากินสำหรับสัตว์และพืชใต้น้ำ ช่วยสร้างระบบนิเวศให้เจริญเติบโตมากยิ่งขึ้น
ซึ่งการที่เลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมก็ถือเป็นทางเลือกใหม่ที่แตกต่างไปจากการใช้โป๊ะพลาสติก โป๊ะเหล็ก หรือโป๊ะที่ทำจากคอนกรีตเหมือนที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบัน
เพราะนอกจากเคลื่อนย้ายยากแล้ว สีที่ใช้เคลือบวัสดุมักเป็นเคมีที่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อมด้วย คนอยู่ได้ สัตว์อยู่รอบ ธรรมชาติปลอดภัย เยียวยาสิ่งแวดล้อมจริง ๆ
เตรียมตัวก่อนวันนั้นจะมาถึง
ก็ถึงเป็นอีกหนึ่งโปรเจกต์ดี ๆ ที่น่าจะได้ใช้จริง ๆ ไม่ว่าน้ำจะท่วมหรือไม่ท่วมก็ตามเนอะ โดยทาง Marshall Blecher และ Magnus Maarbjerg ผู้ร่วมก่อตั้งสตูดิโอ MAST ทั้งสองคนเค้าก็หวังเช่นนั้นแหละ
ส่วนตัวผมก็คิดว่าโปรเจกต์นี้จะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีสำหรับชุมชนริมน้ำหรือเมืองที่ต้องประสบปัญหาสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงและน้ำในทะเลหนุนสูงขึ้นในอนาคตนะ
โดยปัจจุบัน MAST กำลังพัฒนาต้นแบบของระบบ Land on Water ซึ่งตั้งใจจะนำเสนอที่งาน UIA World Congress of Architects ในโคเปนเฮเกนปี 2566
เพื่อน ๆ คนไหนสนใจก็สามารถตามไปเยี่ยมชมกันได้ หรือถ้าใครชอบแล้วซื้อมาใช้งานที่ไทยก็หลังไมค์มาบอกกันด้วย ผมขอไปรีวิวหน่อย อุอิ
Tag : Land on Water | MAST | ระบบสิ่งปลูกสร้างลอยน้ำ
“ได้วิวแม่น้ำ สวยขนาดนี้เลยรึนี่?!“ เป็นความรู้สึกของผมตอนที่ขึ้นไปชั้น 38 วิวสวยแบบไม่มีอะไรมาบดบังเลย มีมุมที่เห็นสวนเบญจกิติด้วย
สำหรับผมแล้ว BTS สถานี "ห้าแยกลาดพร้าว" เป็น สถานี Interchange กับ MRT ที่ผมชอบที่สุด และมักจะเป็นทำเลที่ผมแนะนำ ให้คนมาอยู่อาศัยมากที่สุดอันดับต้นๆเลย
มีความท้าทายเล็กๆ กับการเปลี่ยนอดีต ’สถานทูตออสเตรเลีย‘ ให้กลายมาเป็น ‘Luxury Condo’ และ ’Mixed-Use’ ระดับ ’iconic’ ริม ’ถนนสาทร‘
'เกือบหลับ แต่กลับมาได้' จะมีโครงการไหนกันเชียวที่จะเหมาะกับคำนี้ ถ้าไม่ใช่ 'Hyde Riverbay Charoennakorn' (ไฮด์ ริเวอร์เบย์ เจริญนคร)
โครงการใหม่ของ Major ที่แน่มาก แกร่งมาก เพราะไม่หวั่นไหวกับการต้องถูกขนาบข้างโดย Sansiri แบบรั้วชนรั้วเลย!
'dcondo calm Ramkhamhaeng 40' (ดีคอนโด คาล์ม รามคําแหง 40) ก็เป็นอีกโครงการที่ผมบอกเลยว่า คุณจะลืมภาพจำของแบรนด์ดีคอนโดแบบเดิมๆ ไปแทบหมดสิ้น เพราะโครงการนี้ เค้าอยู่ใกล้รถไฟฟ้าถึง 2 สาย ทั้งสายสีส้มและสายสีเหลือง!!!
ไหนใครกำลังจะรีไฟแนนซ์กันบ้าง ใครกำลังผ่อนบ้านอยู่เพลิน ๆ นี่ห้ามลืมเด็ดเลยนะ เพราะหนี้บ้านพอพ้น 3 ปีแรก ดอกเบี้ยจะพุ่งขึ้นแบบก้าวกระโดดเลย
ขออวดว่าผมได้รีวิวหนังสือเล่มนี้ก่อนหนหน้านี้แล้วด้วยนะ อิอิ แต่ที่จริงผมไม่ได้ตั้งใจรีวิวหรอก แต่เป็นคนอ่านหนังสือแล้วชอบ ‘Short Note’ ประโยคดีๆ คมๆ เก็บไว้ แต่ปรากฏว่ามันโดนบาดเยอะมาก จนสามารถเอามาลงในเพจได้เลย
ช่วงนี้ผมชอบเข้าไปดูงานออกแบบของ Foster + Partners บ่อยสุดๆ คือรู้สึกได้เลยว่าเราอินกับสไตล์การออกแบบของเค้ามากๆ ซึ่งถ้าใครไม่รู้ว่าเค้าคือใคร Foster + Partners คือบริษัทที่ออกแบบ Apple Store ตรงเซ็นทรัลเวิลด์ นั่นแหละครับ น่าจะพออ๋อกันขึ้นมาบ้างเนอะ
ยุคนี้ใครเค้าเที่ยวต่างประเทศกัน คนรวยเค้าเที่ยวนอกโลกครับ!
Apple Store นี่ไม่ว่าจะไปเปิดสาขาที่ไหน ก็สามารถกลายเป็นแลนด์มาร์คของที่นั้นๆ ได้ตลอด ล่าสุดเค้าเพิ่งเปิดสาขาใหม่ที่ประเทศมาเลเซีย ไปหมาดๆ เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน ที่ผ่านมานี่เอง ซึ่งนี่เป็นสาขาแรกของมาเลเซีย
เดือน 7 กำลังจะผ่านพ้นอีกแล้วนะครับ ตอนนี้อากาศกำลังชุ่มฉ่ำแบบสุด ๆ ไปเลย ซึ่งหลายเดือนที่ผ่านมามีสัญญาณว่าดอกเบี้ยแบบคงที่เริ่มกลับมาแล้วนะ